นักตบสาวไทย อัด ญี่ปุ่น 3-1 เซต ประเดิมชัย เอวีซี คัพ 2018

 

การแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง SMM “เอส-โคล่า” เอวีซี คัพ ครั้งที่ 6 ปี 2018 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 ที่สนามชาติชาย ฮอลล์ จังหวัดนครราชสีมา ทีมชาติไทย ลงสนามนัดแรก กลุ่ม เอ พบกับ ญี่ปุ่น ที่ลงแข่งขันนัดที่สอง โดยเกมแรกแพ้ เกาหลีใต้ 1-3 เซต

เกมนี้ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทย ส่ง พรพรรณ เกิดปราชญ์, หัตถยา บำรุงสุข, อรอุมา สิทธิรักษ์, วัชรียา นวลแจ่ม, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, อัจฉราพร คงยศ เริ่มต้น 6 คนแรก โดยมี ปิยะนุช แป้นน้อย กับ สุพัตรา ไพโรจน์ เป็นตัวรับอิสระ

ด้าน ญี่ปุ่น ใช้งานผู้เล่น 6 คนแรก ประกอบด้วย มิวาโกะ โอซานาอิ, ไรอิ คุโด, ซูริ ยามากูชิ, นิชิกะ ยามาดะ, ฮิโต มิชิโอดะ, มาอิ อิริซาวะ โดยมี โมอิริ ฮานาอิ กับ ไรนะ มิซูสุกิ เป็นตัวรับอิสระ

เริ่มเกมเซตแรก ไทยทำแต้มออกนำ แต่ญี่ปุ่นยังตื้อได้ดี สองทีมสลับทำแต้มมาถึงช่วงท้าย ญี่ปุ่นได้ขึ้นเซตพอยต์ก่อน แต่ไทยยังไล่มาทัน 24-24 ต้องดิวส์ตัดสิน ก่อนที่อัจฉราพรจะขึ้นตีบอลแฉลบบล็อกญี่ปุ่นออก ไทยชนะ 28-26 ขึ้นนำ 1-0 เซต

เซตสอง กลายเป็นญี่ปุ่นที่ลงมาเล่นด้วยความมั่นใจทำแต้มนำห่างไทยตั้งแต่ต้นเกม แม้สาวไทยจะพยายามเร่งเครื่องลดช่องว่างลง แต่ญี่ปุ่นจะเด็ดขาด สามารถปิดเซตได้ด้วยคะแนน 25-21 ตีเสมอ 1-1 เซต

เซตสาม สองทีมออกตัวด้วยฟอร์มที่สูสี ทั้งเกมรับและเกมรุก ทำแต้มสลับกันจนมาถึงช่วงท้าย เท่ากันที่ 24-24 และต้องดิวส์คะแนนพิเศษอีกเซต และยังเป็นทีมไทยที่จังหวะเข้าทำดีกว่า ปิดเซตชนะ 27-25 ขึ้นนำ 2-1

เซตสี่ สาวไทยกลับมาอยู่ในฟอร์มเก่ง ขณะที่ญี่ปุ่นเองเริ่มเกิดข้อผิดพลาดในการเล่น ไทยทำแต้มนำห่างก่อนจะปิดเกมชนะ 25-17

สรุปผลการแข่งขัน ไทย ชนะ ญี่ปุ่น 3-1 เซต 28-26, 21-25, 27-25, 25-17 สาวไทย ชนะเกมในนัดแรก ส่วน ญี่ปุ่น ลงสนาม 2 นัด และแพ้ทั้ง 2 นัด จบอันดับ 3 ของกลุ่มแน่นอนแล้ว

นัดต่อไป ทีมชาติไทย จะลงชิงอันดับ 1 ของกลุ่ม พบกับ เกาหลีใต้ ในวันที่ 18 กันยายน 2561 เวลา 18.30 น. ติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ไทยรัฐทีวี

 

“จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ” ร่วมแรงร่วมใจสร้างฝายกักเก็บน้ำในพื้นที่ห่างไกล

จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ร่วมแรงร่วมใจสร้างฝายกักเก็บน้ำในพื้นที่ห่างไกล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเกียรติ ทองครบุรี ผู้ใหญ่บ้านคอกช้าง หมู่ที่ 11 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี   จ.นครราชสีมา นำประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจในพื้นที่ กว่า 50 คน ช่วยกันก่อสร้างฝายน้ำล้นเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้ง เนื่องจากหมู่บ้านคอกช้างไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและ จนเกิดเป็นปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งเป็นประจำทุกปี  อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยดูแลผืนป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี และอุทยานแห่งชาติทับลาน จึงยังไม่มีระบบสาธารณูปโภคทั้งน้ำประปาและไฟฟ้า

ประกอบกับก่อนหน้านี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนกว่า 4 แสนบาท เพื่อมาช่วยทำการขุดลอกคลองน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้านไว้ให้แล้ว ทางชุมชนจึงช่วยกันระดมทุนและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆเพื่อมาสร้างฝายน้ำล้นไว้กักเก็บน้ำ โดยประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ได้ช่วยกันสร้างฝายน้ำล้นจำนวน 2 ตัว ให้ลดหลั่นกันไปแบบขั้นบันได ให้สามารถกักเก็บน้ำเป็นระยะๆ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูน้ำหลาก ปริมาณน้ำทั้งหมดที่ไหลลงมาจากเขาคอกช้างซึ่งอยู่ด้านบน จะไหลผ่านหมู่บ้านจนไม่มีเหลือ เพราะบริเวณหมู่บ้านเป็นที่สูงและไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าฝายที่สร้างขึ้นใหม่นี้จะสามารถกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ ไว้ให้ได้ใช้ต่อไปในอนาคต

>คลิป<<

 

สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา บูรณะโบราณสถานฉุกเฉิน ประตูชุมพล อายุกว่า 362 ปี

สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา บูรณะโบราณสถานฉุกเฉิน ประตูชุมพล อายุกว่า 362 ปี สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือ คุณย่าโม ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้ทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2477 ประดิษฐานที่หน้าประตูชุมพล หรือเมื่อ 84 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนทั่วไปมีความเชื่อว่า ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ ขอพรอะไรจะได้ตามใจหมาย จนเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ อีกทั้งท่านคือวีรสตรีผู้กอบกู้เมืองโคราช แต่เดิมนั้นประตูชุมพล เป็นประตูเมืองทางทิศตะวันตกของเขตเมืองเก่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองนครราชสีมาเป็นเมืองหน้าด่านเมื่อ ปี 2199 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์เสด็จขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา และโปรดเกล้าฯให้สร้างกำแพงประตูเมืองอย่างแข็งแรง เพื่อป้องกันการรุกรานจาก เขมร ญวน ลาว โดยเกณฑ์ช่างจากกรุงศรีอยุธยา เกณฑ์แรงงานจากเมืองโคราชและเมืองเสมาช่วยกันสร้างขึ้น ซึ่งในขณะนั้นมีนายช่างชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบและวางผังเมืองให้ ปัจจุบันได้ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ทางสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา จึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานฉุกเฉินเร่งด่วน

ด้าน นายจารึก วิไลแก้ว ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ตามโครงการบูรณะโบราณสถานฉุกเฉินเร่งด่วน งบลงทุน (ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง) เพื่อใช้ซ่อมแซมประตูชุมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีห้างหุ้นส่วนจำกัด ปุราณรักษ์ เป็นคู่สัญญา เป็นจำนวนเงิน ทั้งสิ้น 256,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยสัญญาเริ่มต้นวันที่         10 สิงหาคม 2561 สิ้นสุด วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 ตามสำเนาสัญญาจ้าง เลขที่ 5/2561 ลงวันที่        15 สิงหาคม 2561

ด้านนักท่องเที่ยว เล่าว่า การที่มีการซ่อมแซมประตูชุมพล ใหม่นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากว่าเป็นประตูเก่าแก่ ที่ยังคงมีโครงสร้างเก่าหลงเหลืออยู่ สืบทอดให้คนรุ่นหลังได้ดูและศึกษาประวัติศาสตร์จากอดีตถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นหน้าตาของชาวจังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย

>คลิป<<

โรงพยาลบาลมหาราชนครราชสีมาประชุมวิชาการครบรอบ 109ปี ในเขตสุขภาพที่9 -คุณเบสท์ บรรยาย จิตอาสา จิตสาธารณะ สุขใจ ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยคารมนำพาพยาบาลแพทย์บุคลากรทางสาธารณสุข!!แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่

โรงพยาลบาลมหาราชนครราชสีมาประชุมวิชาการครบรอบ 109ปี ในเขตสุขภาพที่9  –คุณเบสท์ บรรยาย จิตอาสา จิตสาธารณะ สุขใจ ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยคารมนำพาพยาบาลแพทย์บุคลากรทางสาธารณสุข!!แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่

 

.เมื่อวันที่ 17 กันยายนพ.ศ.2561ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นายแพทย์สมชัย อัศวสุดสาคร ผู้อำนวยการโรงพยาลบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ ครบรอบ 109 ปี วันสถาปนาโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

การประชุมครั้งนี้ได้จัดการบรรยายทางวิชาการ เน้นด้านอุบัติเหตุสาธารณภัย และการเตรียมความพร้อมของบุคลากรสาธารณสุข การเสนอโปสเตอร์ผลงานความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุขของโรงพยาบาลฯ และกิจกรรมสัปดาห์บอกรัก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

 

“บอกรักได้บุญ”เพื่อประชาสัมพันธ์และเชิญร่วมสมทบทุนก่อสร้างอาคารศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉินประกอบกับในปีนี้ได้มีกิจกรรม “109 มหาราช” เพื่อสมทบทุนก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน) ซึ่งได้จัดกิจกรรม ๑๐๙ มหาราช Charity Concert  และ 109มหาราช Run for Life ไปแล้ว กิจกรรมประชุมวิชาการครบรอบ 109ปี ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมดังกล่าว ผู้ร่วมประชุม คือ ผู้บริหารสาธารณสุข แพทย์บุคลากรทางสาธารณสุขในเขตสุขภาพที่9

 

จัดงานวันที่ 17-18กันยายน 2561 คาดว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์และสาธารณสุขที่จะได้รับความรู้และนวตกรรมทางการรักษาพยาบาล ได้เรียนรู้ประสบการณ์จากการทำงานที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตนเองและหน่วยงาน อนึ่งการประชุมวิชาการครั้งนี้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้รับเกียรติจาก พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา บรรยายพิเศษ         “เล่าประสบการณ์ช่วยชีวิต 13 หมูป่าในถ้ำ : การเตรียมความพร้อมของทีมรักษาพยาบาล” และคุณอรพิมพ์ รักษาผล      หรือคุณเบสท์ บรรยายพิเศษ เรื่อง จิตอาสา จิตสาธารณะ สุขใจ ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วย

นายแพทย์สมชัย อัศวสุดสาคร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามีนโยบายจัดประชุมวิชาการเป็นประจำทุกปีในช่วงครบรอบวันก่อตั้งของโรงพยาบาล สำหรับในปี2561 การจัดประชุมวิชาการครบรอบ 109 ปี ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงาน ชื่อเสียง ความสามารถในด้านการให้บริการด้านวิชาการ งานวิจัย และการเรียนการสอน รวมทั้งการพัฒนาเครือข่ายของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ภายใต้คำขวัญ “109มหาราช โรงพยาบาลของประชาชน” การประชุมครั้งนี้ได้จัดการบรรยายทางวิชาการ               

กล้วยทอด 3 พระหน่อ ‘ไม่อร่อยให้ถีบ’สร้างยอดขายวันละ 2-3 พันบาท

                ทำดีมีรวย กล้วยทอดชื่อแปลก 3 พระหน่อ ‘ไม่อร่อยให้ถีบ’ สร้างยอดขายวันละ 3 พันบาท สูตรเด็ด ‘ผสมกลอย’ กรอบ อร่อย ไม่อมน้ำมัน  นอกจากนี้ คนสนใจทางร้านยังขายแฟนไชน์ราคาไม่แพง เพื่อเปิดโอกาสให้คนหาอาชีพสร้างตัวได้ ลงทุนน้อยรายได้ดี

                คุณวัลยา เจ้าของร้าน กล้วยทอด 3 พระหน่อ ‘ไม่อร่อยให้ถีบ’ กล่าวว่า ชื่อของร้านจริงๆคือ กล้วยทอด 3 พระหน่อ มาจากลูกสามคน ส่วนอีกชื่อไม่อร่อยให้ถีบ เพราะว่ากล้วยทอดส่วนใหญ่ก็รสชาติหรือชื่อคล้ายๆกัน เราเลยตั้งชื่อให้เป็นสโลแกนจุดเด่นจุดขายของร้าน นอกจากชื่อที่เด่นแล้ว รสชาติและสูตรเด็ดก็ไม่เหมือนใคร สูตรแป้งทอดกล้วยของเราเป็นของคุณยาย อร่อย กรอบ ไม่อมน้ำมัน และพิเศษ ทางร้านเราผสม’กลอย’ ลงไปด้วย เพิ่มรสชาติและความกรุบกรอบ และสรรพคุณของกลอยยังทำให้กล้วยทอดไม่อมน้ำมันอีกด้วย ร้านเราเปิดขายทุกวัน เปลี่ยนน้ำมันทอดทุกวัน เปิดขายตั้งแต่ 09.00- 16.00 น. ตั้งแต่ขายมายังไม่มีลูกค้ามาถีบสักราย เพราะร้านเรารสชาติอร่อยจริงๆ (หัวเราะ)

คุณวัลยา เล่าอีกว่า ร้านเราใช้กล้วยน้ำว้ากำลังห่ามในการทอดวันละ 20 หวี ต่อแป้งทอดที่ผสมไว้แล้ว 7- 8 กิโลกรัมต่อวัน แต่ถ้าหากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องเพิ่มปริมาณแป้งและกล้วยเป็น 30 หวี แป้งทอดกรอบประมาณ 15 กิโลกรัม เพราะลูกค้าจะเยอะทั้งโทรสั่ง ทั้งขายหน้าร้าน และเดินขายสี่แยกไฟแดงด้วย แค่ลูกค้าบีบแตรเรียกวิ่งไปส่งถึงรถเลย ราคาขายถุงละ 20 บาท นอกจากกล้วยทอด ยังมีมันทอดด้วย สร้างรายได้วันละอย่างน้อย 1,500 บาท สูงสุด 3,000 บาท ต่อวัน ลูกค้ามาอุดหนุนแน่นเพราะว่าติดสี่แยกไฟแดงด้วย เวลารถหยุดลูกค้าจะเรียกซื้อง่ายมากเพราะร้านเด่นและชื่อแปลกดีน่าลองทาน และมีอีก 1 สาขาอยู่ข้างวัดศาลาลอย

นอกจากนี้ ทางร้านยังขายแฟนไชน์ด้วยในราคาถูกเพียง 5,900 บาท และทางเราก็จำกัดโซนขายให้ด้วยไม่ให้ขายใกล้กันจนเกินไป สิ่งที่ลูกค้าซื้อแฟนไชน์ไปและจะได้รับคือ แป้งผสมสำเร็จที่เราผสมไว้ให้ และบอกสูตร สอนการทำ การตวงปริมาณวัตถุดิบต่างๆอีกด้วย เพื่อนำไปเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว ทั้งนี้ ลูกค้าที่อยากจะชิมอุดหนุนกล้วยทอด 3 พระหน่อ ไม่อร่อยให้ถีบไปได้ทั้ง 2 สาขา คือ สาขา 1 (ข้างวัดศาลาลอย) ติดร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดกะละมัง สาขา 2 (ตรงนี้) อยู่ด้านหน้า ห้างโลตัสเอ็กเพรส สาขา สี่แยกไฟแดงประตูพลล้าน- ทุ่งสว่าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 095-9654699 และ 084-9617779 และแฟนเพจชื่อ กล้วยทอดไม่อร่อยให้ถีบ

 Cr. โคราชอินไซด์

คนร้ายบุกพังบ้านเสี่ยไร่มันขณะบวชเป็นพระ ได้เงินสด ทองคำ บัญชีเงินฝากรวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท>>มีคลิป

คนร้ายบุกพังบ้านเสี่ยไร่มันขณะบวชเป็นพระ ได้เงินสด ทองคำ บัญชีเงินฝากรวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากพระจักรา อู่ทอง อายุ 34 ปี   เจ้าของบ้านเลขที่ 135 หมู่ที่ 7 ต.ตะแบกบาน  อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่าถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกงัดบ้านพักรื้อค้นเอาทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านรวมถึงตู้เซฟบรรจุสิ่งของมีค่า หลบหนีไป ซึ่งทางผู้เสียหายมาพบร่องรอยการงัดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา  และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังต้องรอหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐาน และรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายอีกขั้น

เบื้องต้น พระจักรา เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตนเองนั้นเพิ่งบวชเป็นพระเมื่อเดือนกรกฎาคม 61 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนบวชนั้นได้เก็บเกี่ยวมันสำปะหลังและผลผลิตทางการเกษตรหลากหลายอย่างทั้ง ที่ดินของตนเองและที่ดินเช่าเหมารวมกับคนอื่นเกือบ 200 ไร่ ซึ่งได้เงินจากการเก็บเกี่ยวมานับล้านบาท แต่ยังไม่ทันได้นำไปฝากทั้งหมดก็ต้องบวชเสียก่อน จึงนำเงินที่เหลืออยู่ไปเก็บไว้ภายในเซฟที่อยู่ภายในบ้าน และส่วนหนึ่งก็จะเก็บไว้ลงทุนต่อ ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นไม่มีใครอยู่ในบ้านเพราะภรรยาไปทำงาน แม่ยายกลับไปเยี่ยมบ้านที่อำเภอโนนสูง จ.นครราชสีมา ส่วนลูกก็ไปเรียน ตั้งแต่เช้า

สำหรับทรัพย์สินที่หายไป เป็นเงินสดที่รวบรวมไว้เพื่อเตรียมจะทอดกฐินหลังอออกพรรษาจำนวนอยู่ภายในกระเป๋าที่อยู่นอกเซฟจำนวน 200,000 บาท ส่วนในเซฟมีเงินสด 500,000 บาท ทองรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 25 บาท รวมถึงบัญชีเงินฝากธนาคารอีก 2 แห่ง รวมเงินในบัญชีประมาณ  1.5 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่สูญหายทั้งสิ้นประมาณ 2.5 ล้านบาทล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดชุดสายสืบลงพื้นที่ติดตามหาข่าวและเก็บข้อมูลหลักฐานต่างมาประกอบการสืบสวนคดีแล้ว และอยู่ระหว่างการรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

 

 

ตำรวจภาค3จัดกิจกรรสรุปบทเรียนสะท้อนคิด ในโครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมรถผู้เสียชีวิตจาก อบถ.

ตำรวจภาค3จัดกิจกรรสรุปบทเรียนสะท้อนคิด ในโครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมรถผู้เสียชีวิตจาก อบถ.


วันที่ 13 กันยายน 2561โรงแรมแคนทารีโคราชห้องลำตะคอง 3 จังหวัดนครราชสีมาจัดกิจกรรมสรุปบทเรียนสะท้อนคิดโครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมรถผู้เสียชีวิตจาก อบถ.โดย โดยพลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 ประธาน พล.ต.ต. โกสินทร์ หินเธาว์ผู้ดำเนินการเสวนาและผส.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข (สสส. )ผู้ดำเนินรายการ
การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงดังกล่าวจึงอยู่ที่เฉลี่ยอยู่ที่12,153 รายต่อปีหากคิดเป็นมูลค่าความสูญเสียที่ลดลงตามที่ธนาคารโลกได้มีการศึกษาไว้ในการเสียชีวิต 1 คนมีมูลค่าความสูญเสียอยู่ที่ 6.2 ล้านประเทศไทยจึงมีความสูญเสียถึง7,538,600,000บาทและยังมีการเสียชีวิตต่อประชากรแสนคนสูงเป็นอันดับที่สองอยู่ที่ 36.2 ต่อประชากรหนึ่งแสนคนและอาจถึงลำดับ 1 ของโลกหากยังไม่ดำเนินการแก้ไข

ตำรวจภูธรภาค 3มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่อีสานใต้เป็นพื้นที่ที่ที่มีปริมาณรถสัญจรผ่านไปมาในเขตพื้นที่จำนวนมากตลอดทั้งปีเนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เชื่อมโยงติดต่อกับพื้นที่ข้างเคียงกับภาคอื่นอีกทั้งยังมีการตัดถนนเพิ่มขึ้นจำนวนมากทำให้สถานการณ์แนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมาซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบและประชากรมากที่สุดในประเทศไทยเป็นประตูสู่อีสานเส้นทางคมนาคมยาวกว่า 8,000 กิโลเมตรมีทางหลวงสายสำคัญเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในปี 2560 มีจำนวนถึง 512 รายเป็นอันดับ 1 ของประเทศ
ตำรวจภูธรภาค 3 จึงได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)โดยมีมูลนิธิป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและอาชญากรรมเป็นที่ปรึกษาจัดทำโครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมในการลดสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนพื้นฐานระหว่างงานสืบสวนอบถ.ตำรวจภูธรภาค 3ใน 8 จังหวัดที่รับผิดชอบระวังเดือนกุมภาพันธ์ 2561ถึงเดือนธันวาคม 2561 ทำการสืบสวนวิเคราะห์หาสาเหตุและสร้างสรรค์นวัตกรรมในการป้องกันอุบัติเหตุพบว่าเกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่เป็นปัจจัยหลักไม่ว่าจะเป็นการขับรถเร็วเกินกําหนดตัดหน้ากระชั้นชิดหลับในเมาแล้วขับเป็นสาเหตุหลักโดยมีรถถนนและสภาพแวดล้อมเป็นองค์ประกอบรองลงมาอีกครั้งพบว่าร้อยละ 80 ของผู้เสียชีวิตไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยเช่นไม่สวมหมวกนิรภัยไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจึงได้จัดทำนวัตกรรมในการลดอุบัติเหตุคือนวัตกรรมทำคนน้อยให้เป็นคนมากโดยให้ตำรวจสายตรวจช่วยกวดขันการสวมหมวกนิรภัยการคาดเข็มขัดนิรภัยนอกเหนือจากการออกตรวจปกตินวัตกรรมบูรณาการภาคีเครือข่ายช่วยระดมความคิดกำหนดแนวทางนวัตกรรมคัดเลือกหมู่บ้านวินัยจราจรนวัตกรรมขับขี่ปลอดภัยของหน่วยงานรัฐนวัตกรรมรวมใจเป็นหนึ่งลดอุบัติเหตุจราจรนวัตกรรมป้ายช่วยชีวิตนวัตกรรมยางสีชี้ขอบถนนนวัตกรรมมอเตอร์ไซค์คู่ใจวัยโจ๋นวัตกรรมสะท้อนแสงปลอดภัยใส่ใจอุบัติเหตุนวัตกรรมจุดจอดปลอดภัยนวัตกรรมปรับพื้นฐานจิตใจสร้างวินัยจราจรที่จะดำเนินร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทั้ง 8 จังหวัดขับเคลื่อนไปด้วยกันจากการดำเนินการในห้วงที่ผ่านมาเมื่อเปรียบเทียบสถิติผู้เสียชีวิตระหว่างฐานข้อมูลของตำรวจภูธรภาค 3 2561 จากสถิติผู้เสียชีวิตจากสาธารณสุขจังหวัดปีพศ. 2560 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคมพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลดลงเหลือถึงร้อยละ 20 .2( ข้อมูลเมื่อวันที่ 11 ก.ย.61)
ในวันนี้ตำรวจภูธรภาค 3 ได้จัดกิจกรรมสรุปบทเรียนสะท้อนคิดโครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมรถผู้เสียชีวิตจากอบถ.ฯโดยให้ผู้นำหน่วยในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 และภาคีเครือข่ายได้มีส่วนร่วมระดมความคิดเห็นและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพิ่มเติมมุมมองประสบการณ์ระหว่างกันเพื่อให้เกิดการทบทวนวิธีคิดกระบวนการทำงานและมีแนวโน้มในการพัฒนาการป้องกันอุบัติเหตุต่อไปอย่างยั่งยืน
สถานการณ์ด้านความปลอดภัยทางถนนของโลกเขียนถึงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งโลกในช่วงปี 2558-2560มีจำนวนหลายล้านคนแม้ว่าจะมีการกำหนดมาตรการแนวทางต่างๆในช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่ยังไม่สามารถหยุดยั้งการเสียชีวิตบนท้องถนนได้อย่างที่คาดหวังไว้

https://youtu.be/eA5cMzgrzrI

ตำรวจครบุรีโคราช รวบเครือข่ายยาบ้าแก๊ง “มันทุกเม็ด” พร้อมของกลางกว่า 1,200 เม็ด>>มีคลิป

ตำรวจครบุรีโคราช รวบเครือข่ายยาบ้าแก๊ง “มันทุกเม็ด” พร้อมของกลางกว่า 1,200 เม็ด

ที่ห้องงานสืบสวน สภ.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.กมล วงศ์แสนสาน สารวัตรสืบสวน สภ.ครบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมทำการสอบากคำ นายนนทพัทธ์ หรือ อ๊อฟ  นินดีสระน้อย อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 140 หมู่ที่ 16 ต.หนองบุญมาก อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา  หนึ่งในสมาชิกเครือข่ายยาบ้าแก๊ง “มันทุกเม็ด” หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนติดตามจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,233 เม็ด เมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ครบุรี ทำการสืบสวนขยายผลจากผู้เสพยาบ้าในพื้นที่ จนทราบว่านายนนทพัทธ์ เป็นหนึ่งในเอเย่นที่นำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่อำเภอครบุรี จึงทำทีติดต่อขอซื้อยาบ้าจากนายนนทพัทธ์ จนนายนนทพัทธ์ หลงเชื่อและนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับสายลับ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 110 เม็ด ซึ่งบรรจุถุงสีดำมีตรารูปแอปเปิ้ลใส่มาในกระเป๋าเสื้อ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปค้นที่บ้านพักตามบัตรประชาชน ที่อำเภอหนองบุญมาก พบยาบ้าเพิ่มอีกจำนวน 1,123 เม็ด จึงนำตัวมาทำการสอบสวนขยายผล

พ.ต.ท.กมล วงศ์แสนสาน สารวัตรสืบสวน สภ.ครบุรี เปิดเผยว่า จากการสืบสวนในเบื้องต้นพบมีหลักฐานการติดต่อซื้อขายยาบ้าผ่านทางโทรศัพท์โดยผู้ต้องหาใช้เฟสบุ๊คในการติดต่อนำยาบ้ามาจากเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ของประเทศคือ แก๊งมันทุกเม็ด และผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าติดต่อกลับเครือข่ายดังกล่าวจริง แต่อ้างว่าถูกล่อลวงให้เข้ามาเกี่ยวพัน เนื่องจากเป็นคนที่ไม่มีงานทำ และเครือข่ายแก๊งมันทุกเม็ดก็เป็นผู้ติดต่อเสนองานมาให้ทำจึงสมัครเข้าไปลองทำดู โดยเงื่อนไขในการสมัครต้องส่งเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนและรหัสเข้าถึงเพสบุ๊คไปให้ทางเครือข่ายแก๊ง  จากนั้นก็จะได้รับการติดต่อให้ไปรับสิ่งของมาจำหน่ายโดยที่ผู้ต้องหาไม่รู้ว่าเป็นอะไร  จนเห็นของจึงรู้ว่าเป็นยาบ้า แต่จะถอนตัวก็ไม่ได้เพราะทางแก๊งมันทุกเม็ดข่มขู่ว่าจะส่งคนมาทำร้ายร่างกาย พร้อมกับส่งคลิปการณ์รุมทำร้ายคนอื่นๆมาข่มขู่ จึงจำเป็นต้องทำตามคำสั่ง  กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการสวบสวนขยายผลเพิ่มเติมหาเครือข่ายที่ยังเหลืออยู่มาดำเนินคดี ก่อนจะแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หนุ่มโคราช ระดมเงินสร้างเมรุเผาสัตว์เลี้ยงเป็นสาธารณะประโยชน์ให้คนรักสัตว์อุทิศส่วนกุศลในวาระสุดท้าย

หนุ่มเมืองโคราช รักสุนัขเหมือนคนในครอบครัว ระดมเงินสร้างเมรุเผาสัตว์เลี้ยงเป็นสาธารณะประโยชน์ให้คนรักสัตว์อุทิศส่วนกุศลในวาระสุดท้าย

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ โย เซฟวัน ได้โพสต์ ภาพบรรยากาศการประกอบพิธีส่งมอบสถานที่ศาลา และเตาเผาสัตว์เลี้ยงให้วัดหนองปรู มีข้อความระบุว่า “ ฝากแชร์ มีแล้วโคราช เตาเผาสัตว์เลี้ยงไม่คิดค่าบริการ      ( จ่ายแค่ค่าถ่านไม่เกิน 200 บาท) เปิดให้ใช้งานแล้ว ทางเข้าประตู 1 มทส. วัดหนองปรู Cr ภาพ ED kitda ” ได้รับความสนใจจากชาวเน็ต และคนรักสัตว์ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่วัดหนองปรู หมู่ 4 ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบสิ่งปลูกสร้างคล้ายเมรุ แต่มีขนาดเล็กกว่า ทาสีขาวทั้งหลัง พร้อมมีเตาเผาขนาดเล็กอยู่ภายใน รอบบริเวณตั้งรูปปั้นสุนัขกว่า 10 ตัววางรอบบริเวณทางขึ้น โดยมี นายยุทธนา หรือโย  ชัยศิริ อายุ 40 ปี เจ้าของธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอที ตลาดเซฟวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นผู้ระดมเงินบริจาคก่อสร้าง ฯ นำเดินชม และอธิบายสาเหตุในการดำเนินการ

นายยุทธนา หรือโย ฯ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน ปีที่ผ่านมา “น้องอุษา” สุนัขพันธุ์ เฟรนช์ บูลด็อก เพศเมีย วัย 4 ปี เป็นสุนัขคู่ใจ เลี้ยงดูเป็นอย่างดี ราวกับสมาชิกในครอบครัว ได้ตายด้วยโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก มีความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ด้วยความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงตนต้องการให้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจ แต่ในพื้นที่ มีสถานที่เพื่อประกอบพิธีให้สัตว์เลี้ยงเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ในวาระสุดท้าย ไม่เพียงพอ

จนกระทั่งพบว่าที่วัดหนองปรู ฯ มีเตาเผาสำหรับสัตว์เลี้ยง แต่มีสภาพทรุดโทรม ไม่สามารถรองรับสุนัขที่มีขนาดใหญ่ได้ จำเป็นต้องก่อสร้างใหม่ โชคดีที่ผ่านมาตน และน้องอุษา เคยร่วมกิจกรรมกับมูลนิธิ องค์กรเกี่ยวกับการดูแลอุปการะสัตว์ รวมถึงโรงพยาบาลรักษาสัตว์ และเครือข่ายผู้รักสัตว์ ได้ร่วมกัน ระดมเงินทุนใช้ในการก่อสร้าง ฯ มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากวัดหนองปรู ให้ใช้พื้นที่ดำเนินการก่อสร้าง พร้อมฝังเถ้ากระดูกของ “น้องอุษา” ไว้ด้านใต้ศาลา ฯ ใช้ชื่อ “ ศาลาอุษาวดี และเตาเผาสัตว์ ” ให้เป็นสาธารณะประโยชน์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณ “ น้องอุษา ” ไปสู่ภพภูมิที่ดี

ประชาชนทั่วไปสามารถนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาใช้บริการได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงไม่เกิน 200 บาท ส่วนเงินบริจาคในการประกอบพิธีสวดบังสุกุล คล้ายกับการเผาศพของคนแต่มีการตัดบทสวดมนต์ออกไป รวมทั้งเงินค่าบำรุงวัด ไม่กำหนด อยู่ที่กำลังทรัพย์ ความสมัครใจของเจ้าภาพ ติดต่อนัดหมายเพื่อประกอบพิธีฯ ได้ที่พระสุทัศน์  กิตฺติสาโร ( สืบแสนศรี) หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 098 -5454336

Cr.ประสิทธิ์ วนะชกิจ

 

โครงการ “พี่ทหารสานฝันก้าวสู่ Thailand 4.0” รุ่นที่ 6/2561”

พิธีเปิดโครงการ“พี่ทหารสานฝันก้าวสู่ Thailand 4.0 รุ่นที่ 6”

วันที่ 11 กันยายน 2561เวลา 13.30น.พิธีเปิดโครงการ “พี่ทหารสานฝันก้าวสู่ Thailand 4.0” รุ่นที่ 6/2561” ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21อ.เมือง จ.นครราชสีมา
โดยพลโท ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2ประธาน
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31ผู้อำนวยการสถานศึกษาและน้องๆ เยาวชนที่รักทุกคน
พิธีเปิดโครงการ“พี่ทหารสานฝันก้าวสู่ Thailand 4.0 รุ่นที่ 6” โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักนายกรัฐมนตรีกองทัพภาคที่ 2และกระทรวงศึกษาธิการเป็นโครงการที่เสริมสร้าง ความพร้อมให้เยาวชนซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายนำไปเตรียมตัวในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้จากวิทยากรที่มีชื่อเสียงมีความสามารถ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและพร้อมเติบโตเป็นประชากร ของประเทศชาติที่มีคุณภาพนำความรู้ความสามารถไปพัฒนาประเทศของเราต่อไปและสิ่งที่สำคัญคือ
เราจะต้องเป็นคนดีไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมีความรักชาติ เทิดทูนสถาบันศาสนาและพระมหากษัตริย์มีความรัก ต่อสถาบันครอบครัวและสังคมมีคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำพาให้ชีวิตมีความสุขประเทศชาติ มีความเจริญก้าวหน้าผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในห้วงเวลาที่ได้เรียนรู้ในโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ สถานศึกษาส่วนราชการ ที่ให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง ทำให้โครงการ “พี่ทหารสานฝันก้าวสู่ Thailand 4.0รุ่นที่ 6 ครั้งนี้เกิดขึ้นและบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นอย่างดี
วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร์เทพยวรางกูร เพื่อยกระดับ เตรียมความพร้อมนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อสนองนโยบาย พัฒนาสังคมด้านสังคม มุ่งกระจายโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม เพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนในทุกด้าน ให้ก้าวสู่นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการปฏิรูปประเทศในทุกๆด้านรวมทั้งปลูกฝังเยาวชนมีความรักชาติ ในสถาบันชาติปฏิบัติตนตามหลักของศาสนาและมีความเคารพเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ โดย มีนักเรียนศึกษาวิชาทหารจากศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหารมณฑลทหารบกที่ 21 มณฑลทหารบกที่ 25 และมณฑลทหารบกที่ 26 เข้าร่วมโครงการจำนวน 1,000 คน และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 6 สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 600 คนรวมทั้งสิ้น 1,600 คน การดำเนินการครั้งนี้ ได้รับข้อมูลมาจากสำนักนายกรัฐมนตรี รายการสั่งซื้อของที่ระลึกให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการรวมทั้งได้รับความร่วมมือจาก ผู้อำนวยการโรงเรียน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจารย์ ศักดิ์ครินซ์ จงหาญ ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์สถานที่ในการจัดกิจกรรม ตามโครงการการในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าว​รายงานว่่าในการจัดงาน​ครั้งนี้​ มีการจัดกิจกรรม​การแสดง​ พูดคุย​ให้รางวัลแก่นักเรียนที่ตอบคำถาม​ต่อจากนั้นก็ได้ถ่ายรูปหมู่คู่กันกับนักเรียน​และนักศึกษาวิชาทหาร​กันอย่างเป็นกันเองกับพันโทนายแพทย์ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 และครูนะอาจารย์ภาษาอังกฤษ ผู้จัดการโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ