โรงเรียนบุญวัฒนา โคราช เตรียมจัดงาน “45 ปี กลับบ้านเรา คืนสู่เหย้าชาวฟ้าแดง”

งานรวมรุ่น โรงเรียนบุญวัฒนา โคราช เตรียมจัดงาน “45 ปี กลับบ้านเรา คืนสู่เหย้าชาวฟ้าแดง

ที่ห้องประชุมเอกดวงเดือน โรงเรียนบุญวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ในฐานะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนบุญวัฒนา เป็นประธานแถลงข่าวจัดงาน “45 ปี กลับบ้านเรา คืนสู่เหย้าชาวฟ้าแดง” พร้อมด้วย คณะกรรมการสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนบุญวัฒนา เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

โดยในปีนี้โรงเรียนบุญวัฒนาครบรอบการก่อตั้งปีที่ 45 จึงได้มีการจัดงาน “45 ปี กลับบ้านเรา คืนสู่เหย้าชาวฟ้าแดง” ในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 เพื่อให้นักเรียนเก่าได้พบปะสังสรรค์ และกลับมาเยี่ยมโรงเรียน พร้อมกับแสดงมุทิตาจิตแด่คุณครู ที่เคยได้อบรมสั่งสอน จนทุกคนประสบความสำเร็จ โดยจะมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่นักเรียนเก่า ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียน ประเทศชาติและผู้ที่บริจาคเงินเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และหารายได้เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

ทั้งนี้ ในวันจัดงานนั้นในช่วงเช้าได้มีการจัดนิทรรศการผลงานยอดเยี่ยมของนักเรียน 8 กลุ่มสาระวิชาและกลุ่มพัฒนาผู้เรียน – ชมการแข่งขันดนตรีสากลของน้องๆรุ่นปัจจุบัน – ชมการแข่งขันเชียร์หรีดเดอร์ – กีฬาสัมพันธ์พี่ (ชายรุ่นใหญ่กับรุ่นน้อง(หญิง)วัยแฉล้ม – กีฬาฟุตบอลสัมพันธ์(ชาย)รุ่นพี่ กับรุ่นน้อง จากนั้นภาคกลางคืนจะเป็นการพบปะสังสรรค์ของศิษย์เก่าบุญวัฒนา โดยนักเรียนเก่าโรงเรียนบุญวัฒนาสามารถติดต่อซื้อบัตรเข้าร่วมงานได้ที่โรงเรียนบุญวัฒนา ในราคาบัตรละ 400 บาทซึ่งรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายได้จะนำไปช่วยเหลือด้านการศึกษาของนักเรียนในรุ่นปัจจุบัน

 

โคราชอากาศเย็นหมอกลงจัด เมฆหมอกปกคลุม ทิวทัศน์สวยงาม ด้านผู้ใช้รถต้องเปิดไฟวิ่งเตือนช่วงนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่เมื่อเย็นวานที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงช่วงกลางคืนมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงเช้าอากาศเย็น ทำให้มี หมอกลงจัดในหลายพื้นที่ ทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นไม่ดี ผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรด้วยความลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

โดยที่บริเวณถนนมิตรภาพ และถนนสาย24สีคิ้ว-เดชอุดมช่วง เขตอำเภอสีคิ้วและสูงเนิน ในเวลาเช้ามืดต่อเนื่องถึงช่วงเช้าตรู่ พบว่ามีหมอกลงหนาแน่น ผู้ใช้รถใช้ถนนไม่สามารถทำความเร็วได้เต็มที่ ต้องขับด้วยความระมัดระวังขณะเดียวกัน บนถนนสายรองในหลายเส้นทางในเขต อ.สูงเนิน และสีคิ้ว ก็พบว่ามีหมอกลงเป็นจำนวนมากเช่นกัน  ส่งผลให้ มีปัญหาในการขับขี่มองเห็นไม่ชัดเจน ถึงแม้จะสว่างแล้วเวลา6-7โมงเช้า ซึ่งทุกวันที่ผ่านมาสามารถขับขี่ได้ตามปกติ แต่ในวันนี้ ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ก็ยังต้องเปิดไฟเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

 ขณะที่บริเวณพื้นที่ติดเขาพบว่ามีเมฆหมอกปกคลุม ทิวทัศน์บรรยากาศ เป็นไปอย่างสวยงามคาดว่าในช่วง 1-2 วันนี้ จะมีเมฆหมอก หนาแน่น ช่วงเช้าผู้ใช้รถใช้ถนนควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ประเทศไทยมีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ภาคีเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จัดสัมนา “ก้าวหน้าสู่จังหวัดที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บจากจราจรทางบก อย่างยั่งยืน”

ประเทศไทยมีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ภาคีเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จัดสัมนา “ก้าวหน้าสู่จังหวัดที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บจากจราจรทางบก อย่างยั่งยืน”

 

วันที่ 29-30 ตุลาคม 2561 ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล ​โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โคราช  อ.เมือง จ.นครราชสีมาในการสัมมนาวิชาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง“ก้าวหน้าสู่จังหวัดที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บจากจราจรทางบก อย่างยั่งยืนโดยมีนพ.วีระพันธ์  สุพรรณไชยมาตย์ รองประธาน สสส. คนที่ 2ประธาน เปิดงาน นายปัญญา วงศ์ศรีแก้วปลัดจังหวัดกล่าวต้อนรับ  พล .ต.ต  ธีรพงศ์  วงษ์สมาน รอง ผบช  ตร ภาค 3  ร่วมมอบโล่ ท่านวิทยากร แขกผู้มีเกียรติ และผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่าน

รัฐบาลกำหนดให้อุบัติเหตุทางถนนเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยดำเนินงานผ่านโครงสร้างศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้มีนโยบายและมาตรการต่างๆ เช่น ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่เน้นการทำงาน “ต่อเนื่อง ตลอดทั้งปี”  นำกลไก “ประชารัฐ” เป็นหลักบูรณาการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหา แต่ในการดำเนินงานส่วนใหญ่ยังอยู่คงเป็นการดำเนินงานในระบบสั่งการหรือแนวดิ่ง สอจร. โดย สสส. เป็นภาคีที่เข้ามาเสริมการทำงานในแนวราบ และในปี 2561 นี้ ได้เลือกจังหวัดนครราชสีมาเป็นเวทีจัดการสัมมนาวิชาการที่ดำเนินงานมาตลอดปีที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สอจร.อีสานล่าง โดย สอจร.(กลาง) ภายใต้การสนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นภาคีที่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีที่ทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแนบราบมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547                 ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทุกระดับ จึงจัดให้มีการสัมมนาวิชาการภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง “ก้าวหน้าสู่จังหวัดที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บจากจราจรทางบก อย่างยั่งยืน” ขึ้นมาในวันที่ 29 – 30 ตุลาคม 2561 นี้  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้ผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบปะ แลกเปลี่ยนแนวคิด ผลการดำเนินงาน รวมไปถึงงานวิจัยต่างๆ โดยมีรูปแบบของเวทีมีทั้ง การเสวนาพิเศษ  การทอล์กโชว์ การนำเสนอผลงานแบบ Oral Presentation /โปสเตอร์  นอกจากนี้ยังจัดให้มีการมอบรางวัลแก่บุคลดีเด่นและในดีเด่นในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนซึ่งผ่านการคัดเลือกจากภาคีในจังหวัด ในพื้นที่ของ 10 จังหวัด สอจร.อีสานล่าง  เวทีวันนี้มีผู้ร่วมงานจำนวน 150 คนเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้วในตอนนี้  จากข้อมูลผู้เสียชีวิตที่บูรณาการจากข้อมูล 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พบว่า มีอัตราการตายเท่ากับ 36.2 คนต่อประชากร 1 แสนคน (ประมาณ 22,281 คนต่อปี) และยังมีผู้บาดเจ็บเฉลี่ยอีกประมาณ 107,542 คนต่อปี  และ ภาคที่สถิติสูงคือภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

โคราช!!แถลงข่าว“มหกรรมบ้าน คอนโด และสินเชื่อ โคราช ครั้งที่ 21″

สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา   จัดงานแถลงข่าว“มหกรรมบ้าน คอนโด และสินเชื่อ โคราช ครั้งที่ 21″ REKT EXPO 21 BESTAREA BESTPRICE

          นางพิมพ์อร สุริ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา นายนราทร ธานินพิทักษ์ อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา และนายปิติพงศ์ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานการจัดงาน ได้ร่วมกันแถลงข่าว “มหกรรมบ้าน คอนโด และสินเชื่อ โคราช ครั้งที่ 21″ REKT EXPO 21 BESTAREA BESTPRICE  ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่  8 – 14 พฤศจิกายน 2561 ที่ชั้น 1 แกรนด์ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา

           ซึ่งในปีนี้ได้ ในมหกรรมบ้าน คอนโด และสินเชื่อ โคราช ได้รวบรวม ที่อยู่อาศัย ครบในทุกที่ ทุกทําเล ทุกราคา โดยยกเอาคอนเซ็ปต์BESTAREA BESTPRICE ทําเลที่ดี ที่สุดในราคาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งมีโครงการหมู่บ้านกว่า 30 โครงการ รวมถึง คอนโดและทาวน์โฮม มาร่วมออกบูธนิทรรศการ พร้อมกับจัดโซนราคาพิเศษ และมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ที่จะมีนาทีทอง รับส่วนลดดาวน์บ้านและดอกเบี้ยราคาพิเศษ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนทุกระดับรายได้ และอำนวยความสะดวกสบาย สำหรับคนเมือง

พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมลุ้นรางวัลคูปองเงินสดมูลค่าและรถจักรยานยนต์ รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาทโดยทางสมาคมฯ มุ่งจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้น เศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดนครราชสีมา

ปปส.ภาค 3พัฒนาเครือข่ายสื่อมวลชนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับจังหวัด (8 จังหวัด)ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

ด้วยปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดยังคงระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่องรัฐบาลจึงกำหนดให้การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเน้นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลการดำเนินงานทุกด้านของรัฐบาลผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ทันต่อเหตุการณ์ และถูกต้อง ตลอดจนเป็นการรณรงค์สร้างกระแสเพื่อปรับเจตคติของสังคม และการสร้างกระแสให้ประชาชนเกิดความตระหนักเกิดจิตสำนึกพร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยสื่อมวลชนถือเป็นพลังหนึ่งของสังคมและเป็นสื่อกลางในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร และการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนได้รวดเร็วต่อเหตุการณ์ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง เพื่อให้เกิดการทำงานเชิงรุกในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร

การดำเนินงานยาเสพติด การขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมุ่งสร้างความเข้าใจถึงเครือข่ายระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดสร้างการรับรู้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จึงเน้นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การดำเนินงานทุกด้านของรัฐ ผ่านสื่อมวลชนโดยมีการใช้สื่อ Social Media หรือผ่านทางสื่ออื่นๆ ขับเคลื่อนงาน ให้ประชาชนเกิดความตระหนัก มีจิตสำนึกพร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

วันที่ 25 ตุลาคม  2561 นายอดุล ประยูรสิทธิ ผอ.ปปส.ภ.3 เป็นประธานพิธีเปิด โครงการพัฒนาเครือข่ายสื่อมวลชนเพื่อการประชาสัมพันธ์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ “นโยบายและแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ปปส.ภาค.3”ณ โรงแรมเพลาเพลิน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม 2561จัดโดยเครือข่ายสื่อมวลชนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ป.ป.ส.ภาค3 นำโดยนายเชิดชัย ทองถม ประธานเครือข่ายสื่อมวลป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ป.ป.ส. ภาค3 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยเครือข่ายประชาสัมพันธ์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ปปส.ภาค 3 รวมจำนวน 56 คน

วัตถุประสงค์ในการจัดเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้เกิดการทำงานเชิงรุกในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่าน Social Media หรือผ่านช่องทางสื่ออื่นๆ และพัฒนาเครือข่ายสื่อมวลชนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับจังหวัด (8 จังหวัด) และระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างให้มีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนงานเพื่อการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการบรรยายสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและนโยบายแนวทางในการป้องกันแก้ไขและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่ปปส.ภาค 3 ส่วนในช่วงบ่ายอภิปรายผลการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ปี 2561 โดยการนำเสนอผลการดำเนินงานด้านปราบปรามในพื้นที่ปปส.ภาค 3 และด้านการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ของเครือข่ายสื่อมวลชนระดับภาคและระดับจังหวัด 8 จังหวัดพร้อมด้วยกิจกรรมกลุ่มกิจกรรมพัฒนาสื่อสัมพันธ์ต่อมาในวันที่ 26 ตุลาคม 2561ภาคเช้าอธิบายแนวทางการพัฒนาและขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างปี 2562 และแบ่งกลุ่มจัดทำแผนกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนงานด้านประชาสัมพันธ์ในระดับพื้นที่จังหวัดและภาคประจำปี 2562 สรุปอภิปรายผลและปิดการสัมมนา

โคราชเปิดให้ชมนิทรรศกาล ปฏิบัติการถ้ำหลวง 23-31 ตุลาคมนี้

ปฏิบัติการถ้ำหลวง วาระแห่งโลก

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมาร่วมเป็นประธานเปิดงานการแสดงนิทรรศการและการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อถอดบทเรียนในมิติ เรื่อง ปฏิบัติการถ้ำหลวง
วันที่ 23 – 31 ตุลาคม2561
1. กรุงเทพ. จัดไปแล้ว
2. โคราช 23 – 31 ตุลาคม 2561
3. หาดใหญ่. 6 – 14 พฤศจิกายน 2561
ทางกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ชวนทุกท่านตะลุยถ้ำหลวงกับปฏิบัติการ 18 วัน ภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ชมนิทรรศการ “ ปฏิบัติการ ถ้ำหลวง: วาระแห่งโลก” ส่วนภูมิภาค เพื่อร่วมเปิดปฏิบัติการ 18 วัน ร่วมถอดบทเรียนภารกิจช่วยชีวิต 13 หมูป่า สัมผัสถึงภารกิจที่ยากลำบาก รวมถึงแสดงความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อของคนทั่วโลก นับตั้งแต่วันที่หายตัวในวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ณ ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 (รวม18วัน) ที่สามารถช่วยเหลือหมูป่าตัวสุดท้ายออกจากถ้ำหลวงได้สำเร็จ ร่วมชมนิทรรศการนี้ได้ระหว่างวันที่ 23-31 ตุลาคม 2561 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา และ ระหว่างวันที่ 6-14 พฤศจิกายน 2561 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ วันที 23 ต.ค.2561

ชาวบ้านสี่เหลี่ยมประมาณ30คนร่วมตัวกันมาร้องพ่อเมืองโคราช

ชาวบ้านสี่เหลี่ยมประมาณ30คนร่วมตัวกันมาร้องพ่อเมืองโคราช

วันที่ 23ตุลาคมพ.ศ.2561ณ.หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ชาวบ้านประมาณ30คนร่วมตัวกันมาร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านฯหมู่2ต.ช่องแมว อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมาเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา มารับหนังสือแทน ตอมาเจ้าหน้าที่เชิญชาวบ้านขึ้นมายังห้องประชุมชั้น2ของศาลากลางโดยมีนายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว ท่านปลัดจังหวัดนครราชสีมา มารับหนังสือและร่วมประชุมกับชาวบ้านแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาโดยข้อความที่เขียนเป็นลายมือมีข้อความที่ร้องเรียนดังนี้ ข้อ1.เรื่องการกินเงินรับบริจาคทำบุญของหมู่บ้านเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 จังหวัดได้รับมอบหมายให้วัดสถานที่และมีความเจริญในการจัดประชุมคณะพระสังฆาธิการจังหวัดนครราชสีมา

จึงได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 8,500 บาทแต่ผู้ใหญ่บ้านไม่ได้นำเงินบริจาคไปมอบให้วัดที่ถูกชาวบ้านขายตัวต่อมาผู้ใหญ่บ้านจึงได้นำเงินไปให้วัดจำนวน 3,169 บาทชาวบ้านทราบข้อมูลทักท้วงต่อมาผู้ใหญ่บ้านจึงให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำจำนวน2,000บาทโดยมีเจ้าหน้าที่การเงินของวัดเป็นผู้รับไว้เมื่อชาวบ้านทวงถามผู้ใหญ่บ้านได้อ้างว่าเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายค่าเครื่องดื่มและค่าน้ำมันรถข้อ 2 เรื่องการลักลอบตัดไม้บางนาในที่สาธารณะจำนวน 2 ต้นข้อ 3 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2561 ชาวบ้านได้ทราบข่าวจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประกาศหอกระจายข่าวว่าทางเบอร์โทรมาประเมินการปฏิบัติหน้าที่ในวันและเวลา 11 นาฬิกาขอให้ชาวบ้านได้ออกมาร่วมกันประเมินทุกคนเจ้าบ้านได้ออกมารวมตัวกันที่ทำการที่บ้านผู้ใหญ่บ้านแต่พบว่ามีชาวบ้านส่วนตัวจำนวนประมาณ 20 คนได้นั่งอยู่ที่ประชุมแล้ว      ส่วนชาวบ้านจำนวน100คนไม่เข้าไปโดยแจ้งว่าจะทางอำเภอได้คนคบแล้วชาวบ้านเกิดความสงสัยกินได้สอบถามแต่ไม่ได้คำตอบที่ถูกต้องและการท้าทายได้ให้ชาวบ้านโมโห ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านแบบประเมินให้ผู้ที่นั่งอยู่ในที่ประชุมก่อนแล้วเวลาต่อมามีปลัดอำเภอมาชี้แจงจากชาวบ้านว่าเวลานัดประเมินเวลา 16.30 นจะมาถึงได้หล่อตามนั้นต่อมาได้เชิญชวนชาวบ้านทั้งหมดมารวมกันและชี้แจงให้ชาวบ้านทราบถึงการประเมินสรุปว่าการประเมินผู้ใหญ่ไม่ได้เป็นการชี้ว่าผู้ใหญ่จะผ่านหรือไม่ผ่านการประเมินผู้ใหญ่ผ่านไปแล้วเมื่อชาวบ้านถามว่าที่ภรรยาผู้ใหญ่เจ็บแบบนี้มีชาวบ้านบางส่วนออกหมายความว่าอย่างไรต่อว่า ผมอธิบายแล้วยังไม่เข้าใจผมเป็นคนรู้กฎหมายและระเบียบมากกว่าใครทำให้ชาวบ้านหรือพอใจมีการต่อว่าต่อขานกันจึงนำทีมกลับไป

ข้อ 4 เรื่องการทุจริตในการเบิกจ่ายโครงการ 9101 จากคือผู้ใหญ่บ้านจะพูดได้ทำการช่วยเหลือโดยการทำเอกสารเท็จบิดเบือนข้อมูลในการเบิกจ่ายเงินจากบ้านส่วนใหญ่ให้ร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลำทะเมนชัยเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 และได้มีการสอบสวนอย่างไม่โปร่งใสและเงียบหายไปจากบ้านได้โทรถามต้นทางอำเภอได้รับคำตอบแบบอายเพียงว่าให้รอสิ้นเดือนจะจัดงานถวายพระเพลิงรัชกาลที่ 9 ก่อนต่อมาชาวบ้านไปดูทำขอให้ถึงสิ้นเดือนกันยายน 2561 ก่อนค่อยประเมินการประเมินการปฏิบัติงานของผู้ใหญ่บ้านได้โกหกหลอกลวงชาวบ้านไว้เพื่อเป็นการประวิงเวลาทางเพื่อมาโดยตลอด

ในส่วนโครงการ 9 101 จึงขอร้องเรียนกับท่านดังต่อไปนี้ผู้ใหญ่บ้านสี่เหลี่ยมได้จัดทำเอกสารเบิกจ่ายเป็นเท็จโดยนำชื่อนางคำผู้เป็นภรรยาของตัวเองเบิกค่าแรงโดยที่เป็นเท็จได้งามชื่อนางคำทั้งๆที่ไม่ได้ไป ชาวบ้านได้ไงหลักฐานมาพร้อมทุกเรื่องขอร้องเรียนต่อท่านเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบผู้ใหญ่บ้าน     ผู้สื่อข่าวรายงานว่าด้วยเหตุการณ์ที่ปลัดได้ออกมาชี้แจงต่อชาวบ้านเรี่องผลการประเมินเป็นข้อเท็จจริงอย่างไรในที่ห้องประชุมชั้นศาลากลาง จ.น.ม.แต่ชาวบ้านก้อต่างพากันโวยวายว่าเรื่องที่ชี้แจ้งนั้นไม่เป็นอย่างที่กล่าว(มีคริป)

ผู้สื่อข่าวจะได้ติดต่อได้ขอเบอร์ผู้ใหญ่บ้านฯกับชาวบ้านแล้วก็ได้รับคำตอบจากชาวบ้านว่าไม่มีของผู้ใหญ่บ้านฯให้กับผู้สื่อข่าวผู้สื่อข่าวจะได้จึงได้ติดต่อขอเบอร์โทรผู้ใหญ่บ้านฯเพื่อทำการสัมภาษณ์เรื่องที่ชาวบ้านมายื่นหนังสือร้องเรียนเป็นอย่างข้อความที่เขียนมาเป็นข้อเท็จจริงอย่างไร สำหรับทางจังหวัดนครราชสีมานั้นแจ้งทางชาวบ้านสี่เหลี่ยม หมู่2 ขอระยะเวลาการดำเนินการ45วันจากนั้นชาวบ้านก็ได้เดินทางกลับบ้าน

 

สมาคมเจ้าของคอกม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมาแจ้งปัญหา!!สุนทรขี้ม้าขาวช่วยด่วน

สมาคมเจ้าของคอกม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมาแจ้งปัญหา!!สุนทรขี้ม้าขาวช่วยด่วน

วันที่ 20 ตุลาคม 2561 ที่สมาคมเจ้าของคอกม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาโดยนายทองหล่อ เอี่ยมวงศ์ นายกสมาคมเจ้าของคอกม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมา กรรมการสมาคมฯ และสมาชิกสมาคมฯได้มีการแถลงรายรับรายจ่ายในรอบปี2560-61ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้แจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายของสมาคมฯร่วมถึงการอยู่รอดของสมาคมฯมาทางด้านนายสุนทร  แพ่งไพรี ได้ขึ้นกล่าว  ปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้สมาคมยังไม่มีเงินเพราะอะไรย้อนกลับนิดนึงเมื่อก่อนจอกกี้ไม่เคยมีเงิน ผมลงทุน 800,000บาท วันนี้จอกกี้ยืนได้และมีความรู้ผมภูมิใจและได้ดำเนินการแต่กลับผมโด่นไล่ออกเทรนเนอร์ มีปัญหาผมเข้ามาแก้จนวันนี้มีเงิน 800,000 บาท วันนี้สมาคมมีปัญหาเพราะอะไรเฉพาะค่าไฟค่าพนักงานค่าลูกน้องก็หมดแล้วแลกตัวนี้อีก 4 คอกแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาบริหารผมว่าวันนี้เราต้องคิดไปข้างหน้าต้องเริ่มใหม่เรา

ต่อมาที่ประชุมนายกสมาคมกล่าวเกี่ยวกับเรื่องมารยาทการเข้าสนามม้าแข่งการใส่รองเท้าแตะกางเกงขาสั้นจะต้องโดนทำโทษรับเงินจำนวน 100 บาทต่อครั้งที่ไม่ปฏิบัติกฎกติกาและอื่นๆ  ส่วนการเลือกตั้งกรรมการผู้แทนเจ้าของคอกจำปี 2562 -2563สมาชิกได้เสนอชื่อกรรมการ  เลื่อกตั้งจำนวนห้าคนส่วนการเลื่อก นายกสมาคมเจ้าของม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่นายทองหล่อ เอี่ยมวงษ์ เป็นนายกสมาคมฯอีกสมัย    นายทองหล่อ ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่น กล่าวว่า ส่วนตัวเคยทำธุรกิจคอกม้า เคยมีม้าสูงสุดถึง 40-50 ตัว แต่ตอนหลังแบกรับต้นทุนไม่ไหว เพราะม้าตัวหนึ่งต้องมีคนดูแล 1 คน มีต้นทุนดูแลตัวละประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน ส่วนสมาคมฯ ปัจจุบันมีสมาชิกคอกม้าอยู่ประมาณ 100 คอก คอกละประมาณ 4-5 ตัว หรือ 10 ตัวบ้างก็มี นับว่าเป็นจังหวัดที่มีคอกม้ามากที่สุดแล้ว ที่ผ่านมา ม้าเหล่านี้จะไปแข่งหลายสนาม ไม่ว่าจะเป็นสนามที่จังหวัดนครราชสีมาถึงจังหวัดใกล้เคียง และในกรุงเทพฯ อีกด้วย

“วันตำรวจปี2561” มอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณ แก่หน่วยงาน ข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และพลเมืองดีที่ช่วยเหลือราชการตำรวจภูธรภาค 3

“วันตำรวจปี2561” มอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณ แก่หน่วยงาน ข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และพลเมืองดีที่ช่วยเหลือราชการตำรวจภูธรภาค 3

วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2561 เนื่องพิธี “วันตำรวจปี2561” ในพิธีมอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณ แก่หน่วยงาน ข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และพลเมืองดีที่ช่วยเหลือราชการตำรวจโดย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพิธีวันตำรวจในปี 2561 นี้ตำรวจภูธรภาค 3 ได้จัดพิธีมอบโล่และใบประกาศประกาศที่คุณให้แก่หน่วยงานข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานและพลเมืองดีที่ช่วยเหลือราชการตำรวจในด้านต่างๆประกอบด้วย 1. ตำรวจสีขาวดาวคุณธรรม 1 วัน 2. การฝึกดีเด่น 5 รางวัล 3. การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดดีเด่น 34 รางวัล 4. พนักงานสอบสวน5รางวัล 5. จราจรดีเด่น 16 รางวัลพลเมืองดีช่วยเหลือราชการตำรวจทั้งวันรวมทั้งสิ้น 68 รางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับหน่วยงานข้าราชการตำรวจและประชาชนนอกจากนั้นยังมีญาติพี่น้องทีเดินทางมาจากอีสานตอนใต้ต่างกันพาชื่นมื่นยินดีปรีดากับการรับรางวัลจากรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3

สำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 3 ได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนางานในหน้าที่ความรับผิดชอบให้ประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้และการต่อเหตุการณ์ของโลกในยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองและสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนมากที่สุดดังนั้นการที่จะทำให้ภารกิจที่กล่าวมานี้สัมฤทธิ์ผลเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่มุ่งหวังไว้อย่างเป็นรูปธรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 3 จึงได้จัดให้มีพิธีการมอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณให้แก่หน่วยงานข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นและพลเมืองดีที่ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจในรอบปี 2560 และ 2561 ที่ผ่านมาเพื่อเป็นการปลุกเร้าสร้างขวัญกำลังใจความมั่นใจและแรงจูงใจในพิธีวันตำรวจ

 

!!เป็นเรื่องใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมาร่วมภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในการจราจรอันนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิต

!!เป็นเรื่องใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมาร่วมภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในการจราจรอันนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิต

วันที่12 ตุลาคม 2561 เวลา 08:30 น. ณ โรงแรมดิอิมพีเรียลโฮเต็ลแอนด์คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์โคราช อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการการติดตามผลการบริหารข้อมูลเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนครั้งที่ 4 โดยนางปิยะฉัตร     อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประชุมเชิงปฏิบัติการกล่าวรายงานโดย นางสมศรี  ค้า  ทันเจริญ ผู้จัดการสาขาบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัด  สาขานครราชสีมานางณัฐธยาน์  ทองย้อย  ผู้จัดการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด        เป็นผู้จัดงานในครั้งนี้ ร่วมถึงหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน

ปัญหาด้านความปลอดภัยทางถนนนับว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีที่ได้แถลงนโยบายของรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในการจราจรอันนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตโดยความร่วมมือระหว่างฝ่ายต่างๆในการตรวจจับเพื่อป้องกันการรายงานและการดูแลผู้บาดเจ็บกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนโดยมีเป้าหมายที่จะลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่ำกว่า 10 คนต่อประชากร หนึ่ง แสนคนภายในปีพศ. 2563 ตามแนวทาง 5 เสาหลักของครอบครัวแห่งความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้นจริงจังไม่เฉพาะแต่ในช่วงเทศกาลสำคัญคือเทศกาลปีใหม่เทศกาลสงกรานต์เท่านั้นแต่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

(นางปิยะฉัตร อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา)การประชุมสัมมนาติดตามผลปฏิบัติการในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่งที่ทุกท่านจะได้ร่วมกันนำเสนอผลการปฏิบัติการและระดมความคิดเห็นวิเคราะห์สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและปัจจัยเสี่ยงต่างๆและพื้นที่เพื่อกำหนดตัวชี้วัดมาตรการและแผนงานในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่รวมถึงรวมถึงสามารถขับเคลื่อนการรายงานข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่อย่างเป็นระบบถูกต้องและสมบูรณ์และที่สำคัญจะนำไปสู่การมีแผนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดเพื่อบูรณาการหน่วยงานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่และการขับเคลื่อนดำเนินงานป้องกันและการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนทั้งในระยะสั้นระยะกลางและระยะยาวต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 10.00 น.ได้มีการแถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดโดยนางปิยะฉัตร อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและภาคีเครือข่ายและต่อมาช่วงเวลาบ่ายโมงได้จัดทำ workshop จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดนครราชสีมาประจำปีงบประมาณ 2562 โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 การเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน กลุ่มที่ 2 ประเทศไทยขนส่งทางถนนปลอดภัย 4.0 ถูกที่ 3 ประชารัฐเพื่อถนนปลอดภัย และนำผลworkshopจากทั้ง3กลุ่มยุทธศาสตร์มาเสนอที่ประชุมกันต่อจากนั้นได้งานสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการโดยบริษัทคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัดสาขานครราชสีมา ในการประชุมครั้งนี้มีจำนวนบุคลกรร่วมประชุม50คน

จากข้อมูลการเสียชีวิตและบาดเจ็บในปี 2560 ที่ผ่านมาของจังหวัดนครราชสีมามีจำนวนผู้เสียชีวิต 854 คนบาดเจ็บ 4,260 คนมีการขับเคลื่อนนโยบายในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนโดยใช้กลไกศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครราชสีมามาแบบบูรณาการที่ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมโดยใช้ข้อมูล 3 ฐานมากำหนดแนวทางการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงพัฒนาระบบงานสนับสนุนให้มีความเข้มแข็งโดยเฉพาะการนำแผนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางถนนในระดับจังหวัดอำเภอและท้องถิ่นไปปฏิบัติเกิดความชัดเจนเป็นรูปประธรรมและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินการป้องกันและการแก้ไขปัญหาเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นระบบดังนั้นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัดจึงเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายแห่งพรบคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทำหน้าที่จ่ายค่าสินไหมทดแทนผู้ประสบภัยจากรถกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจึงได้จัดทำโครงการติดตามผลการบริหารข้อมูลเพื่อลดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืนครั้งที่ 4 MIS FOU SUSTAINABLE  ROAD SAFETY(เวทีถนนปลอดภัย)