รมช.พณ.ลงพื้นที่เมืองย่าโม  ปล่อยคาราวานจัดร้าน  Smart โชวห่วย พร้อมเยี่ยมชมธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ  หวัง สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง

รมช.พณ.ลงพื้นที่เมืองย่าโม  ปล่อยคาราวานจัดร้าน  Smart โชวห่วย พร้อมเยี่ยมชมธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ  หวัง สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง

  

วันที่  27 มกราคม 2563  นายวีรศักดิ์  หวังศุภกิจโกศล  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  Kick off ปล่อยคาราวานทีมพัฒนาร้าน  Smart โชวห่วย  ณ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน  จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายอภินันท์  เผือกผ่อง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  พร้อมด้วยคณะเป็นผู้กล่าวต้อนรับ

โดยหลังจากที่ท่านได้เป็นประธานในการปล่อยคาราวานแล้ว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ท่านมีความยินดีที่เห็นถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนด้านการพัฒนาร้านโชวห่วยไปสู่  Smart โชวห่วย ที่ได้กำชับให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า  โดยการปล่อยคาราวานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา โดยนำนักศึกษาที่ผ่านการอบรมทีมพัฒนาร้าน Smart โชวห่วย  มาร่วมในการ  จัดร้านและปรับภาพลักษณ์  ให้กับร้านโชวห่วยต่าง ๆ

 

สำหรับการลงพื้นที่  ณ  ร้านโชวห่วยในวันนี้  เพื่อมอบตราสัญลักษณ์ ร้าน Smart โชวห่วยสำหรับติดหน้าร้านเพื่อเป็นเครื่องหมายการันตีสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการตัดสินใจเดินเข้ามาแบบไม่ลังเล ให้กับร้านโอ๋  ตำบลหนองกระทุ่ม  อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา   ทั้งนี้  จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ  และมีประชากรมากเป็นอันดับที่  2  ของประเทศ  มีจำนวนกว่า  2.6 ล้านคน (จากข้อมูลกรมการปกครอง) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมายังพบว่า มีร้านโชวห่วยในจังหวัดที่มีความพร้อมในการพัฒนาเป็น Smart โชวห่วย  จำนวน  4,158 ร้าน  แบ่งเป็นขนาด SS ร้อยละ 62.7  ขนาด S ร้อยละ  19.4 ขนาด M ร้อยละ 13.4 และขนาด L ร้อยละ 4.5

จากนั้น   นายวีรศักดิ์  หวังศุภกิจโกศล  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์   และคณะ จะเดินทางต่อไปเยี่ยมชมสถานดูแลผู้สูงอายุจำนวน  2  แห่ง ในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการอันจะนำไปสู่การผลักดันแนวทางการส่งเสริมธุรกิจดังกล่าวในระดับนโยบายประเทศต่อไป

โคราช!!!เปิดฉากเวทีมิสแกรนด์ 2020 เฟ้นหาสาวงามสู่เวทีระดับประเทศ

เปิดฉากเวทีมิสแกรนด์นครราชสีมา 2020  เฟ้นหาสาวงามเมืองย่าสู่เวทีนางงามระดับประเทศ

กองประกวดมิสแกรนด์นครราชสีมาผู้แทนลิขสิทธิ์โดยบริษัท ดิจิตอล เทเลวิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด (DN Cable TV) จากกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ร่วมกับห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จัดแถลงข่าวการประกวด “มิสแกรนด์นครราชสีมา 2020” ในวันที่ 21 มกราคม 2563 เวลา 17.00 น. ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจากคุณปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา


คุณณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา/กลุ่มที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คุณจารุพักตร์ ปราณีตพลกรัง Provincial Director คุณชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด พร้อมด้วยกลุ่มผู้ร่วมจัดการประกวดมิสแกรนด์นครราชสีมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้  เวที Miss Grand ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2556 โดยมีวัตถุประสงค์ ค้นหาสาวไทย ที่มีคุณสมบัติทั้งความสวย ความรู้ ไหวพริบ ปฏิภาณและความประพฤติที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมไทย นอกจากนั้นยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวไทยจึงจัดให้มีกิจกรรมการเก็บตัวในแต่ละจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดโดยให้นางงามมีส่วนช่วยในการเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีการเก็บตัวแบบให้เป็นอย่างเป็นรูปธรรมการประกวดมิสแกรนด์ประจำจังหวัดนครราชสีมาเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฟ้นหาสาวงามตัวแทนจังหวัดนครราชสีมาขึ้นดำรงตำแหน่ง “มิสแกรนด์นครราชสีมา” ไปสู่การประกวดเวทีระดับประเทศ Miss Grand Thailand โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์และตอบสนองแนวนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดในเรื่องผ้าไหม ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันเลื่องชื่อและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนโดยทั่วไปและเพื่อให้เกิดจิตสำนึกและมีความภาคภูมิใจต่อมาตุภูมิของตนเอง


ภายในงานแถลงข่าวได้เผยถึงสถานที่ในการทำกิจกรรมเก็บตัวมิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 และแฟชั่นโชว์ชุดที่ใช้ในการประกวด อาทิ ชุดกองประกวด ชุดโอเพนนิ่ง และชุดราตรี รวมถึงเปิดตัวสายสะพายถ้วยรางวัลพร้อมมงกุฎประจำตำแหน่ง “มิสแกรนด์นครราชสีมา2020” โดยเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่  1 ธันวาคม 2562 ถึง 30 มกราคม 2563 ระบุวันประกาศผลผู้ผ่านเข้าประกวดรอบคัดเลือกในวันที่  8 กุมภาพันธ์ 2563 ระยะเวลาการเก็บตัวในวันที่ 14 กุมภาพันธ์-17 กุมภาพันธ์ 2563 และการประกวดในรอบตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช
รางวัลของผู้ที่ได้รับตำแหน่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งชนะเลิศมิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมมงกุฎ สายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
รองอันดับที่ 1 มิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 จะได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
รองอันดับที่ 2 มิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
ตำแหน่ง Best Evening Gown ในการประกวดมิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
ตำแหน่ง Best In Swimsuit ในการประกวดมิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ
ตำแหน่ง Miss Popular Vote ในการประกวดมิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ (สำหรับผู้ที่มียอด Like & Share สูงสุดในเพจมิสแกรนด์นครราชสีมา 1 Like เท่ากับ 1 คะแนน 1 Share เท่ากับ 3 คะแนน)  ตำแหน่งขวัญใจชาวโคราช Miss Grand Nakhon Ratchasima 2020 จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศนอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษจากผู้สนับสนุนอีกมากมาย
คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด ดังนี้
1. มีสัญชาติไทย โดยเกิดในประเทศไทย หรือได้รับการเปลี่ยนสัญชาติเป็นสัญชาติไทยแล้ว
2. เพศหญิงโดยกำเนิด
3.ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 167 เซนติเมตร
4.อายุระหว่าง 17-27 ปี (ผู้ที่เกิดระหว่าง ปี พ.ศ.2535-2546)
5.มีบุคลิกดี กิริยาท่าทางดี เฉลียวฉลาด มีความรอบรู้ มนุษยสัมพันธ์ดี มีรูปร่างหน้าตางดงาม
6.โสด ไม่เคยผ่านการสมรสตามกฎหมายหรือขนบธรรมเนียมประเพณีหรือพิธีกรรมทางศาสนา หรือพิธีการใดๆ ทั้งในและต่างประเทศ และไม่เคยมีบุตรหรือตั้งครรภ์มาก่อนจนถึงและในระหว่างการประกวด Miss Grand Thailand รวมทั้งในระหว่างการดำรงตำแหน่งใดๆ ในการประกวด Miss Grand Thailand (กรณีได้รับตำแหน่ง)
7.ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือประกอบอาชีพผิดกฎหมายหรือมีความประพฤติหรือประวัติความประพฤติอันเป็นที่รังเกียจของสังคม อาทิเช่น การถ่ายภาพนิ่ง วีดีโอ หรือการโชว์เรือนร่างในลักษณะอื่นใด อันจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ตำแหน่งใดๆ ในการประกวด Miss Grand Thailand
8.กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมปลายหรือเทียบเท่า
9.มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคที่สังคมรังเกียจ และหรือเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความงาม
10.มีความสามารถพิเศษ ที่โดดเด่น หรือ เห็นได้ชัด และ/หรือ มีทักษะในการสื่อสารทั้งภาษาไทยหรือภาษาต่างๆได้ดี 11. มีคุณธรรม และ จริยธรรม รวมถึงพฤติกรรมที่เหมาะสม กับการเป็นตัวอย่างให้แก่เยาวชน ที่ดี
หลักฐานในการรับสมัคร มีดังนี้ 1.ใบสมัครของทางกองประกวด กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน  2. รูปถ่ายขนาดโปสการ์ด (เห็นหน้าชัดเจน) จำนวน 2 ใบ 3.สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 2 ฉบับ 4. สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 ฉบับ 5.สำเนาสูติบัตร จำนวน 2 ฉบับ 6.สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล(ถ้ามี) จำนวน 2 ฉบับ 7.หลักฐานการศึกษา/หลักฐานการสำเร็จการศึกษา/หนังสือรับรองการทำงาน จำนวน 2 ฉบับ
ผู้ที่สนใจเข้าประกวดสามารถติดต่อขอรับรายละเอียดและซื้อใบสมัครได้ที่ กองประกวดมิสแกรนด์นครราชสีมาตั้งอยู่ที่ บริษัท ดิจิตอล เทเลวิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด (DN Cable TV) ตรอกสุขสันต์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 หรือดาวน์โหลดใบสมัครและระเบียบการได้ที่ Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/missgrandnakhonratchasima พร้อมส่งหลักฐานการสมัครและหลักฐานการโอนเงินได้ที่ koratmissgrand@gmail.com หรือ เพจมิสแกรนด์นครรราชสีมา

แม่ทัพภาคที่2  เชิญชวนระดมทุนของมูลนิธิโรงพยาบาลค่ายสุรนารีจัด คอนเสิร์ตการกุศล โครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วย 8 ชั้น

แม่ทัพภาคที่2  เชิญชวนระดมทุนของมูลนิธิโรงพยาบาลค่ายสุรนารีจัด คอนเสิร์ตการกุศล โครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วย 8 ชั้น

วันที่ 9 ม.ค. 63 ณ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ห้องราชาวดี ชั้น 9  อาคาร.เฉลิมพระเกียรติฯ แถลงข่าวการจัดจัดงาน Open house โดย ท่าน  พลโท ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่2  นายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , นาง ณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พลตรี สุรศักดิ์ ถนัดศีลธรรม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ร่วมแถลงข่าว

พลตรี สุรศักดิ์ ถนัดศีลธรรม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดงาน  การจัดงาน Open house ในวันนี้ เพื่อต้องการประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีเกียรติได้รับทราบถึงศักยภาพของโรงพยาบาลค่ายสุรนารีในการดูแลรักษาท่านและครอบครัว และเพื่อขอโอกาสให้ท่านได้สนับสนุนการให้บริการด้านการแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ได้แก่ การสนับสนุนเงินบริจาคเข้ามูลนิธิโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เพื่อใช้ในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นให้มีความทันสมัยและเพียงพอต่อการขยายบริการเฉพาะทางแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาได้อย่างต่อเนื่อง กระผมและโรงพยาบาลค่ายสุรนารีขอเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของท่านผู้มีเกียรติ และเป็นทางเลือกสำหรับผู้มีจิตศรัทธาในการบริจาคเพื่อต่อยอดการบริการทางการแพทย์ เพื่อประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาอย่างยั่งยืน

ท่านแม่ทัพกล่าวโรงพยาบาลค่ายสุรนารีเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ฝากการบังคับบัญชาไว้กับกองทัพภาคที่2 โดยมีภารกิจสนับสนุนบริการทางการแพทย์แก่กำลังพล , ครอบครัวและประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ตลอดถึงจังหวัดใกล้เคียง  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรงพยาบาลค่ายสุรนารีเปิดให้บริการทางการแพทย์ทั้งในส่วนกำลังพล ครอบครัว และประชาชนทั่วไป ซึ่งผู้ป่วยที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี คิดเป็นสัดส่วนแล้วเป็นประชาชนมากกว่ากำลังพลทหารและครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นโรงพยาบาลกองทัพบกที่มีผู้ป่วยศรัทธาและไว้วางใจมารับบริการด้านการแพทย์เป็นจำนวนมาก  ดังนั้นทางโรงพยาบาลค่ายสุรนารีจึงได้มีแผนในการสร้างอาคารตึกใหม่ เพื่อเปิดให้บริการผู้ป่วยอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องมีควบคู่กับอาคาร ก็คือเครื่องมือแพทย์ต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะช่วยให้การดูแลรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  ด้วยเหตุนี้จึงได้เชิญชวนภาคเอกชน คหบดี และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ได้พิจารณาให้การสนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ท่านอาจบริจาคเป็นเงินหรือบริจาคในรูปแบบเครื่องมือแพทย์ให้กับทางโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เพื่อให้มีไว้ใช้บริการให้กับประชาชนที่เจ็บป่วยในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  กล่าว กระผมจึงขอเชิญชวนให้ภาคเอกชนและแขกผู้มีเกียรติ และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านได้เห็นถึงความจำเป็นในการสนับสนุน ระดมทุนของมูลนิธิโรงพยาบาลค่ายสุรนารีในครั้งนี้ การบริจาคของท่านจะช่วยให้โรงพยาบาลค่ายสุรนารี มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ครบครันและเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่ ที่สามารถให้การดูแลสุขภาพของท่านและครอบครัวได้ดี โดยที่ไม่ต้องออกไปรับบริการที่โรงพยาบาลนอกพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วนในจังหวัดนครราชสีมาจะให้ความร่วมมือประสานงานและบูรณาการ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาของพวกท่านตลอดไป

นายกเหล่ากาชาด กล่าวจังหวัดนครราชสีมาในนาม นายกเหล่ากาชาด จังหวัดนครราชสีมา โรงพยาบาลค่ายสุรนารีได้ให้ความร่วมมือในกิจกรรมของกาชาดจังหวัดนครราชสีมาด้วยดีมาตลอด ได้แก่การออกรับบริจาคโลหิตช่วยเหล่ากาชาดนครราชสีมาโรงพยาบาลได้สนับสนุนบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์รับบริจาคโลหิตและงานด้านสาธารณะสุข อื่นๆของเหล่ากาชาดเพื่อให้ประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา มีสุขภาพ ที่ดี มีโลหิต ที่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย ในกรณีฉุกเฉินโรงพยาบาลค่ายสุรนารีจึงเป็นสถานพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาที่มีความพร้อมในการให้บริการประชาชน ดิฉันขอเป็นส่วนหนึ่งในการขอความร่วมมือ จากท่านผู้มีเกียรติในที่นี้ ในการสนับสนุนการบริจาคเข้ามูลนิธิ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี  เพื่อนำไปจัดหาสิ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการบริการประชาชนของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นการช่วยแบ่งเบากิจกรรมของเหล่ากาชาดอีกทางหนึ่ง     ต่อจากนั้นท่านแม่ทัพภาคที่2ได้เยี่ยมชมตึกอาคารผู้ป่วยชั้น8โดยได้เดินทางไปห้องพิเศษอีกด้วยแล้วจีงเดินทางกลับ

คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวจัดฟุตบอล สานสัมพันธ์พี่ช่วยน้อง ครั้งที่ 1 คืนเด็กดีสู่สังคม ประจำปี 2562

คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันจัดฟุตบอล สานสัมพันธ์พี่ช่วยน้อง ครั้งที่ 1 คืนเด็กดีสู่สังคม ประจำปี 2562


วันที่ 22 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. ที่ บริเวณ Mall Parc ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ รองประธาน กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาและศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 พร้อมด้วยคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจฯ ร่วมกับ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา และสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดให้มีการแถลงข่าวโครงการ “ฟุตบอลสานสัมพันธ์พี่ช่วยน้อง”ครั้งที่ 1 คืนเด็กดีสู่สังคม ประจำปี 2562
โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุรสิทธิ์ สิงห์หลง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการแถลงข่าวร่วมกับ นายบุญธรรม รอบคอบ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา , ดร. รัตนะ วรบัณฑิต ผู้อำนวยารศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ,นายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด,นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา /รองคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา , นายวรภพ จำนงจิตร และ ตุ๋ย ด๊ะดาด ตัวแทนศิลปิน  ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อมอบเป็นเงินสนับสนุนกองทุนฟื้นฟูดูแลเด็กและเยาวชน ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตั้งระบบประปาและเจาะน้ำบาดาล ทดแทนระบบเดิมที่ชำรุดภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการเปิดบ้านให้กลุ่มองค์กรเข้ามามีส่วนร่วม และเยี่ยมชม พร้อมให้กำลังใจแก่เด็กและเยาวชนภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา และ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ โดยนำศิลปิน ดารา ร่วมกันแสดง และร้องเพลง รวมทั้งการร่วมกิจกรรมฟุตบอล และเพื่อกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนรับรู้ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านจิตใจและอารมณ์ ไปในทิศทางที่ดีขึ้น


โดยมีรูปแบบการดำเนินการแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 รูปแบบ ในโครงการเดียวกันประกอบด้วย 1.การจัดการแข่งขันฟุตบอลการกุศล ภายใต้ชื่อ “โครงการฟุตบอลสานสัมพันธ์พี่ให้น้อง ครั้งที่ 1” โดยแบ่งเป็น 8 ทีม คัดเลือกผู้ชนะเลิศอันดับ 1,2,3,4 รับถ้วยรางวัลจากแม่ทัพภาคที่ 2 ถ้วยจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา โดยในวันปิดการแข่งขันจะมีฟุตบอลคู่พิเศษ ระหว่างทีมรวมดารา – ศิลปิน พบกับทีม VIP จังหวัดนครราชสีมา (ทีมดารา – ศิลปิน ประกอบด้วย ไผ่ พงศธร, เสถียร ทำมือ , แสน นากา ตุ๋ย ดะดาด , วงระเงียว , หน่อง บ้านนอกแบรนด์ เป็นต้น) 2. การจัดกิจกรรมมินิคอนเสิร์ต นำโดยศิลปินจิตอาสา ไผ่ พงศธร, เสถียร ทำมือ , แสน นากา ตุ๋ย ดะดาด , วงระเงียว , หน่อง บ้านนอกแบรนด์ เป็นต้น และ 3 การจำหน่ายเสื้อเพื่อสมทบทุนสำหรับพี่ที่ให้น้องนำไปต่อยอดด้านการฝึกอาชีพ โดยจำหน่าย ตัวละ 250 บาท สามารถซื้อได้ที่ สถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา โทร 044-222435-6 ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา โทร 044-222-321 และ จุดจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา
ทั้งนี้สถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ให้การควบคุมดูแลบำบัด แก้ไขฟื้นฟูเด็กและเยาวชนและศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้มีเด็กและเยาวชนอยู่ในความดูแล รวมทั้งสองหน่วยงานประมาณ 580 คน ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานได้รับหน้าที่ให้ดูแลเด็กและเยาวชนให้เด็กได้มีคุณค่าทางสังคมโดยได้นำกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านกีฬาและการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เพื่อให้เด็กได้พัฒนา และเป็นคนดีคืนสู่สังคมตามโครงการของกรมคุ้มครองเด็กและเยาวชนและด้วยโครงการนี้ได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมด้วยการแข่งขันกีฬาฟุตบอลการกุศลเพื่อกระชับมิตรระหว่างองค์กรและหน่วยงาน โดยนำรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายมาช่วยเหลือต่อไป
และจะมีการแข่งขันในวันที่ 30 พ.ย.62 ที่สนามฟุตบอลเอกสีมา และวันที่3 ธ.ค.62 ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต3 จังหวัดนครราชสีมา

 

เริ่มแล้ว พิธีบุญฤทธิ์ “โกยห่าน”ลุยแก้ว ข้ามสะพาน สะเดาะเคราะห์ 12 ราศี ถือศีลกินเจโคราช

เริ่มแล้ว พิธีบุญฤทธิ์ “โกยห่าน”ลุยแก้ว ข้ามสะพาน สะเดาะเคราะห์ 12 ราศี ถือศีลกินเจโคราช

ที่บริเวณลาอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา  ได้มีการจัดพิธี (โกยห่าน) เดินข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ 12 ราศี ล้างความอัปมงคล โดยได้รับเกียรติจาก  นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายชาญชัย  บัวสรวง  ประธานสโมสรกีฬาจักรยาน  จังหวัดนครราชสีมา และนายเศรษฐพัฒน์  เจริญเศรษฐโสธร  ผู้อำนายการหนังสือพิมพ์โคราชอินไซด์ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้

ด้าน นายภิญโญ วัจนศิริเสถียร ประธานชมรมไทย – จีน และประธานเทศกาลถือศีลกินเจโคราชประจำปี 2562 กล่าวว่า วันนี้เราได้ทำ พิธี ‘โกยห่าน’ หรือ พิธีเดินข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ 12 ราศี เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปจากเรา และนอกจากนี้ร่างทรงจะมีการเดินบนเศษแก้ว เอาเศษแก้วมาถูใบหน้า และเอาร่างกายทูไปมากับเศษแก้ว เพื่อให้ประชาชนได้ชม เชื่อว่าเป็นการทดสอบความบริสุทธิ์ของร่างทรง ซึ่งความคมของเศษแก้วก็ไม่ระคายผิว ถือว่าร่างทรงเป็นเทพเจ้ารักษาร่างนั้นเนื่องจากเป็นร่างที่บริสุทธิ์มีจิตใจปฏิบัติดีจึงไม่เป็นอันตราย ซึ่งถือว่าในหนึ่งปีจะต้องมีการล้างความอัปมงคล และผู้ที่ผ่านพิธีนี้แล้ว จะรู้สึกเสมือนได้ชำระล้างสิ่งชั่วร้ายออกจากร่างกายและจิตใจ รู้สึกว่ามีจิตใจผ่องใสปราศจากทุกข์โศกและสิ่งชั่วร้าย และจะมีโชคดีตามมา

นอกจากนี้ ยังมีการนำประชาชนไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน, การเดินธูปช่วงกลางคืน, และพิธีเดินข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ 12 ราศี หรือ “โกยห่าน” เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์แก่ผู้ที่มาร่วมงาน โดยการนำของม้าทรงจากศาลเจ้าต่างๆ เพื่อรับโชคและเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัวตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีน

ทั้งนี้ สำหรับเทศกาลถือศีลกินเจของ จ.นครราชสีมานั้น ถือว่าเป็นเทศกาลประจำปีที่ชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 14 ที่จัดอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-7 ตุลาคม 2562 มีการเปิดโรงทานเลี้ยงอาหารเจ 3 มื้อให้กับประชาชนทั่วไป

เดอะเปียโนรีสอร์ทเขาใหญ่ เปิดบ้านในวันคล้ายวันเกิด ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์  มอบเปียโนไฟฟ้า มูลค่ากว่า 400,000 บาท ให้ 4 โรงเรียนที่ขาดแคลน

เดอะเปียโนรีสอร์ทเขาใหญ่ เปิดบ้านในวันคล้ายวันเกิด ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์  มอบเปียโนไฟฟ้า มูลค่ากว่า 400,000 บาท ให้ 4 โรงเรียนที่ขาดแคลน

วันที่ 30  กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ที่เดอะเปียโนรีสอร์ทเขาใหญ่  อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา  ว่าที่ร้อยตรี อภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบเปียโนไฟฟ้าเพื่อการศึกษาให้กับ 4 โรงเรียนที่ขาดแคลน เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์  โดยมี นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง  นายชัชวาล  วงศ์จร ประธานหอการค้า จังหวัดนครราชสีมา นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา และแขกผู้มีเกียรติอีกมามายมาร่วมอวยพรในครั้งนี้

ทั้งนี้ เนื่องวันวันคล้ายวันเกิดของ ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์  นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่และเจ้าของเปียโนรีสอร์ทเขาใหญ่ และเป็นผู้ประกอบการโรงเรียนสยามกลการ สาขาจังหวัดนครราชสีมา  ผู้ที่หลงใหลเสียงเพลงและดนตรี ท่านจึงได้มีปณิธานในการส่งเสริมการเล่นดนตรีให้กับกลุ่มคนหลายกลุ่ม  อาทิ กลุ่มองค์กร  ชุมชน เยาวชน  โดยท่านได้มีความประสงค์ที่จะมอบเปียโนไฟฟ้าให้กับเด็ก ๆ นักเรียน  เยาวชน โรงเรียนที่ขาดแคลน และได้มอบหมายให้ นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา  เป็นสื่อกลางในการประสานหาโรงเรียนที่ต้องการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนเครื่องคนตรี  โดยกิจกรรมนี้ ได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2554 จนถึงปัจจุบัน รวม 8 ปี

โดยในปีนี้ 2562  มีโรงเรียนที่เข้ารับมอบเปียโนไฟฟ้าฟ้าทั้งสิ้น  4  โรงเรียน โรงเรียนละ 2 เครื่อง ประกอบด้วย 1.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา 2.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา 3. โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ และ 4 โรงเรียนบ้านหนองขนาก อ.เสิงสาง (โรงเรียนที่เกิดเพลิงไหม้) รวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท

>ภาพบรรยากาศ<<

พิธีปิดโครงการคืนเด็กดีสู่สังคมเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พิธีปิดโครงการคืนเด็กดีสู่สังคมเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และวันเฉลิมพระชนมพรรษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา

นางสาวศิริรัตน์  สีนวล  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดโครงการคืนเด็กดีสู่สังคมเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และวันเฉลิมพระชนมพรรษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี ดร.รัตนะ  วรบัณฑิต ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้กล่าวรายงาน

ทั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายบุญธรรม  รอบคอบ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา นายอภิชาต   ติยวัฒน์ ประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาและศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3  จังหวัดนครราชสีมา นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา  มาร่วมมอบใบบริสุทธิ์ ให้กับเยาวชนที่ได้รับการปล่อยตัว จำนวน  139 ราย โดยแยกเป็น  เยาวชนที่ได้รับการพิจารณาปล่อยตัว  จำนวน  40  ราย เยาวชนที่ได้รับการพิจารณายุติคดี (ม 132)  จำนวน  14  ราย   เยาวชนที่ได้รับการพิจารณายุติคดี (ม 132)/สถานพินิจ  จำนวน  120  ราย  และได้รับการพิจารณาให้ลดระยะเวลาฝึกอบรม  จำนวน 65 ราย  โดยเยาวชนทั้งหมดนี้ ได้รับพิจารณาคัดเลือกเยาวชนที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกำหนดและผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วยกิจกรรมจิตอาสากิจกรรมปฏิบัติธรรมหรือศาสนกิจ

>ภาพบรรยากาศ<<

คนไทยไม่ทิ้งกัน  กลุ่มศิลปินโคราชร่วมกันจัดฟรีคอนเสิร์ต  ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคอีสานที่ลานย่าโม

คนไทยไม่ทิ้งกัน  กลุ่มศิลปินโคราชร่วมกันจัดฟรีคอนเสิร์ต  ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคอีสานที่ลานย่าโม

            

วันที่  20  กันยายน 2562 ที่ผ่านมา  ตั้งแต่เวลา  14.00 – 24.00 น.  ที่บริเวณเวทีลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี    ได้มีการจัดกิจกรรมขอรับบริจาคสิ่งของและปัจจัย  เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   จัดโดยสมาคมนักข่าว  จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ มูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถานจังหวัดนครราชสีมา ,  ชมรมผู้ประกอบการร้านค้า จังหวัดนครราชสีมา,คณะกรรมการสถานสงเคราะห์เด็กและเยาวชน เขต 3  จังหวัดนครราชสีมา  ,ชมรมผู้ประกอบการ แสง สี เสียง แห่งประเทศไทย (จังหวัดนครราชสีมา) และบริษัท ทริปเปิลทีบรอดแบนด์ จำกัด โดยได้รับเกียรติจาก นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา และคุณจีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นประธานในการเปิดกิจกรรมครั้งนี้ พร้อมด้วยตัวแทนจากหลายองค์กรที่ได้นำสิ่งของ และเงินมาร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก           และในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากกลุ่มศิลปินนักร้องจังหวัดนครราชสีมา   อาทิ   คำมอด  พรขุนเดช  ,วงระเงียว ,หม้อดิน,       บุปสบา ,  ตุ๋ย ดะดาด  วงเพลิน , โออิชิ , วงเยาวชน อูคูเลเล่โคราช ,วงดินเหนียว ,วงปูสมอหิน และวงมะละกอ       เป็นต้น มาสลับสับเปลี่ยนกันสร้างความสุขให้กับผู้ที่มาร่วมบริจาคและพี่น้องประชาชนที่ผ่านไปมา ณ บริเวณลานคุณย่าโมท่ามกลางบรรยากาศฝนที่โปรยมาอย่างชุ่มฉ่ำในบางช่วงบางตอน

ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว ผู้มีจิตศรัทธา  ได้ร่วมบริจาคสิ่งของ  อาทิ  เครื่องนุ่งห่ม  ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เครื่องใช้ส่วนตัว  เป็นต้น  และยอดเงินที่ได้รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้    ยอด  57,179.50 บาท  โดยคณะผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมได้มอบสิ่งของ และเงินทั้งหมดให้กับ มูลนิธิหลักเสียงเซียงตึ้ง สว่างเมตตาธรรมสถาน  จังหวัดนครราชสีมา  เป็นผู้ดำเนินการส่งต่อให้กับผู้ประสบอุทกภัยต่อไป

 

ผู้ว่าโคราช..นำอุปกรณ์รถเข็นขายลูกชิ้น และสิ่งของยังชีพไปมอบให้กับ นางสุข ศรทอง ที่เลี้ยงหลานลำพัง

ผู้ว่าโคราช..นำอุปกรณ์รถเข็นขายลูกชิ้น และสิ่งของยังชีพไปมอบให้กับ นางสุข ศรทอง ที่เลี้ยงหลานลำพัง

วันที่ 13 กันยายน 2562 ที่ตลาดประชารัฐวันศุกร์ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำอุปกรณ์รถเข็นขายลูกชิ้น และสิ่งของยังชีพไปมอบให้กับ นางสุข ศรทอง อายุ 62 ปี ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายเล็กๆน้อยๆ และอาชีพเก็บของเก่าขายภายในชุมชนริมทางรถไฟ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยนางสุขฯเป็นสมาชิก อสม.และมีจิตใจเมตตาเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูเด็กชายทรงภพ ชมภู่ หรือน้องปังปอนด์ อายุ 9 เดือน และเด็กหญิงวันวิสา ชมภู่ หรือน้องบอล อายุ 10 ปีพี่สาว


เนื่องจากมารดาของเด็กเสียชีวิตและบิดาก็ไม่สนใจเลี้ยงดูบุตรของตนเองแลัไม่ทราบว่าย้ายไปอบู่ที่ใด ทั้งนี้ทางจังหวัดฯได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ หาที่อยู่อาศัย มอบเงินและอุปกรณ์หาเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นรถเข็นและกระทะเหล็กสำหรับขายลูกชิ้นทอด และมอบเงินลงทุนจำนวน 5,000 บาท มอบให้กับนางสุขฯ ไว้เพื่อทำทุนในการค้าขายเชื่อว่าจะทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง

พิธีเปิดโครงการ “ ๑๐๑ อาชีพ”เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๑๐

พิธีเปิดโครงการ “ ๑๐๑ อาชีพ”เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๑๐

วันนี้   ที่วัดดอนขวาง  ตำบลหัวทะเล  อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมา  ว่าที่ร้อยตรี นิรันดร์  ดุจจานุทัศน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด  โครงการ “๑๐๑ อาชีพ”  เฉลิมพระเกียรติ  เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  กระทรวงแรงงาน  โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน  ๕  นครราชสีมา  ดำเนินการจัดกิจกรรมขึ้น  จำนวน  ๒  กิจกรรมได้แก่การพัฒนาทักษะ ๑๐๑  อาชีพ  และการจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์  เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเทนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร  กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช  สยามินทราธิเบศรราชวโรดม  บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  เนื่องในโอกาสมหามงคล  พระราชพิธีบรมราชาภิเษก  พุทธศักราช ๒๕๖๒

ทั้งนี้  นายสุเมธ  โศจิพลกุล   ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน   ๕  นครราชสีมา  ในนามผู้ดำเนินโครงการ “๑๐๑ อาชีพ” เฉลิมพระเกียรติ  เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  เนื่องในโอกาสมหามงคลการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักกรี  ทั้งนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  กระทรวงแรงงาน  สำนึกอย่างหาที่สุดไม่ได้ในพระมหากรุณาธิคุณและการได้สนองเบื้องพระยุคลบาทอย่างต่อเนื่องในการปฎิบัติภารกิจและหน้าที่ด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีศักยภาพสูงสุด  รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างประเทศ  ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ  โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ  และประชาชนเป็นสำคัญ  จึงขอน้อมนำศาสตร์พระราชา  ตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียง  โดยส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสพัฒนาทักษะ ในการประกอบอาชีพของตนเองเพื่อให้มีอาชีพ  มีรายได้  ที่มั่นคง  และประยุกต์ใช้ความรู้จากแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสู่การดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนด้วยการจัดฝึกอบรมทักษะ ๑๐๑ อาชีพให้แก่ประชาชนที่สนใจ  จำนวน  ๒ รุ่น รุ่น ๆ ๒๐ คน  รวมเป็น  ๔๐ คน ฝึกอบรมระหว่างวันที่  ๒๑ – ๒๓ สิงหาคม  ๒๕๖๒   ณ วัดดอนขวาง  ต.หัวทะเล  อ.เมือง จ.นครราชสีมา