สุดทึ่ง!!!พบแกรนแคนยอนเมืองลับแลแห่งใหม่ที่โคราช ชาวบ้านเชื่อเมืองพญานาค สุดงดงามอลังการ 

สุดทึ่ง!!!พบแกรนแคนยอนเมืองลับแลแห่งใหม่ที่โคราช ชาวบ้านเชื่อเมืองพญานาค สุดงดงามอลังการ 

นายราเชนทร์ ประกอบกิจ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าจะหลุง พร้อมด้วยนายเสือ รักษ์ป่า ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  ผู้นำชุมชนและสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ป่าหุบใหญ่ ซึ่งเป็นป่าชุมชนเชื่อมต่อระหว่างตำบลท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์  หลังจากที่มีการสำรวจพบเส้นทางน้ำป่าไหลเซาะชั้นดินและชั้นหิน กัดกร่อนดินและหินกลายเป็นรูปร่างแปลกตามากมาย หรือที่เรียกว่าแกรนแคนยอน  จนกลายเป็นศิลปกรรมที่มีความสวยงามตระการตา รวมเนื้อที่กว่า 3 ไร่  ที่รังสรรค์ขึ้นมาจากธรรมชาติโดยมิได้มีการเติมแต่ง ประกอบกับมีเรื่องราวความเชื่อลี้ลับอีกมากมาย ที่สำคัญยังมีการสำรวจพบฟอสซิลไม้กลายเป็นหินที่คาดว่าอายุนับล้านปี กระจายอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมากด้วย

นายเสือ รักษ์ป่า ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่ ซึ่งช่วยดูแลผืนป่าหุบใหญ่มายาวนาน กล่าวว่า ป่าหุบใหญ่นั้นมีเนื้อที่รวมกว่า 1,400 ไร่  ซึ่งบริเวณที่เกิดแกรนแคนยอน นั้น เป็นพื้นที่ระหว่างบ้านงิ้ว ต.ท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ บ้านโคกวังวน ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นแกรนแคนยอนที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับปราสาทหินสมัยโบราณกระจายอยู่หลายจุด  ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า ปรางค์พระนารายณ์  อีกทั้งยังมีทางน้ำไหลที่เกิดจากการไหลของมวลน้ำป่าจำนวนมหาศาล กัดเซาะดินจนกลางเป็นร่องลึกกว่า 3 เมตร จนสามารถลงไปเดินและสัมผัสกับร่องรอยการกัดเซาะชั้นดินและหินได้อย่างใกล้ชิด  นอกจากนี้ยังมีการสำรวจพบการถับถมของชั้นดินมานานนับล้านปีกระทั่งมีซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหินกระจายอยู่ทั่วบริเวณอีกด้วย  ซึ่งทางกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  ต้องนำเชือกมากั้นบริเวณและจัดเวรยามคอยดูแลตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อป้องกันไม่ให้เข้าไปทำให้ซากฟอสซิลเหล่านั้นเสียหายหรือถูกขโมยไป

นอกจากความพิเศษของแกรนแคนยอนที่ถูกธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นแล้ว  ชาวบ้านบางคนก็เชื่อว่าจุดนี้เป็นแหล่งพำนักอาศัยของพญานาค เนื่องจากมีบ่อน้ำซับไหลขึ้นมาตลอดทั้งปี  บางคนก็เชื่อว่าเป็นเมืองลับแล เนื่องจากเคยมีผู้พบมีผู้คนอาศัยอยู่ ทั้งๆที่จุดดังกล่าวเป็นป่าอนุรักษ์ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย จึงเชื่อว่าจะทำให้พื้นที่จุดนี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว

ล่าสุดทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ เตรียมที่จะร่วมมือกันหาทางพัฒนาสถานที่ดังกล่าว พร้อมออกสำรวจพื้นที่ป่าโดยรอบ เพราะคาดว่ายังมีจุดที่มีความสวยงามอีกหลายจุด เพื่อผลักดันให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครราชสีมาต่อไป

 !สายบุญ ประธานทองร่วมกับชาวบ้านจัดงานทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561  ณ วัดสระแก้วโคราช

วันที่ 11 พฤศจิกายนพ. ศ. 2561 เวลา 10.00 น.พิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561 ณวัดสระแก้ว ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาโดยนายทอง วิริยะจารุ นางสมหมาย วิริยะจารุ ประธานกรรมการอุปภัมภ์ นายสมศักดิ์จักสานประธานกรรมการดำเนินงานผอ.รร.วัดสระแก้วพร้อมด้วยพระครูปริยัติรัตนวิชัย เจ้าอาวาสวัดสระแก้ว นำคณะสงฆ์วัดสระแก้ว  ร่วมประกอบพิธีสงฆ์และคณะผู้บริหารครูโรงเรียนวัดสระแก้วอุบาสก อุบาสิกาแก้ว แขกผู้มีเกียรติ

พิธีทอดกฐินกฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย จะถวายตลอดไปเหมือนผ้าชนิดอื่นมิได้ ระยะเวลานั้นมีเพียง 1 เดือน คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันเพ็ญเดือน 12) ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือระยะเวลา ทอดกฐิน หรือ เทศกาลทอดกฐิน5 การทอดกฐินในประเทศไทย

การได้มาของผ้าไตรอันจะนำมากรานกฐินตามพระวินัยบัญญัติของเถรวาทนี้ พระพุทธองค์ไม่ทรงห้ามการรับผ้าจากผู้ศรัทธาเพื่อนำมากรานกฐิน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เกิดทานพิธีการถวายผ้ากฐิน หรือการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนขึ้น และด้วยการที่การถวายผ้ากฐินนั้น จัดเป็นสังฆทาน คือถวายแก่คณะสงฆ์โดยไม่เจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เพื่อให้คณะสงฆ์นำผ้าไปอปโลกน์ ยกให้ แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งตามที่คณะสงฆ์ลงมติ (ญัตติทุติยกรรมวาจา) และกาลทาน ที่มีกำหนดเขตเวลาถวายแน่นอน คณะสงฆ์วัดหนึ่ง ๆ สามารถรับได้ครั้งเดียวในรอบปี จึงทำให้ประเพณีการทอดกฐินเป็นบุญประเพณีนิยมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561 ณ วัดสระแก้ว มีประชาชนมาร่วมงานทอดกฐินสามัคคีประจำปี2561ประมาณ300คนและจัดทำโรงทาน16โรงทานโดยปีนี้ประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพจำนวนเงิน100บาทจะได้รับวัตถุมงคลเหรียญบูชาครูเม็ดแตงโมหลวงพ่อทอง สุทธสีโล ในการถวายกฐินมีมาหลายสายบุญต่างๆมาร่วมถวายกฐินในครั้งนี้ร่วมยอดถวายเป็นเงิน1,000,999บาท อีกด้วย

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โรงเรียนกีฬาโคราชจัดพิธีต้อนรับนักเรียนคนเก่ง อึ้ง ประวัติน้องเดียร์ เจ้าของเหรียญทองยูธโอลิมปิกเกมส์ เคยเกเรจนเกือบถูกไล่ออก ใช้คำดูถูกเป็นแรงผลักดันจนประสมความสำเร็จ

นายนพวัชญ์ โพธิ์งาม ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมด้วยบุคคลสำคัญใน จ.นครราชสีมา ร่วมพิธี จัดงานแสดงความยินดีและพิธีต้อนรับให้กับนักกีฬาเหรียญทองยูธโอลิมปิก เหรียญทองแชมป์โลกมวยไทย และแชมป์ประเทศไทย โดยมีการเคลื่อนขบวนแห่ออกจากเทศบาลนครนครราชสีมา ไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเพื่อไปยังหลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

นายนพวัชญ์ โพธิ์งาม ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาที่ไปสร้างชื่อเสียให้กับประเทศและเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬารุ่นน้องอีกหลาย ๆ คนได้เอาเป็นแบบอย่าง โดยในช่วงที่ผ่านมามีนักเรียนในโรงเรียนกีฬาฯ สร้างเชื่อเสียงให้กับประเทศชาติหลายคนรวมทั้งวุฒิชัย มาสุข นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นที่มีชื่อซึ่งก็เป็นเด็กจากโรงเรียนกีฬาด้วย เมื่อมีเด็กนักเรียนไปสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดให้กับประเทศจึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเด็กนักเรียนรวมทั้งรุ่นน้องในโรงเรียน้ด้วย

โดยในครั้งนี้ มีนักเรียนที่น่าสนใจอยู่หนึ่งคนคือ นายอธิชัย หรือน้องเดียร์  เพิ่มทรัพย์ อายุ 17 ปี นักเรียน ชั้น ม.6 ซึ่งเป็นนักกีฬามวลสากลได้เหรียญทอง ยูธโอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นนักเรียนที่เคยเกเรจนเกือบถูกให้ออกจากโรงเรียนแต่ได้รับโอกาสให้กับมาเรียนหนังสือและไปสร้างชื่อเสียให้กับโรงเรียนในครั้งนี้โดยคว้าเหรียญทองในรุ่น 60 กิโลกรัม ในรายการดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีนายวีระพล จงจอหอ ซึ่งสามารถคว้าเหรียญทองแดงในรุ่น 75 กิโลกรัมในรายการเดียวกันด้วย และยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ไปสร้างชื่อในรายการที่สำคัญจึงได้จัดพิธีต้อนรับมนคราวเดียวกันด้วย

สำหรับนายอธิชัย มีประวัติที่นาสนใจคือ ในบางช่วงที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ มีเกเรตามประสาวัยรุ่น ถึงขั้นครูมีรายงานมาจะให้ออกจากโรงเรียนเนื่องจากมีพฤติกรรมไม่ดี แต่ได้เรียกมาอบรมทำความเข้าใจจนมีพฤติกรรมดีขึ้นพัฒนาตัวเองหมั่นฝึกซ้อมจนสามารถไปคว้าเหรียญทอง กีฬามวยสากลรายการยูธโอลิมปิกเกมส์ดังกล่าว

ด้าน นายอธิชัย เปิดเผยว่า ตนเคยเป็นคนเกเรหนึ่งในบางช่วงเกเรมากจนเกือบต้องถูกให้ออกจากโรงเรียน แต่ก็โชคดีที่ครูให้โอกาสกลับมาเรียนอีกครั้ง ตนจึงใช้แนวคิดที่ว่านำคำคนที่ดูถูกไว้ว่าจะทำไม้ได้มาเป็นพลังในการพัฒนาฝึกฝนตนเองและเป็นแรงผลักดันในการมุ่งมันฝึกซ้อมจนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งตนจะยังคงตั้งใจมุ่งมันเพื่อพัฒนาตนเองให้ไปสู่เวทีโอลิมปิกให้ได้

 

สำหรับ นายอธิชัย เพิ่มทรัพย์ มีอายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา อยู่บ้านเลขที่ 31 บ้านโคกรัก หมู่ 10 ต.โกรกแก้ว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเดียวกับ สมจิตร จงจอหอ และเป็นเครือญาติกันด้วย โดยมุ่งมันให้ความสนใจด้านกีฬา เนื่องจากมีสมจิตร เป็นไอดอล จนได้เข้าเรียนในโรงเรียนกีฬา ถึงแม่จะมีเกเรไปบ้างแต่ก็กลับมาตั้งใจฝึกซ้อมจนพาตัวเองกลับเข้าสูเส้นทางของกีฬาได้ในที่สุด.

2 ธันวานี้ชวนวิ่งกัน “กฟผ. ร่วมกับ จ.นครราชสีมา และ กกท. จัดแถลงข่าวการแข่งขันวิ่งโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2018 ครั้งที่ 7” ชิงถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ยกระดับสู่ฮาล์ฟมาราธอน

วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2561) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดแถลงข่าวการแข่งขันวิ่งโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2018 ครั้งที่ 7 ประจำปี 2561 ชิงถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2561 ณ บริเวณอ่างพักน้ำตอนบนโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา กฟผ. อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยมี ว่าที่ร้อยตรี นิรันดร์ ดุจจานุทัศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าว ร่วมกับ นายศานิต นิยมาคม ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน กฟผ. นายวิสันติ ลอมตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจการค้า กลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด นายจักรษณุพงศ์ ขวัญคีรี ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานเอกชน ผู้นำชุมชนและสื่อมวลชน เข้าร่วมงานแถลงข่าวจำนวนมาก ณ บริเวณอ่างพักน้ำตอนบนโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา  บ้านเขายายเที่ยงเหนือ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

 

ว่าที่ร้อยตรี นิรันดร์ ดุจจานุทัศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแข่งขันโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า 2018 ครั้งที่ 7 จังหวัดนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ชุมชน ผลักดันการพัฒนากีฬาในระดับท้องถิ่นให้ได้มาตรฐานทั้งด้านบุคลากรทางกีฬา สถานที่ มาตรฐานการจัดการแข่งขัน เพื่อมุ่งสู่การแข่งขันระดับชาติและในระดับสากลต่อไป การจัดการแข่งขันครั้งนี้ เป็นครั้งที่สองที่ได้ขอประทานพระอนุญาตจัดทำถ้วยรางวัลพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อมอบให้แก่ผู้ชนะเลิศประเภทฮาล์ฟมาราธอน (ชาย-หญิง) พร้อมทั้งได้ยกระดับมาตรฐานการแข่งขันตามเกณฑ์ระดับสากล โดยเปิดโอกาสให้นักกีฬาชาวต่างชาติได้เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรม และมีส่วนช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของ จ.นครราชสีมา ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

นายศานิต นิยมาคม ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน กฟผ. เปิดเผยว่า การแข่งขันโคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า ถือเป็นกิจกรรมที่ กฟผ. ร่วมกับ จ.นครราชสีมา และ กกท. จัดอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมแข่งขันเพิ่มขึ้นทุกปี จุดเด่นของสนามแข่งขันแห่งนี้ คือ เป็นหนึ่งในเส้นทางการวิ่งที่สวยที่สุดของ จ.นครราชสีมา นักวิ่งจะได้วิ่งรอบอ่างพักน้ำตอนบนของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา กฟผ. ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่มีโอโซนบริสุทธิ์อันดับ 7 ของโลก ระหว่างทางจะได้สัมผัสบรรยากาศหนาวท่ามกลางสายหมอก พร้อมชมวิวของโรงไฟฟ้ากังหันลม และทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงาม อันเป็นที่มาของชื่อการแข่งขัน “โคราชฮาล์ฟมาราธอนลอยฟ้า” ซึ่ง กฟผ. ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับผู้เข้าร่วมการแข่งขันพร้อมแล้ว 100%

มทร.อีสาน โคราช จัดประกวด E-Sport -DRONE RACING ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ระหว่างวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 61

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) จัดงานใหญ่แห่งปี ‘ESAN Smart Expo 2018’ ระหว่างวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. ณ หอประชุมวทัญญู ณ ถลาง  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และชมการแสดง FPV  DRONE RACING พร้อมทั้งกิจกรรมการแข่งขัน E-Sport การเสวนา Smart U สู่ Smart City, การสัมมนาอาชีพพารวย, สินค้าไอทีลดกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ลุ้นรางวัลใหญ่รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค HP จำนวน 2 เครื่อง

กิจกรรมมีทั้งหมด 3 วัน เริ่มที่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. กิจกรรมความร่วมมือในบันทึกข้อตกลง Smart University พร้อมโชว์นวัตกรรมสู่มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ การเสวนา Smart University วันที่ 24พฤศจิกายน 2561 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ชมการแสดง FPV  DRONE RACING (บริเวณสนามฟุตบอล) และถ่ายทอดสดมายังห้องประชุมวทัญญู เวลา 13.30 น. ชมการแข่งขัน E-Sport และวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. กิจกรรม นักการตลาดการเงินยุคใหม่ โดยนักการตลาดมือหนึ่ง ศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมแห่งชาติ IIC และชมการแข่งขัน E-Sport  รอบตัดสิน ชิงคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค HP จำนวน 2 เครื่อง และรางวัลอื่นๆรวมกว่า 1 แสนบาท

ติดตามรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) 744 ถนนสุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา หรือทางเว็บไซต์ www.rmuti.ac.th และเบอร์โทรศัพท์ 044-233000 โทรสาร : 044-233052 อีเมล์ :  info@rmuti.ac.th

เชิญร่วมพิธีพุทธาภิเษกน้ำพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ วัตถุมงคล รุ่น “หนุนดวงเรียกทรัพย์” และร่วมลอยกระทง ประจำปี 2561

น้ำพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ หรือ น้ำมนต์กลางหาว  คนไทยแต่โบราณเชื่อเรื่องพลังลี้ลับ ที่เกิดจากดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ สามารถใช้วันเพ็ญเดือน ๑๒

จะมีศิริมงคลมาก ยิ่งอาบน้ำมนต์ เดือนเพ็ญทำในวันเพ็ญปีนี้ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑นี้ 

จากตำนานเราผูกพันด้วยพลังจักรวาลโลก ที่เราอาศัยยาวนาน ด้วยความที่ดวงจันทร์ ดาวที่อยู่ใกล้โลกที่สุด พลังและแรงดึงดูดจึงมีอิทธิพลต่อโลกอย่างมาก  ความเชื่อเรื่องพลังจากดวงจันทร์เต็มดวง มีอยู่ทุกภูมิภาคของโลก และของไทย

การปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ในคืนวันเพ็ญเต็มดวง กำลังแผ่รัศมีอย่างเต็มที่ มีความศักดิ์สิทธิ์ มีอนุภาพมากพิเศษ เพราะทางโหราศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ถือกันว่า “พระจันทร์” มีคุณค่าทางเสน่ห์ เมตตา มหานิยม เยือกเย็น และดึงดูดมหาชน “ดึงดูดสายตา ดึงดูดความรู้สึก อยู่ใกล้ก็เย็นอกเย็นใจ สบายใจ อยู่ไกลก็รู้สึกคิดถึง อยากเห็น อยากมองในแง่ความมีเสน่ห์ มหานิยม

หากผู้ที่ได้รับการอาบน้ำมนต์วันเพ็ญ หรือ การลงตัวคืนเพ็ญ” ไปแล้วรักษาวิชาให้อยู่กับตัวได้ด้วยการรักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ ทำตนอยู่ในสายธรรมที่พระพุทธวางแบบไว้ให้ ไม่ผิดข้อห้ามในสำนักแล้ว วิชาที่ลงไว้ย่อมไม่เสื่อมสูญ รำลึกเมื่อไร ย่อมได้รับผลสมดังใจปรารถนา เป็นอัศจรรย์แน่นอน

อาบน้ำเพ็ญ 1 ปีมีหนพิธีอาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ พิธีอาบน้ำเพ็ญ คือ พิธีอาบน้ำเพ็ญ คือ พิธีอาบน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธ์ ในคืนพระจันทร์เพ็ญ ( ขึ้น ๑๕ ค่ำ ) แต่เดิมนิยม ประกอบพิธีในเดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชาของทุกปี ตามพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า“ศิวราตรี”

ต่อมามีการจัดขึ้นในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง เพราะถือว่าเป็นวันที่สายน้ำทุกแห่งทั่วโลก มีความบริสุทธิ์ใสสะอาดปีหนึ่งจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้นปีนี้ ขอขมาพระแม่คงคา “วันลอยกระทง”

กำหนดงาน

เวลา        18.00 น.               –  เตรียมความพร้อม ร่วมพิธี พุทธาภิเษก “น้ำมนต์กลางหาว วันเพ็ญ”

18.30 น.               –  ต้อนรับคณะเกจิดัง 5 รูป ร่วมพิธี

19.00 น.               –  เริ่มพิธี พุทธาภิเษก วัตถุมงคล และพิธีพุทธมนต์กลางหาว

21.00 น.               –  เสร็จพิธี พุทธาภิเษกวัตถุมงคล และพิธีพุทธมนต์กลางหาว

21.30 น.               –  ร่วมลอยกระทง กับ ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ

22.00 น.               –  เสร็จสิ้นภารกิจ

 

เกจิพิธีพุทธาภิเษก น้ำพุทธมนต์ และ วัตถุมงคลวาระพิเศษ เกจิดัง 5 รูป

  1. พระครูสังฆรักษ์สุรเดช (ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ )  วัดพระนารายณ์มหาราช
  2. พระครูประโชติปัญญาภรณ์ ( หลวงปู่คูณ วรปัญโญ )   วัดบัญลังค์
  3. พระครูสังฆรักษ์เสมา ( ครูบาแบ่ง ฐามุตตา )  วัดโตนด
  4. พระครูโสภิตธรรมวัตร ( ครูบาไพรวัลย์ ) วัดบ้านไร่โคกสูง
  5. พระปลัดจรูญ โกสโล (อาจารย์ป๋อง ) วัดสมานมิตร

น้ำมนต์จันทร์เพ็ญ“ศักดิ์สิทธ์” ยิ่งนักเกิดศิริมงคล ทำการใดก็สำเร็จ สมปรารถนา มีโชคชัยมงคล มีเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย รอดพ้นจากภยันอันตรายต่างๆ เปิดจิตเปิดใจผิวพรรณผ่องใส เสริมอายุวรรณะ ประกอบการธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เด่นคุณเมตตา

ผู้ว่าโคราช พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาด จังหวัดนครราชสีมา ร่วมมอบ ผ้าห่มกันหนาว ประจำปี 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี มอบผ้าห่มกันหนาว ณ หอประชุมเอนกประสงค์อำเภอเมืองนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

โดยมีนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมา นางวิไลลักษณ์ ดุจจานุทัศน์ รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมา และ นายสารวย แสงอรุณ ผู้ช่วยผู้จัดการภาดการขาย3 ตันแทนจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน)  ร่วมมอบผ้าห่มกันหนาว จำนวน 1,000 ผืน โครงการ “ไทยเบฟ… รวมใจต้านภัยหนาว” พ.ศ. 2561 ปีที่ 19 ด้วย

แลนด์มาร์คพื้นที่ประวัติศาสตร์เมืองโคราช ” เตรียมขอคืนพื้นที่วัดกลางนคร จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชพร้อมปรับภูมิทัศน์ศาลหลักเมือง

ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร (วัดกลางนคร) พร้อมนายวิเชียร   จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ผู้แทนส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือการจัดสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 1/2561 ในวาระนำเสนอรายละเอียด รูปแบบการดำเนินการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชและแนวทางปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ภายในวัดพระนารายณ์ ฯ เพื่อถวายพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ผู้สร้างวัดพระนารายณ์ ฯ  เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2199 สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จนเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองโคราช
               นายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นขั้นตอนการเสนอค่าใช้จ่ายการดำเนินการจัดสร้างปฏิมากรรมพระนารายณ์มหาราช ซึ่งมีขนาดความสูง 4 เมตร พร้อมแท่นวางประติมากรรมสูง 3.7 เมตร รวมทั้งแนวทางปรับปรุงตกแต่งภูมิทัศน์ ทางเดินเท้าพื้นที่ขนาด 1,200 ตร.ม. การติดตั้งระบบน้ำประปาและไฟฟ้าส่องสว่างรวมทั้งการรื้อถอนอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น จำนวน 10 คูหา บริเวณทางเข้าวัด ฯ ด้านถนนประจักษ์ เพื่อเชื่อมต่อศาลหลักเมือง โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายพร้อมศึกษาผลกระทบ
                จากการดำเนินงาน เพื่อให้การออกแบบและการจัดสร้างฯ มีความเหมาะสมที่สุด สอดรับกับแผนพัฒนาผังเมือง นำไปสู่การจัดทำหนังสือขออนุญาตกรมศิลปากรพิจารณาความเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ได้พิจารณาจัดทำรูปหล่อและเหรียญให้เช่าบูชาเพื่อหารายได้สมทบทุนการจัดสร้างฯ รวมทั้งกำหนดปฏิทินดำเนินงานให้ทุกฝ่ายทราบภาระหน้าที่และประสานงานทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ
             ด้านพระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยแนวทางการพัฒนาศาลหลักเมืองซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่วัดพระนารายณ์ ว่า สืบเนื่องจากจากโยมผู้เช่าที่ดินของวัดได้คืนสิทธิ์การครอบครองที่หมดสัญญาในปี 2564 โดยมีความต้องการให้เกิดพื้นที่เพิ่มเติมบริเวณด้านทิศเหนือของศาลหลักเมือง คณะกรรมการวัดฯ ได้ปรึกษาหารือร่วมคณะกรรมการศาลหลักเมืองและนายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา รวมทั้งหัวหนาส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบทางด้านวิศวกรรมสภาพอาคาร ในการเตรียมรื้อถอนอาคาร เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้เดินทางมากราบไหว้ สักการะศาลหลักเมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเห็นทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่วัดพระนารายณ์ ฯ สามารถประกอบกิจกรรมระหว่างวัดและศาลหลักเมืองได้สะดวกคล่องตัวกว่าเดิมที่ต้องเดินอ้อมไปทางด้านหลัง
อาตมาขอแจ้งให้ผู้เช่าพื้นที่วัด ฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์ หากรายใดครบกำหนดสัญญาเช่าตามกฎหมาย โปรดคืนพื้นที่ให้วัด โดยเฉพาะบริเวณถนนประจักษ์หรือด้านทิศตะวันตก เพื่อก่อสร้างกำแพงวัดฯ พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามรองรับการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ให้สมเกียรติและเป็นแลนด์มาร์คของโคราช
นอกจากนี้ยังจัดสร้างพื้นที่บรรจุอัฐิธาตุของท้าวสุรนารี (ย่าโม) ตรงมุมทิศพายัพหรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จากประวัติที่สืบค้น เมื่อปี พ.ศ. 2477 ได้ย้ายอัฐิธาตุย่าโมออกจากวัดไปประดิษฐานที่ประตูชุมพลจนทุกวันนี้ กรรมการวัด ฯ จึงขอคืนพื้นที่เพื่อบูรณะรักษาพื้นที่ประวัติศาสตร์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้เห็นความสำคัญของย่าโม วีรสตรีกู้ชาติ หากเปิดพื้นที่ตามแผนที่กำหนดไว้ จะเห็นความงดงามของศาลหลักเมือง เจดีย์วัด ฯ และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชรวมทั้งพื้นที่ประวัติศาสตร์ท้าวสุรนารี เชื่อจะเกิดความแตกต่างไปจากเดิมซึ่งที่ผ่านมามีอาคารพาณิชย์บดบังทัศนียภาพ
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์ ฯ กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองติดกลับศาลหลักเมือง สมัยโบราณเรียกว่า “ วัดกลาง ” หรือ “ วัดกลางนครโคราช วรวิหาร ” โดยถือเอาวัดพระนารายณ์ ฯ เป็นศูนย์กลาง รายล้อมด้วยวัดอื่น ๆ ตามที่ตั้งอยู่ทิศต่าง ๆ ตามชื่อทิศ เช่น วัดบูรพ์ (บูรพา) วัดอิสาน วัดพายัพและวัดบึง วัดสระแก้ว รวม 6 วัด ที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองโคราช วัดกลางนคร จัดเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือในสมัยก่อนมีพิธีที่ข้าราชการทุกแผนกจะต้องสาบานตนว่าจะต้องรับราชการสนองพระเดชพระคุณด้วยความจงรักภักดี ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต พิธีนี้เรียกว่า พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาทางราชการได้ใช้วัดพระนารายณ์มหาราช ฯ เป็นสถานที่ในการประกอบพิธี รวมทั้งให้เป็นสถานที่ทำพิธีสวดเสกน้ำพระพุทธมนต์ถวายในงานพระราชพิธีเสวยราชสมบัติ ปัจจุบันวัดพระนารยณ์ ยังมีศิลปะวัตถุพร้อมทั้งแบบสถาปัตยกรรมของสมัยกรุงศรีอยุธยาและปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระอุโบสถที่ตั้งอยู่เกาะกลางสระบัวทิศตะวันออกของวัด พระวิหารหลวงและเทวรูปพระนารายณ์สี่กร จำหลักด้วยหินทรายฝีมือขอมโบราณอันเป็นสัญลักษณ์แสดงพระนามผู้สร้างวัด

ตร.ภ.3ล่อซื้อยาบ้า ซุกกระเป๋ากีตาร์อำพราง ถูกจับพร้อมของกลาง 12,000 เม็ด >>มีวีดีโอ

ตร.ภ.3ล่อซื้อยาบ้า ซุกกระเป๋ากีตาร์อำพราง ถูกจับพร้อมของกลาง 12,000 เม็ด สืบประวัติพึ่งพ้นโทษได้ไม่นาน

วันที่ 1 พ.ย. 2561 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ (ผบช.ภ.5) รรท.ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 และ พ.ต.อ.สกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.3 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายอมรวัฒน์ หรือ เบียร์ โพธิ์ไธสง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 10 ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังจากจับกุมได้พร้อมยาบ้า6 มัด จำนวน 12,000 เม็ด กระเป๋ากีตาร์สีดำที่ใช้บรรจุยาบ้าอำพราง 1 ใบ โทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องพ.ต.อ.สกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.3 สืบทราบว่ามีเครือข่ายผู้ค้ายาบ้าที่ขนจากกรุงเทพมาส่งลูกค้าในเขตภาคอีสานรวมทั้ง จ.นครราชสีมา จึงวางแผนให้ชุดสืบ ติดต่อล่อซื้อยาบ้า 1 มัด 2,000 เม็ด ในราคา 50,000 บาท  โดยติดต่อกันทางโทรศัพท์ นัดส่งของกันที่ บ.ข.ส.2 นครราชสีมา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเมื่อถึงเวลานัดหมาย ชุดจับกุมจึงกระจายกำลังดักซุ่มรอ พบนายอมรวัฒน์  สะพายกระเป๋ากีตาร์มายืนรออยู่หน้าร้านกาแฟอาเมซอนภายใน บ.ข.ส.จึงแสดงตัวจับกุมตรวจค้นพบยาบ้าซุกอยู่ในกระเป๋ากีตาร์จำนวน 6 มัน รวม 12,000 จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นนายอมรวัฒน์ ให้การรับสาภาพว่า ตนเองพึ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้ไม่นาน โดยรับจ้างขนยาบ้ามาจากนายเล็ก (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่บงการอยู่เบื้องหลังให้นำยาบ้ามาส่งได้ค่าจ้างจำนวน 20,000 บาท โดยมีการสั่งการทางโทรศัพท์ รับยามาจากเขตกรุงเทพก่อนที่จะนำไปส่งลูกค่าตามจุดนัดหมายซึ่งนายเล็กเป็นคนสั่งทั้งหมด ก่อนที่จะถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายพร้อมกับเตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ (ผบช.ภ.5) รรท.ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า ยุทธการดังกล่าวเป็นไปตามยุทธการ 383 เป็นแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดทำลายวงจรยาเสพติทุกมิติ สร้างชุมชนสีขาวภาค 3 ใน 3 เดือนในพื้นทีรับผิดชอบ 8 จังหวัด การจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธการที่ปฏิบัติจนทำให้สามารถจับกุมตัวผู้ค้ายาบ้าได้และจะมีการขยายผลจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือได้ภายในเวลาไม่นาน

 

วัดลองตองโคราช…ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2561

ที่วัดลองตอง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้กำหนดทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2561 เพื่อเป็นทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์สิ่งปลูกสร้างภายในวัด เพื่อเตรียมการรองรับงานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิตร ภายในปลายปี 2562 นี้

โดยมีคุณแม่กิมเอ็ง แซ่ผู่ – คุณครูภคภัทร สกุลสุพิพิชญ์ เป็นเจ้าภาพ และมีพี่น้องประชาชน รวมทั้ง สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมต่อยอดกฐินในครั้งนี้ ได้ยอดรวมทั้งสิ้น 817,960 บาท