ทนไม่ได้!!กลุ่ม ผอ.โรงเรียนโคราช…วอนรัฐช่วยกรณีขอความเป็นธรรมสนามฟุตซอล

ทนไม่ได้ กลุ่ม ผอ.ร.ร.วอนรัฐบาลช่วยด้วย ออกแถลงการณ์ในนามชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา ชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ
วันที่13 สิงหาคม 2563 ณ หอประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดนครราชสีมา เปิดประชุมชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาโดยอาจารย์ ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา ประธานนายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ประธานชมรมฯ)กล่าวโฟนอิน พบกับ พลเรือเอก บรรณวิทย์ เก่งเรียน เจ้าของฉายา” นายพลคนกล้า ” สถานีโทรทัศน์ ช่อง13 สยามไทย

ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่าการเสวนาปัญหาและผลกระทบกรณี โครงการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์งบประมาณ ปี 2555(สนามฟุตซอล ) โดยนายปฐมฤกษ์ มณีเนตร และคณะ ได้มอบเอกสารให้แก่ผู้ร่วมประชุม ในนามชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตเปิดโปงอย่างสร้างสรรค์ รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม


ต่อมาได้แสดงพิธีให้สัตย์ปฏิญานต่อแผ่นดิน โดยนายสุรัตน์ มุ่งอิงกลางได้ เชิญอาจารย์ปู่ ดร. ปียะพัชร์ เดชจรรยา และผู้มีเกียรติ ขึ้นเวทีและ ประกอบพิธีอัญเชิญปวงเทพเทวา ครูอาจารย์ ชุมนุมเทวดาอาจารย์ และผู้มีเกียรติ โปรยทรายศักดิ์สิทธิและได้เชิญอาจารย์(ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา ลั่นฆ้องชัย ปี่พาทย์ ประโคม เพลงมหาฤกษ์ผู้เข้าร่วมพิธี ร่วมร้องเพลงครูในดวงใจ
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม ผอ.โรงเรียนแห่หนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาซึ่งได้โดนคดีฟุตซอล ที่ได้เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้แล้วพูดด้วยน้ำตานองเต็มตาสองดวงต่อหน้าผู้ที่มาประชุม กล่าวว่าตนนั้นได้ออกจากราชการแล้ว วอนสื่อช่วยพี่ด้วย

แถลงการณ์จากชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเสนอผ่าน ท่านวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาด้วยชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรม และสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ และพี่น้องประชาชนทั่วไป มีความห่วงใยประเทศชาติด้วยเกรงว่าจะเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายในสังคม ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ซึ่งสาเหตุมาจาก


ข้อที่ 1 บุคลากรทางการศึกษา คุณครูในจังหวัดนครราชสีมา ได้ถูกชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช. ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ จำนวน 7 คน และกำลังจะมีคำสั่งไล่ออกอีกจำนวน 55 ราย ในกรณีสนามฟุตซอลที่เป็นข่าวปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี
ข้อที่ 2 บุคลากรทางการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านพิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ชี้มูลความผิดต่อบุคลากรทางการศึกษานั้นได้กระทำอย่างไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลยมีอคติ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา215 เป็นการกระทำแบบเหมาเข่ง เหมือนทำตามความต้องการของใคร คนใดคนหนึ่ง โดยไม่เกรงกลัวกฎระเบียบข้อบังคับใด ๆ ของสังคม อันเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน อย่างสุดแสนที่จะทนได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากของสังคมไทย
ข้อที่ 3 บุคลากรทางการศึกษาที่เดือดร้อนมิได้ร้องขอสิ่งที่เกินไปกว่าสิทธิอันพึงมีของพวกขาคือ “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ตอกย้ำถึงจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ว่า “มนุษย์ยอมทนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นความอยุติธรรมจะทนไม่ได้”
ข้อที่ ๔ ทางชมรมฯ เกรงว่าเรื่องนี้จะลุกลามใหญ่โต จะเกิดความวุ่นวายในสังคมไทย จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนผู้เสียภาษีในสังคมได้โปรดพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น นักการเมือง, ผู้รับเหมา, คุณครู และอื่นๆเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็ว เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษให้จงได้
ข้อที่ 5 พวกข้าพเจ้า จะขอต่อสู้เคลื่อนไหวในทุกช่องทางที่สามารถทำได้ ภายใต้กฎระเบียบ ข้อบังคับของสังคมไทย ขอกราบเรียนด้วยความเคารพว่านี่เป็นคำสั่งที่อัปยศขององค์กร ป.ป.ช. ที่มีต่อบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต
ข้อที่ 6 ตามบทบัญญัติรัฐธรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 215ไต้บัญญัติไว้ว่า องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้น ให้มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจขององค์กรอิสระต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ ในประวัติศาสตร์แห่การรวมพลังต่อสู้อย่างทระนงองอาจ ในอดีตที่ผ่านมาของบุคลากรทางการศึกษาของไทย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาแล้วอย่างมากมาย พวกข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าหากปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ถูกแก้ไขอย่างทันการณ์ คนไทยอาจได้เห็นปรากฎการณ์เช่นนั้นอีกด้วยความเคารพปรารถนาดีจากชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ และพี่น้องประชาชนทั่วไป(ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา) เลขาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ (นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร)ประธานชมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา

โคราช..ฉลองแชมป์วอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก พร้อมพิธีบวงสรวงคุณย่าโมและมอบไข่ไก่ 10,000ฟองให้ประชาชน

“งานฉลองแชมป์ วอลเลย์บอล ไทยแลนด์ลีก ของทีมนครราชสีมา”
We Are The Champions 6 timesในวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2563
ผู้สื่อข่าวรายว่าณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีผู้ร่วมงานและผู้มีเกียติ พร้อมกัน ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าว ประชาชนที่มารับไข่ไก่ จำนวน 500 คน และพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือคุณย่าโม พิธีมอบไข่ไก่ จำนวน 10,000 ฟอง ผู้มอบคณะกรรมการสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา และนักกีฬา ประมาณ 40 ท่าน


เริ่มตั้งขบวนรถแห่ถ้วยฉลองแชมป์ We Are The Champions 6 timesกิจกรรม15.00 น. เคลื่อนขบวนรถแห่ถ้วยฉลองแชมป์ We Are The Champions 6 timesสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมาไปตามเส้นที่กำหนด (หน้าย่าโม -ผ่านแยกไอที – ผ่านแยกบิ๊กซี -กลับรถหน้า รพ.กรุงเทพราชสีมา -The mal นครราชสีมา)นักกีฬา / กองเชียร์ที่โบกรงสะบัด เดินเข้าประตูทางน้ำตกจากนั้นนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานในพิธี นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา กล่าวรายงานคุณซินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวแสดงความยินดีพร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภอดีต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและนางปทุม พรรพิสุทธิ์ รองประธานบริษัทสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา จำกัด


ต่อจากนั้นนายวัชพล โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมาได้มอบโล่ ให้. ผู้สนับสนุนและนายวัชพล โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมามอบโล่ ให้นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาจากนั้นนายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา คนใหม่กล่าวและร่วมรับชมการแสดง นักกีฬา ร้องเพลงโดย คุณชัชชุอร โมกศรี บุ๋มบึม (ตัวแทนทีมหญิง)และ คุณธนโชติ ทองด้วง บอล (ตัวแทนทีมชาย)คณะนักกีฬาวอลเลย์บอล มอบเสื้อการแข่งขันให้แฟนคลับเสร็จพิธี

แถลงข่าวรวมพลคนหัวใจเสือเพื่อสุขภาพสู้โควิด TOUR OF KORAT 2020 ใจเกินร้อย ครั้งที่ 7 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี 2563

วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 13.00 น. ณ เดอะมอลล์โคราช ได้จัดให้มีการแถลงข่าว กิจกรรม Tour of Korat 2020 ใจเกินร้อย ครั้งที่ 7 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ประจำปี 2563 โดยได้รับเกียรติจาก นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในการแถลงข่าวครั้งนี้ ร่วมกับ นายธนิต จิตละมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ดร.สราวัธ กุสุมภ์ หัวหน้างานวิทยาศาสตร์การกีฬาภูมิภาค ผู้แทน ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 3 นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา นายชาญชัย บัวสรวง ประธานสโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา และ นายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้


สำหรับกิจกรรม Tour of Korat 2020 ใจเกินร้อย ครั้งที่ 7 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ประจำปี 2563 จัดขึ้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารีประจำปี 2563 เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนและประชาชนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการเดินทางด้วยจักรยานและเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนและบุคคลทั่วไปหันมาร่วมมือกันลดสภาวะโลกร้อน และเพื่อส่งเสริมงบประมาณสนับสนุน สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อพัฒนาความสามารถและทักษะไปสู่การแข่งขันกีฬาระดับชาติ อีกทั้งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังได้ร่วมช่วยเหลือองค์กรสาธารณะอื่น ๆ อีกด้วย
แต่เนื่องจากในห้วงของเดือนมีนาคม 2563 ประเทศไทยได้ประสบปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 จึงไม่สามารถที่จะดำเนินกิจกรรมได้ ทางคณะผู้จัดจึงได้เลื่อนการปั่นจักรยานมาเป็นเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้อนุญาตให้สามารถจัดกิจกรรมการปั่นจักรยานได้ โดยต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วย การรักษาระยะห่าง และต้องทำการวัดอุณหภูมิบุคคลที่จะเข้ามาภายในกิจกรรมดังกล่าว


Tour of Korat 2020 ใจเกินร้อย ครั้งที่ 7 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ประจำปี 2563 เป็นการปั่นจักรยานทางเรียบ ระยะทาง 65 กิโลเมตร 20 กิโลเมตร และรุ่น VIP โดยจะมีการแข่งขันประเภททีม เพื่อรับถ้วยรางวัลจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามและขอใบสมัครได้ที่ สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา เดอะมอลล์นครราชสีมา หมายเลขโทร 044 – 267 411 และ 086 – 261 6661 ID Line: TOUROFKORAT19 , FB: Tout of Korat จักรยานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี

สพร. 5 นครราชสีมา จัดสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME

ที่ห้องประชุมโรงแรมซิตี้พาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ร้อยเอกกิจสมพงษ์ กล้าหาญ แรงงานจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME และเครือข่ายเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยมีหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ ผู้ประกอบกิจการ SME กลุ่ม otop กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้นำชุมชน และผู้นำกลุ่มอาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 85 คน

    โดยแรงงานจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า  ผู้ประกอบธุรกิจ SME ในจังหวัดนครราชสีมา             มีกว่า 9,000 แห่ง  มากถึง 97 %  ของกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหมด  ดังนั้น  จึงต้องมีการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถแสดงถึงประสิทธิภาพในการทำงาน  ของปัจจัยการผลิตด้านแรงงาน  เพื่อใช้เปรียบเทียบผลงานทางด้านเศรษฐกิจ โดยการวัดจากอัตราส่วนของผลผลิตกับจำนวนแรงงานในระบบเศรษฐกิจ
    โดยในช่วงเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา  ผลิตภาพแรงงานของประเทศไทยขยายตัวอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ  และมีแนวโน้มลดลง สะท้อนว่าประเทศไทยมุ่งเน้นปัจจัยด้านเงินทุน  และปริมาณแรงานมากกว่าการพัฒนาคุณภาพแรงงาน  ทำให้ไม่สามารถพัฒนาไปสู่การใช้เทคโนโลยีชั้นสูง  เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตได้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานในฐานะหน่วยงานภาครัฐ   ที่มีภารกิจในการขับเคลื่อนผู้ประกอบกิจการและแรงงานให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน  จึงได้จัดทำ โครงการเพิ่มผลิตภาพแรงาน สู่ SME 4.0 ขึ้น  โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแก่ผู้ประกอบกิจการ SME กลุ่ม OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชน/   หรือกลุ่มสหกรณ์  ผ่านกระบวนการเพิ่มผลิตภาพแรงงานผลักดัน  ให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  นวัตกรรมแปลกใหม่  และการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อรองรับการพัฒนาสู่ SME 4.0 

ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา

    กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  จึงมอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา                   จัดสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME และเครือข่ายเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  ประจำปีงบประมาณ 2563 ขึ้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร  และทิศทางแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในยุค 4.0  สมรรถนะที่จำเป็นในการที่จะเป็นผู้ประกอบกิจการในอนาคต  และสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการให้คำปรึกษาการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  และขับเคลื่อนการพัฒนาผู้ประกอบกิจการ  เพื่อสร้างความเข้มแข็งกับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

” แบ่งปันอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด19 โรงเรียนของหนู “

” แบ่งปันอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด19 โรงเรียนของหนู “
ผู้บริหารศูนย์ฝึกเด็กและเยาวชนเขต 3 และสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมให้แรงใจร่วมบริจาค โรงเรียนห่างไกลช่วง วันสัปดาห์แรกหลังการเปิดเรียนและช้วงเฝ้าระวัง สถานการณ์ระบาด covid- 19

คณะผู้ใหญ่ใจดีเดินทางมอบหน้ากากอนามัย 1,100 ชุดและเจลแอลกอฮอล์ให้โรงเรียน 4 แห่งประกอบด้วย โรงเรียนทับ6 วิทยาคาร, โรงเรียนบ้านโนนประดู่, โรงเรียนบ้านดอนเมือง,โรงเรียนโนนกราดเขตต.หนองน้ำใสอ.สีคิ้วจ.นครราชสีมา ครั้งนี้โดยคณะผู้ใหญ่ใจดี ดร.รัตนะ วรบัณฑิต ผอ.ศูนย์ฝึกเด็กและเยาวชนเขต 3 และ นายคมกรฤษณ์ แสงจันทร์ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาพร้อมนาย ฐิติรัตน์พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา และนายวิเชียร เพ็ญสาริกาคณะสื่อมวลชนส่งมอบอุปกรณ์ ป้องกัน โรคระบาด covid-19 นายเมธี ศรีคำ ผู้อำนวยการและ คณะผู้บริหารโรงเรียน ทับ6 วิทยาคารพร้อมคณะครูและนักเรียน 254 คนรับอุปกรณ์หน้ากากอนามัยและ เจลล้างมือแอลกอฮอล์ จำนวนรวม 1,100 ชิ้น

เพื่อให้เด็ก เยาวชนโรงเรียนที่ห่างไกล ได้มีอุปกรณ์ป้องกัน โรคระบาดในช่วงเปิดเรียนในสัปดาห์แรกการเปิดภาคเรียนที่1หลังวิกฤตโรคโควิด19ระบาดเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันในโอกาสนี้ทางคณะผู้บริจาคได้ช่วยเหลือสิ่งของจาก ผลงานของเยาวชนศูนย์ฝึก เด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมแบ่งปันให้ เยาวชนในโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลขาดแคลนเครื่องป้องโรคเขตอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ได้กระจายแจกกันอีกครั้ง….

Midnight Korat Car Free Day ปั่นเรืองแสงครั้งแรก ของประเทศฟรี!!!

โคราช มิดไนท์ คาร์ ฟรี เดย์ ปั่น เรืองแสงครั้งแรกของประเทศ ฟรี!!!
วันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2563 เวลา 11.00 น.
นายชาญชัย บัวสรวง กรรมการสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา และประธานสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา ณ.เซ็นทรัลโคราช
นายชาญชัย บัวสรวงร่วม นายฐิติรัตน์ พุทธรักษ์ รองประธานสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัด ได้ให้สัมภาษณ์กับ ผู้สื่อข่าว สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา จากการเตรียมความพร้อมจัดงานจักรยานหลังมีการปลดล็อกในวันที่ ๑ ก.ค. นี้ จะมีการสรุปการประชุมกรรมการสโมสรจักรยานจังหวัดนครราชสีมาชวนปั่นจักรยานโครงการ “โคราช มิดไนท์ คาร์ ฟรี เดย์”ปั่นเรืองแสง ยามค่ำคืน ครั้งแรกของประเทศแบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ปั่นจักรยานรอบเมืองโคราชประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา เช่น วัดพระนารายณ์มหาราช ศาลหลักเมือง อนุสาวรีย์คุณย่าโม,รอบคูเมืองโคราช วัดรอบตัวเมืองโคราช เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว, การออกกำลังกาย และรณรงค์ให้ใช้จักรยานเพื่อเป็นยานพาหนะ ข้าจะมีผู้ร่วม จำนวนนักกีฬาประมาณ มากกว่า ๑๐๐ คน จะแบ่งนักกีฬาออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน ๒๐ คน โดยร่วมจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมาจัดกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองจังหวัดนครราชสีมาใช้ กีฬาปั่นจักรยานเพื่อความปลอดภัยเพราะไม่เสี่ยงเหมือนกีฬาประเภทอื่น รักษาระยะตามระเบียบมาตรการทุกอย่าง จัดระเบียบแถว เว้นระยะห่าง วัดอุณหภูมิร่างกาย ปล่อยตัวนักกีฬาตามที่กำหนด เพราะตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายขึ้นแล้ว ปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยตามนโยบายป้องกันโควิด 19
โดยกิจกรรม”โคราช มิดไนท์ คาร์ฟรีเดย์ จัดขึ้นจัดปั่นจักรยานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในโคราช และให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติการดำเนินชีวิตประจำวัน และการจัดกิจกรรมครั้งนี้เน้นส่งเสริม ปั่นเชิงท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพยามค่ำคืน เวลา 19.00 นเป็นต้นไป.โดยกำหนดวันภายในช่วงเดือน กรกฎาคม นี้ โดยกำหนดวันอีกครั้งเพื่อสอดคล้องนโยบายรัฐบาล ผู้ที่สนใจเข้าร่วม ในเดือนภายใน30 กรกฎาคมนี้ สามารถสอบถามได้ที่สโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา หรือร้านแชมป์ไบค์ เบอร์ติดต่อ 095 978 7 9 3 5

ฉลองงานบุญอายุวัฒนมงคล96 ปี พระศาสนโสภณ (หลวงปู่ใหญ่)

งานบุญฉลองอายุวัฒนมงคล พระศาสนโสภณ(หลวงปู่ใหญ่) ครบ8รอบ 96ปี


วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2563 เวลา 17.00 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิธีทำบุญอายุวัฒนมงคลครบ 8 รอบ 96 ปีพระเดชพระคุณ #พระศาสนโสภณ (โกศล สิรินธโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 (ธรรมยุต)เจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา

ครั้งนี้หลวงปู่กัญหา สุขกาโมและพระเถระผู้ใหญ่ร่วมพิธีพร้อมคณะศิษยานุศิษย์จำนวนมากร่วมแสดงมุฑิตาจิตแด่พระศาสนโสภณในวาระโอกาสนี้งานจัด2วันจัด29-30มิถุนายนนี้ประชาชนร่วมบุญได้ที่วัดสุทธจินดา ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา #พระศาสนโสภณ #หลวงปู่ใหญ่

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 จับมือ 4 ภาคีจัดอบรม “นักข่าวประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์”


ยุคสมาร์ทโฟน “มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวจบทุกการส่งข่าว-ผลิตสื่อ” สอนเทคนิคง่ายๆ เข้าใจไม่ซับซ้อน ผลิตข่าวสารสื่อที่มีคุณภาพ เชิญผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญอยู่ในวงการข่าวมาสอนกันอย่างจริงจัง ได้รับความรู้และสามารถนำไปใช้ได้จริง
วันที่ 26 มิ.ย. 63 ณ ชั้น 4 ห้องคอมมูนิตี้รูม เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวและกีฬานครราชสีมา ชมรมการท่องเที่ยววังน้ำเขียว และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา จัดโครงการ “นักข่าวประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์” อบรมหลักสูตร การผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน(Product of Advertising by smartphones) 26-30 มิ.ย. 63

นำโดยว่าที่ร้อยตรีสมศักดิ์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานที่ 5 นครราชสีมา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา นายธนิต จิตละมัน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยววังน้ำเขียว ทั้งนี้โดยมีคุณเศรษฐวุฒิ ทัตสุระ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมากล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่ร่วมเข้าอบรมในครั้งด้วย
การจัดอบรมโครงการ “นักข่าวประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์” อบรมหลักสูตร การผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน เป็นการพัฒนาฝีมือเสริมทักษะในเรื่องของการทำข่าวอย่างมืออาชีพ โดยใช้เทคโนโลยีปัจจุบันอย่างสมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์ในการทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังสามารถใช้ผลิตสื่อต่างๆ กระจายข้อมูลข่าวสารทาง Online ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และในวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2563 คณะผู้จัดการอบรม ได้นำผู้ที่เข้าร่วมอบรม ลงพื้นที่ไปที่ บ้านดินรีสอร์ท อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เพื่ออบรมเชิงปฎิบัติการ หลังจากที่ได้มีการฝึกการเขียนข่าว และถ่ายภาพเป็นที่เรียบร้อย โดยได้รับเกียรติจาด นายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยนายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยววังน้ำเขียว นอกจากนี้ ยังได้รับเกีนรติจากว่าที่ร้อยตรีสมศักดิ์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานที่ 5 นครราชสีมา ตามมาให้กำลังใจอีกด้วย

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้แบ่งผู้อบรมออกเป็น 5 กลุ่ม และได้กำหนดสถานที่ท่องเที่ยว และขึ้นชื่อของอำเภอวังน้ำเขียว ที่ต้องการให้ผู้เข้าอบรมรู้จักสร้างประด็นและนำเสนอได้ ประกอบด้วย สวนลุงไกร ร้านอาหารครัวต้นไทร สกายเลนโอโซน วัดป่าวังเขาเขียว และ สวนคาโนนะ และในช่วงบ่ายผู้เข้าอบรมได้ร่วมกันแสดงความสามารถจากที่ได้อบรมมา ตัดต่อผลงานเพื่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย ดร.วิเชียร ก่อกิจกุศล ประธานโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ ม.ราชภัฎนครราชสีมา อ.สำรวย สีสืบมา อาจารย์ประจำสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา และนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ณ ห้องสัมมนา 2 บ้านวังน้ำเขียวลอดจ์

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการอบรมทุกท่าน จะได้รับใบประกาศจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา และ สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแสดงว่าท่านได้ผ่านการอบรมการเป็นนักข่าวประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์ ประจำปี 2563

เพิ่มศักยภาพ นักข่าวรุ่นใหม่ผ่านสื่อออนไลน์

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5นครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา จัดอบรมนักข่าวประชาสัมพันธ์สื่อออนไลน์ หลักสูตรการผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน

วันนี้คุณเศรษฐวุฒิ ทัตสุระ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ได้ให้การต้อนรับคณะผู้จัดและผู้เข้าร่วมอบรมนักข่าวประชาสัมพันธ์หลักสูตรการผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน โดยได้รับเกียรติจากนายธนิต จิตละมัน ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดร่วมนายเพชรเหล็ก ทองภูธร ผอ.กลุ่มงานพัฒนาฝีมือแรงงานสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5นครราชสีมา


ทั้งนี้ นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการอบรมครั้งนี้ เพื่อ สร้างนักข่าวประจำพื้นที่ต่างอำเภอให้สามารถเป็นนักข่าวมืออาชีพได้ และเพื่อเพิ่มทักษะ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพให้กับนักข่าวประจำพื้นที่ต่างอำเภอให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2563 และในการอบรมครั้งนี้จะได้มีการฝึกปฏิบัติ ณ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

เพื่อให้ผู้อบรมได้ต่อยอดการนำเสนอข่าวในรูปแบบที่ได้อบรมมา คือ การเขียนข่าวเป็น ถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และสามารถตัดต่อให้เป็นภาพข่าวได้ และสามารถผลิตรายงานพิเศษได้ ให้หัวข้อ การท่องเที่ยววังน้ำเขียวโคราช

ท่องเที่ยววิถีใหม่@ป่าในเมืองบ้านห้วยทรัพย์

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานีและสื่อมวลชน ลงพื้นที่ให้กำลังใจ ห่วงใยชาวชุมชนท่องเที่ยวOTOP นวัตวิถี จากสถานการณ์ (COVID-19)

นายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเปิดเผยว่า นายวิชวุฒิ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สนับสนุนจัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๖๓ เพื่อดำเนินโครงการเสริมสร้างความยั่งยืน ชุมชนท่องเที่ยวOTOPนวัตวิถี เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ชุมชนให้เป็นที่รู้จัก ของนักท่องเที่ยว ที่สำคัญเป็นการ ให้กำลังใจ ห่วงใยชาวชุมชนท่องเที่ยวOTOP นวัตวิถี จากสถานการณ์ (COVID-19)

ผ้าทอทรงคุณค่า”ทรงพระเจริญไชโย”ผ้าทอพศ.2472


ในขณะเดียวกัน เปิดเวที ในการแลกเปลี่ยน ระดมความคิดเห็น สื่อสารสร้างการรับรู้ ของชุมชน ที่จะปรับตัวการท่องเที่ยวแบบ New normal หรือการใช้ชีวิตแบบ New normal ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังสถานการณ์โรคโควิด 19 คลี่คลาย และเปิดการท่องเที่ยวทั่วไป ท่องเที่ยวชุมชนได้ โดยเลือกชุมชน ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่มีความพร้อม และได้รับผลกระทบ
จากสถานการณ์ (COVID-19)
วันที่ 5 มิถุนายน 63 นายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ ที่ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านห้วยทรัพย์ ตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมถ่ายทอดสดผ่านสัญญาณดาวเทียมรายการโทรทัศน์ รายการ “แหลงข่าวชาวใต้”ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT SOUTH ประเด็น สร้างการรับรู้ วิถีชีวิตแนวใหม่ของการท่องเที่ยวชุมชนนวัตวิถี ผู้ร่วมรายการ​ นายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสมชาย รักเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านห้วยทรัพย์ ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน ผู้ดำเนินรายการ นายสุรชัย ส้มเกลี้ยง (บ่าวเกลี้ยง) – ณัฐวดี ศรียาภัย (น้องสาวแนน)

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านห้วยทรัพย์ ณ บ้านห้วยทรัพย์ หมู่ 4 ต. ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อย่างเป็นทางการ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ที่นี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่นการร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ ปลูกป่าชายเลน กิจกรรมปล่อยปูดำ การล่องเรือชมป่าชายเลน สินค้าของดีในชุมชนเช่น กะปิ ขนมจาก ใบจาก อาหารพื้นถิ่น ปัจจุบันมีร้านกาแฟนายบ้าน ซึ่งมีการจัดภูมิทัศน์สวยงาม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในชุมชนได้เป็นอย่างดี

ภาพ/ข่าว นายไพฑูรย์ ปลอดสูงเนิน จ.สุราษฎร์ธานี