พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ อายุ 2,700 ปี

เมื่อวันที่ 12  มิถุนายน 2563  ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่  อ.พิมาย จ.นครราชสีมาว่า  มีเจ้าหน้าที่ของบริษัททีโอทีจำกัด (มหาชน) จังหวัดนคราชสีมา ได้ทำการขุดเจาะถนน เพื่อนำสายสัญญาณลงใต้ดิน  และได้พบวัตถุโบราณ อารยธรรมโครงกระดูกมนุษย์ ที่มีกำไลที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ คาดว่าเป็นกำไลที่สร้างขึ้นจากปลอกหอยโบราณติดอยู่ที่บริเวณกระดูกข้อมือ  จากการคาดการณ์เบื้องต้น  คาดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ อายุประมาณ 2,700 ปี

จึงได้ว่าจ้างไปยังบริษัทโบราณคดีภาคเอกชน ให้มาดำเนินการขุดเพื่อตรวจสอบ และนำเสนอหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

จากข้อมูลโดยสังเขปในยุคก่อนประวัติศาสตร์  บริเวณจังหวัดนครราชสีมาในปัจจุบัน ได้มีการปรากฏร่องรอยและหลักฐานแสดงว่ามีการพัฒนาการของชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อราว 3,000 – 4,000 ปีมาแล้ว ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีข่าวของการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ในหลายพื้นที่  อาทิ  อ.โนนสูง อ.โนนไทย อ.ด่านขุนทด ,อ.เมือง อ.สีคิ้ว และ อ.พิมาย ถือเป็นการขุดพบรากวัฒนธรรม อารยธรรม ของชุมชนเมืองโบราณ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทำให้เห็นวิวัฒนาการของ เมืองโคราชในอดีต จนถึงปัจจุบัน

ส่อเค้าวุ่นชาวบ้านไม่พอใจโรงงานน้ำตาล,สนามกอลฟ์สูบเลือด!!!ลำตะคอง

ลำตะคอง

เกือบวุ่น!! ประชาพิจารณ์ สูบน้ำลำตะคอง กลุ่มไม่เห็นด้วยยืนหนังสือคัดค้าน
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ที่ศาลาวัดบ้านใหม่สำโรง ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนตำบลลาดบัวขาว เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการสร้างโรงสูบน้ำ และสะพานรับท่อส่งน้ำ (คลองบุ่งยาง) บ้านใหม่สำโรง หมู่ที่ 3 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยมีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านใหม่สำโรง กว่า 200 คน เข้าร่วมรับฟัง


โดยเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ ในที่ประชุมไม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านสอบถามถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการสูบน้ำจากลำตะคอง อ้างแต่จะเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่บ้านใหม่สำโรงเข้าไปทำงานที่โรงงาน

บรรยากาศเป็นไปด้วยความตรึงเครียด มีการโห่ร้อง แซวกันไปมาระหว่าง กลุ่มที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยผู้มีอำนาจของบริษัท โรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่ง มาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณรอบที่ประชุม แต่ไม่ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์แต่อย่างใด

ด้านกลุ่มเรารักษ์สีคิ้ว ผู้คัดค้านโครงการดังกล่าว ยื่นยันว่า กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ บ้านใหม่สำโรง กว่า 200 คน ลงชื่อไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวแล้วโดยกลุ่มเรารักษ์สีคิ้วเตรียมเข้าร้องศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดต่ออาทิตย์หน้า..

ชุนหลีแกรนด์ โรงแรมระดับ 4 ดาว ทำบุญครบรอบ 1 ปี หลังเจอโควิด 19 พร้อมจัดโปรแรงต้อนรับผู้มาพัก

วันที่ 9  มิถุนายน  2563  เวลา 10. 00 น.  คุณปริษา  แซ่เตียว  ผู้บริหารชุนหลีแกรนด์ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและพนักงานได้ร่วมกัน ทำบุญโรงแรมในวาระครบรอบ1ปีของการก่อตั้ง

โดยโรงแรมชุนหลีแกรนด์  เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่มีความสะดวกสบาย  ทั้งสถานที่จอดรถ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 

ชุนหลีแกรนด์  ตั้งอยู่เลขที่ 819/18 ถ. ช้างเผือก อ. เมือง  จ. นครราชสีมา  มีความโดดเด่นด้วยดีใซด์ห้องพักที่ไม่เหมือนใคร  เฟอร์นิเจอร์เป็นงานไม้  ตกแต่งด้วยโคมไฟสวยงาม ล้ำค่า  บริเวณต้อนรับด้านล่างยังตกแต่งด้วยของเก่าที่หาชมได้ยากทั้งใน และต่างประเทศ  นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารเลิศรส  โซนนั่งดื่มในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมให้บริการทุกท่านอย่างเต็มที่ 

และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทางโรงแรมได้มีมาตรการในการป้องกัน ดูแลเรื่องระยะห่าง และความสะอาดภายในโรงแรมอย่างเคร่งครัด  และในโอกาสนี้  ทางโรงแรมได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับผู้ที่เข้าพัก  จากห้องพักปกติ ราคา 1,880  บาท  ลดทันที เหลือเพียง ราคา 1,000  บาทเท่านั้น   

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 085- 1053888

แหล่งท่องเที่ยว อารยธรรมโบราณทราวดี เปิดให้บริการหลังผ่อนคลายโควิด พระนอนยุคทราวดีรุ่งเรือง 1300 ปี วัดธรรมจักรเสมา

 พระนอนหินทราย อายุกว่า 1300 ปี ที่วัดธรรมจักรเสมาราม ตั้งอยู่ที่ ตำบลเสมา อ. สูงเนิน แต่เดิมบริเวณนี้เป็นศาสนสถานในสมัยทราวดี มีโบราณวัตถุที่สำคัญ คือ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ก่อด้วยหินทรายที่มีความเก่าแก่และใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีความยาวประมาณ 13.30 เมตร สูง 2.80 เมตร สร้างขึ้นราว พ.ศ. 1200 ที่วัดแห่งนี้ยังมีธรรมจักรเก่าแก่ ลักษณะเหมือนเสมาธรรมจักร ที่ขุดพบที่จังหวัดนครปฐม  พระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์ สลักด้วยหินทรายแดง ขนาดใหญ่หลาย ๆ ก้อน ประกอบกัน สร้างขึ้นในสมัยทวาราวดี พ.ศ. 1200

 ปี พ.ศ.2533 กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่ง และบูรณะขึ้น เนื่องจากเกิดการแตกหัก และผุพัง ต่อมา ปี พ.ศ. 2538 ได้มีการสร้างอาคารและหลังคาคลุมองค์พระนอน เพื่อกันแดด กันฝน องค์พระนอน มีความยาว 13.30 เมตร สูง 2.80 เมตร ประดิษฐานอยู่ที่ วัดธรรมจักรเสมาราม ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เป็นวัดเล็ก ๆ เรียบง่าย และสงบ แต่มากด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะในอดีตเรียกบริเวณเมืองดังกล่าวว่า เมืองโคราฆปุระ ต่อมาได้เรียกเพี้ยนเป็นเมืองโคราช อันเป็นต้นกำเนิดเมืองโคราชหรือนครราชสีมาในปัจจุบัน เพราะที่นี่มีการพบธรรมจักรโบราณที่เหมือนกับ เสมาธรรมจักรที่นครปฐมด้วย และไม่ไกลนักยังมี โบราณสถานที่เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ คือ ปราสาทหินเก่าแก่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้แก่ ปราสาทหินเมืองแขก ปราสาทหินโนนกู่ เป็นที่มาหรือเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียกขานเมืองโคราช หรือนครราชสีมาในปัจจุบัน

  • พระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนหินทราย

       พระนอนหินทราย เป็นพระพุทธรูปปางเสด็จปรินพพาน มีพุทธลักษณะแบบทวาราวดี พระพักตร์หันไปทางทิศตะวันออกตามขนบของศาสนสถานในศาสนาพุทธ ในส่วนของพระพักตร์ใช้หินทรายแดงสี่ก้อนวางประกอบซ้อนกันแล้วจึงสลักเป็นรูปวงพระพักตร์ ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างกว้างทรงแย้มพระสรวลที่มุมพระโอษฐ์ชี้ขึ้น ส่วนพระศอเป็นหินทรายทรงกลมหนึ่งก้อน หนาประมาณ 35 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 90 เซนติเมตร และพระวรกายประกอบด้วยหินทรายขนาดใหญ่หลายก้อน พระนอนหินทรายเป็นพุทธลักษณะที่เป็นศิลปะทวารวดี ซึ่งเป็นยุคแรกเริ่มของประวัติศาสตร์ เป็นพระนอนเก่าแก่ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือมีความยาว 13.30 เมตร สูง 2.80 เมตร สร้างขึ้นในสมัยทวารวดีอายุราว พ.ศ. 1200 ตั้งอยู่ที่วัดธรรมจักรเสมาราม บ้านคลองขวาง ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน

  • ธรรมจักรศิลา 

          เป็นชนิดเดียวกันกับที่พระปฐมเจดีย์ เป็นศิลปะยุคทวารวดี มีลักษณะคล้ายล้อเกวียน ทำจากศิลาแลงขนาดใหญ่ มีหน้ากว้างทั้ง 2 ด้าน เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.41 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางดุมล้อ 31 เซนติเมตร ตอนล่างมีสลักคล้ายหน้าพนัสบดี ซึ่งมีลักษณะผสมสัตว์หลายชนิด คือ มีเขาเหมือนโค มีปากเป็นครุฑ มีปีกเหมือนหงษ์ สัตว์เหล่านี้ล้วนเป็นพาหนะของเทพให้ศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ส่วนพนัสบดีเป็นพาหนะของพระพุทธเจ้าตามความเชื่อของพุทธฝ่ายมหายาน ประดิษฐานอยู่ที่วัดธรรมจักรเสมาราม ภายในอาคารซึ่งอยู่ด้านซ้ายของโบสถ์ เปิดให้เข้าชมเวลา 06.00 – 17.00 ทุกวัน

ท่องเที่ยววิถีใหม่@ป่าในเมืองบ้านห้วยทรัพย์

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานีและสื่อมวลชน ลงพื้นที่ให้กำลังใจ ห่วงใยชาวชุมชนท่องเที่ยวOTOP นวัตวิถี จากสถานการณ์ (COVID-19)

นายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเปิดเผยว่า นายวิชวุฒิ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สนับสนุนจัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๖๓ เพื่อดำเนินโครงการเสริมสร้างความยั่งยืน ชุมชนท่องเที่ยวOTOPนวัตวิถี เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ชุมชนให้เป็นที่รู้จัก ของนักท่องเที่ยว ที่สำคัญเป็นการ ให้กำลังใจ ห่วงใยชาวชุมชนท่องเที่ยวOTOP นวัตวิถี จากสถานการณ์ (COVID-19)

ผ้าทอทรงคุณค่า”ทรงพระเจริญไชโย”ผ้าทอพศ.2472


ในขณะเดียวกัน เปิดเวที ในการแลกเปลี่ยน ระดมความคิดเห็น สื่อสารสร้างการรับรู้ ของชุมชน ที่จะปรับตัวการท่องเที่ยวแบบ New normal หรือการใช้ชีวิตแบบ New normal ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังสถานการณ์โรคโควิด 19 คลี่คลาย และเปิดการท่องเที่ยวทั่วไป ท่องเที่ยวชุมชนได้ โดยเลือกชุมชน ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่มีความพร้อม และได้รับผลกระทบ
จากสถานการณ์ (COVID-19)
วันที่ 5 มิถุนายน 63 นายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ ที่ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านห้วยทรัพย์ ตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมถ่ายทอดสดผ่านสัญญาณดาวเทียมรายการโทรทัศน์ รายการ “แหลงข่าวชาวใต้”ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT SOUTH ประเด็น สร้างการรับรู้ วิถีชีวิตแนวใหม่ของการท่องเที่ยวชุมชนนวัตวิถี ผู้ร่วมรายการ​ นายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสมชาย รักเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านห้วยทรัพย์ ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน ผู้ดำเนินรายการ นายสุรชัย ส้มเกลี้ยง (บ่าวเกลี้ยง) – ณัฐวดี ศรียาภัย (น้องสาวแนน)

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านห้วยทรัพย์ ณ บ้านห้วยทรัพย์ หมู่ 4 ต. ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อย่างเป็นทางการ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ที่นี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่นการร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ ปลูกป่าชายเลน กิจกรรมปล่อยปูดำ การล่องเรือชมป่าชายเลน สินค้าของดีในชุมชนเช่น กะปิ ขนมจาก ใบจาก อาหารพื้นถิ่น ปัจจุบันมีร้านกาแฟนายบ้าน ซึ่งมีการจัดภูมิทัศน์สวยงาม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในชุมชนได้เป็นอย่างดี

ภาพ/ข่าว นายไพฑูรย์ ปลอดสูงเนิน จ.สุราษฎร์ธานี

เปิดฤดูการท่องเที่ยววังน้ำเขียว สวนสไตล์ญี่ปุ่น

สวน ‘คาโนนะ’ คาเฟ่ แฟ ฟิน ฟาร์ม วังน้ำเขียว ดินแดนอาทิตย์อุทัย จำลอง ที่เหล่าสาวกแดนปลาดิบไม่ควรพลาด กับบรรยากาศสไตล์หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ บ้านชิราคาวาโกะ สะพานแดงนากาบาชิ เสาโทริอิสีแดง แผ่นป้ายขอพร “เอมะ” สวนไผ่ญี่ปุ่น สวนดอกไม้ บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ให้เข้ากับบรรยากาศต้องใส่ ชุดยูกาตะ ซึ่งมีให้เช่าทั้ง ชาย-หญิง ในราคา 80 บาท เพื่อเก็บภาพไว้แชร์อวดเพื่อนๆ

พงศ์เทพ ศรีชมภู เจ้าของ ‘คาโนนะ’ คาเฟ่ เล่าว่า แม้จะยังไม่เคยไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นคนที่ชื่นชอบสไตล์หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ จึงคิดและลงมือทำร่วมกับแฟนและครอบครัว ส่วนชื่อ “คาโนนะ” มีความหมายว่า “เป็นไปได้” ซึ่งมาจากการสร้างสรรค์สถานที่ท่องเที่ยวด้วยความชอบ แต่มีทุนน้อยนิด แต่สามารถทำได้

ใครอยากสัมผัสบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น ไปกันได้ที่ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ทางเข้าอยู่ซอยเดียวกับอนามัยไทยสามัคคี ตำบลไทยสามัคคี เข้าชมฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. สนใจโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 096-954-6682

จิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ…โคราชร่วมใจบูรณาการป้องกันภัย3โรคร้ายแรง

จังหวัดนครราชสีมาเร่งบูรณาการโรคไข้เลือดออกและโรคพิษสุนัขบ้า ร่วมกิจกรรมสำรวจและทำลายแหล่ง เพาะพันธุ์ยุงลาย 3 แห่ง

วันนี้(5 มิ.ย.63) ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) โรคไข้เลือดออก
และโรคพิษสุนัขบ้า จังหวัดนครราชสีมา ปี 2563 พร้อมเปิดกิจกรรมจิตอาสา“เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” และนพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัยนายกเทศบาลนครนครราชสีมากล่าว
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ทั่วโลกและประเทศไทย ดังนั้นเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19ระลอก2 จังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนักรู้เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 โดยบูรณาการโรคไข้เลือดออกและโรคพิษสุนัขบ้าด้วยพบว่าเป็นโรคติดต่อที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วย นิทรรศการโรคโควิด-19 โรคไข้เลือดออกและโรคพิษสุนัขบ้า บริการทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่สุนัขและแมว โดยความร่วมมือของจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมาและเทศบาลนครนครราชสีมา ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ


ภาคเอกชนและจิตอาสาพระราชทาน 904 “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ร่วมกิจกรรมสำรวจและทำลายแหล่ง เพาะพันธุ์ยุงลาย 3 แห่ง ได้แก่ บริเวณหน่วยงานรอบๆศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา, วัดสุทธจินดาวรวิหาร
และวัดบึงอารามหลวง ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ป้องกันโรคไข้เเลือดออก พร้อมโรคโควิด-19 และโรคพิษสุนัขบ้า โดยขอให้ประชาชนร่วมมือป้องกันทั้ง 3โรคและติดตามสถานการณ์จากจังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่าต่อจากนั้นนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาพร้อมด้วยนพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาและนายสุรวุฒิ เชิดชัยนายกเทศบาลนครนครราชสีมาจึงได้ชมนิทรรศการโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2519 โรคไข้เลือดออกและโรคพิษสุนัขบ้าและชมการให้บริการทำหมัน และฉีดวัดชีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า สุนัขและแมว ประธานในพิธีร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” แบ่งกลุ่มจิตอาสา สำรวจและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 3 จุดอีกด้วย
ทางด้าน นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่าเพื่อให้ชาวโคราชร่วมมือป้องกันการระบาดระลอก 2 ของวิกฤตโรคโควิด-19 อีกทั้งมีรายงานทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-3 มิถุนายน 2563พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก จำนวนทั้งสิ้น 1,118 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 42.3 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย อัตราตายต่อประชากรแสนคน เท่ากับ 0.08 อัตราป่วยตายเท่ากับร้อยละ 0.14 พบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง อัตราส่วนพศชาย ต่อ เพศหญิง เท่ากับ 1.1 : 1 กลุ่มอายุที่พบสูงสุดได้แก่กลุ่มเด็กวัยเรียน คือกลุ่มอายุ 10-14 ปี 326 ราย รองลงมาคือ 5-9(265ราย ), 15-19(253ราย), 20-24(128ราย),0-4(96,ราย),25-29(86ราย),30-34(62ราย),35-39(45ราย),45-49(27ราย),40-45(22ราย), 70+,(19ราย), 50-54(18ราย), 55-59(17,ราย), 65-69(12 ราย) และ 60-64 (8 ราย)ตามลำดับ โดยขณะนี้(ณ 2 มิ.ย.63)จังหวัดนครราชสีมามีการระบาดของโรคไข้เลือดออกอยู่ในลำดับที่ 4 ของประเทศ รองจาก 1) ระยอง 2) ชัยภูมิ 3)ขอนแก่น 4)นครราชสีมา และ 5)แม่ฮ่องสอน อีกทั้งพบว่า ทั้ง 32 อำเภอที่พบอัตราป่วยสูงสุด 10 ลำดับแรก คือ 1.เฉลิมพระเกียรติ 2.โนนไทย 3.สูงเนิน 4.โชคชัย 5.บัวใหญ่ 6.ประทาย 7.ขามทะเลสอ 8.เมือง 9.พิมาย และ 10.โนนสุง ตามลำดับ ดังนั้นขอให้ทุกพื้นที่เร่งสร้างความร่วมมืออย่างเข้มข้นในการรณรงค์ให้ประชาชน ร่วมมือกับผู้นำชุมชน หมู่บ้าน องค์กรปกรองส่วนท้องถิ่น และ อสม. เพื่อชาวโคราชรวมพลังตั้งการ์ดสู้ภัยโรคไข้เลือดออก ควบคู่ไปพร้อมๆกับโควิด-19 รณรงค์สื่อสารลดความเสี่ยงโรคไข้เลือดออก รณรงค์ 3 เก็บ “เก็บบ้าน เก็บน้ำ เก็บขยะ” และปฏิบัติตาม 5 ป. 2ข. ได้แก่ ป.ปิดภาชนะน้ำกินน้ำใช้ให้มิดชิดหลังการตักน้ำใช้ทุกครั้ง เพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ , ป.เปลี่ยนน้ำในแจกัน ถังเก็บน้ำทุก 7 วัน เพื่อตัดวงจรลูกน้ำยุงลายที่จะกลายเป็นยุง , ป.ปล่อยปลากินลูกน้ำ ในภาชนะใส่น้ำถาวร เช่น อ่างบัว ถังซีเมนต์เก็บน้ำขนาดใหญ่ , ป.ปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ให้ปลอดโปร่ง โล่ง สะอาด ลมพัดผ่าน ไม่เป็นที่เกาะพักของยุงลาย และ ป.ปฏิบัติเป็นประจำทุกๆสัปดาห์จนเป็นนิสัย สำหรับ 2ข.ได้แก่ ข.ขัดไข่ยุงที่ขอบด้านในของภาชนะเก็บกักน้ำ และ ข.ขยะกำจัดให้เกลี้ยงไม่เลี้ยงยุงลาย ทั้งที่บ้าน วัด โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ทำงาน ศาสนาสถาน อีกทั้งป้องกันยุงลายกัดในช่วงกลางวันโดยการนอนกางมุ้งหรือทายากันยุง รวมทั้งใช้นวัตกรรมใหม่ๆในการป้องกันควบคุมโรคเพื่อให้โคราชปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออกต่อไป ทั้งนี้โรคไข้เลือดออกป้องกันได้ แต่มีอันตรายรุนแรงถึงเสียชีวิต โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเด็งกี ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค หากมีไข้สูงลอยเกิน 38 องศาเซลเซียสประมาณ 2-7 วัน ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารหน้าแดง ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านด่วนเพื่อป้องกันการเสียชีวิต ขณะที่โรคพิษสุนัขบ้า ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทำให้มีผู้เสียชีวิตทุกปี โดยข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 2 มิถุนายน 2563 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ยังพบโรคในสัตว์พาหะอย่างต่อเนื่องทุกปีโดยในปี 2563 ข้อมูลจาก website thairabies.com ของกรมปศุสัตว์ พบว่า มีตัวอย่างสัตว์ที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้า จำนวน 1 ตัวอย่าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีความเสี่ยงต่อการระบาด ของโรคพิษสุนัขบ้า จากการเฝ้าระวังของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้ติดตามผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าเข้ารับวัคซีน 100 % ดังนั้นการบูรณาการร่วมกันเพื่อประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างการรับรู้ ความเข้าใจเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และมีความตระหนักในเชิงป้องกัน โดยการเน้นย้ำว่าผู้ที่สัมผัสหรือถูกสุนัข/แมวกัด ข่วน ต้องเข้าทำการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันและรับการ
รักษาอย่างถูกวิธีตามหลักสาธารณสุขหากไม่เข้าสู่กระบวนการรักษา หากป่วย“ตายอย่างเดียว” จึงขอความร่วมมือประชาชนเจ้าของสุนัข/แมว ให้มีความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูโดยนำสัตว์เลี้ยงของตนมาขึ้นทะเบียนเพื่อรับวัคซีนหรือทำหมัน และกำหนดมาตรการในการลดจำนวนสุนัข-แมวจรจัดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง รวมทั้งส่งเสริมให้เทศบาล/องค์การบริหารส่วนตำบล/ปศุสัตว์/ผู้นำชุมชน/อาสาสมัครสาธารณสุข/อาสาสมัครพัฒนาปศุสัตว์ประจำ หมู่บ้าน ดำเนินการสำรวจจำนวนสุนัขและแมวทุกพื้นที่และให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยเน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตนเอง โดยยึดหลัก “คาถา 5 ย” 1) อย่าแหย่ ให้สุนัขโมโห โกรธ 2) อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา หรือทำให้สุนัขหรือสัตว์ต่างๆตกใจ 3) อย่าแยก สุนัขที่กำลังกัดกัน ด้วยมือเปล่า 4) อย่าหยิบ ชามข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกิน 5) อย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้กับสุนัขหรือสัตว์ต่างๆ นอกบ้านที่ไม่มีเจ้าของ หรือไม่ทราบประวัติ

เปิดแล้ว..ท่องเที่ยว..วังน้ำเขียว

นายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา อำเภอวังน้ำเขียว ได้ออกมาเชิญชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศหลังฝ่าวิกฤตสถานการณ์โควิด – 19

โดยนายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล กล่าวว่า ขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความมั่นคงและมั่นใจกับพี่น้องประชาชน และได้ปลดล็อกในหลายเรื่องที่จะทำให้พี่น้องอยู่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ของอำเภอวังน้ำเขียว ที่ในขณะนี้ได้ดำเนินการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมทั้ง เตรียมปรับทัศนียภาพตามฤดูการเพื่อต้อนรับฤดูหนาวที่จะตามมา

ทั้งนี้ นายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล ได้ฝากถึงการความพร้อมในเรื่องของที่พัก ที่จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้าน บวกกับอากาศที่สุดแสนจะดี มีหมอกลงในช่วงเช้าและเย็น ต้นไม้ที่ได้รับฝน ก็เขียวขจี นอกจากนี้ ยังสามารถชมกะทิอย่างใกล้ชิดได้อย่างจุตาจุใจ  เหมาะอย่างยิ่งในการพักผ่อนในช่วงผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับสถานที่แนะนำนั้น ประกอบด้วยสถานที่จากแหล่งธรรมชาติ เช่น เขาแผงม้า  เขื่อนสันกำแพง  และทุ่งดอกไม้ที่กำลังจะจัดเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวในเร็ว ๆ นี้

ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 100ล้านต้น

วันที่ 3 มิถุนายน 2563ณ บริเวณที่สาธารณประโยชน์บึงพุดชา ตำบลพุดชา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาพิธีเปิดโครงการ “รวมใจไทย ปลูกตันไม้ เพื่อแผ่นดิน” สืบสานสู่ 100 ล้านต้น เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าๆ พระบรมราชินีและกิจกรรมปลูกต้นไม้เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ จังหวัดนครราชสีมาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563กิจกรรมปลูกไผ่ และไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและชุมชนโดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายสมคิด ตั้งประเสริฐผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา ทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ เอกชน พลังจิตอาสาเครือข่าย อสม. ตลอดจนพี่น้องประชาชนทุกคน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดกิจกรรมในวันนี้ได้อย่างดียิ่ง

นายสมคิด ตั้งประเสริฐผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่าในวันนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชาธิบายถึงประโยชน์ในการปลูกป่าตามพระราชดำริว่า”…การปลูกป่า 3 อย่าง แต่ให้ประโยชน์ 4 อย่าง ซึ่งได้ไม้ผล ไม้สร้างบ้าน และไม้พื้นนั้น สามารถให้ประโยชน์ได้ถึง 4 อย่าง คือ นอกจากประโยชนในตัวเองตามชื่อแล้ว ยังสามารถให้ประโยชน์อันที่ 4ซึ่งเป็นข้อสำคัญ คือ สามารถช่วยอนุรักษ์ดินแลตันน้ำลำธารด้วย…” และ “ไผ่” เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะในบรรดาพืชที่อยู่บนดินด้วยกันนั้น ไผ่เป็นพืชที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงที่สุด จึงมีศักยภาพสูงในการดูดซับก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ และมีบทบาทสำคัญในการกักเก็บคาร์บอน ปกติป่าไผ่ส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่ถึง 7 ปีก็สามารถให้ปริมาตรไม้ที่เก็บกักคาร์บอนได้ในปริมาณที่เทียบเท่ากับป้าธรรมชาติที่ต้องใช้เวลาถึง40ปี หรือ 100 ปี นอกจากนี้ ไผ่ยังเป็นไม้เบิกนำที่สามารถขึ้นได้บนพื้นที่ว่างเปล่า จึงช่วยปรับปรุงสภาพของระบบนิเวศในบริเวณป่าเสื่อมโทรมได้ในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งหน่อไม้ยังเป็นอาหารที่มีสนรสชาติดี ราคาถูก การปลูกไผ่ใช้เวลาสั้นๆ เพียง 3 -5 ปี จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ และเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างรวดเร็ว

ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2532 กำหนดให้วันวิสาขบูชาของทุกปี
เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติจังหวัดนครราชสีมา โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา

จึงได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา เทศบาลตำบลพุดซาผู้นำท้องถิ่นท้องที่ องค์กรภาคเอกชน เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (อสม) และประชาชนในพื้นที่ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ บริเวณทีสาธารณประโยชน์บึงพุดชา ตำบลพุดชา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา แห่งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ พื้นฟูดินและน้ำเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและชุมชน ส่งเสริมและปลูกสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป้าไม้ให้แก่ประชาชน รวมทั้งเพื่อสนองนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ของจังหวัดนครราชสีมา ในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกิจกรรมประกอบด้วย 1) การปลูกไผ่ 10 ชนิด จำนวน 2,000 กล้า และปลูกไม้3 อย่าง ได้แก่ ไม้ผล ไม้ใช้สอย ไม้เศรษฐกิจ ซึ่งให้ประโยชน์ 4 อย่าง จำนวน 2,000 กล้ารวมปลูกต้นไม้ทั้งสิ้น 4,000 กล้า บนพื้นที่ 30ไร่ 2)ปลูกหญ้าแฝก จำนวน 10,000 กล้าเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน 3) ปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียนและปลายี่สก จำนวน10,000ตัว เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารให้แก่ชุมชนในพื้นที่ และ 4) แจกกล้าไม้ให้ผู้มาร่วมกิจกรรม จำนวน 400 กล้าอีกด้วย

ข่าวดีสำหรับผู้ที่มีใจรักในการร้องเพลง กับแคมเปญ “ร้องดี เที่ยวฟรี กินฟรี ปลอดภัย”

ข่าวดีสำหรับผู้ที่มีใจรักในการร้องเพลง กับแคมเปญ “ร้องดี เที่ยวฟรี กินฟรี ปลอดภัย”

ด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดแคมเปญ “ร้องดี เที่ยวฟรี กินฟรี ปลอดภัย” เป็นการประกวดร้องเพลงออนไลน์ แจกที่พักฟรี ที่กินฟรี กว่า 300 รางวัล  รวมมูลค่ากว่า  500,000  บาท 

เพื่อเป็นการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวสะอาดปลอดภัย  “Singing for SHA Tourism Routes @Korat” ใครที่รู้ตัวว่าเป็นนักร้องเสียงเพราะก็เตรียมลูกคอกันไว้ได้เลย ผู้ผ่านเข้ารอบ 300 คน รับรางวัลทันที ที่พัก 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหารจากร้านยอดนิยม และผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ในเขาใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท

ผู้สนใจส่งคลิปเพลงได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 23 มิ.ย.63 นี้เท่านั้น ทาง https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdv_3IgXvgltYl7qnzbRIFkektHqGvbFCxSdqfwUIkV8c0s4A/viewform

คุณสมบัติของที่สมัคร

  1. เป็นคนไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน โดยไม่จำกัดเพศและวัย
    2. กรอกข้อมูลการสมัครพร้อมส่งคลิปเพลงภายในวันที่ 23 มิ.ย.2563
    3. เลือกร้องเพลงไทยหรือสากลเพียงท่านละ 1 เพลง
    4. ส่งคลิปเพลงที่เห็นหน้าผู้ร้องและได้ยินเสียงร้องชัดเจน โดยมีหรือไม่มีดนตรีประกอบก็ได้
    5. ส่งคลิปเพลงเป็น Link เช่น จาก Facebook, Wesing, Youtube, Google Drive, Drop Box ฯลฯ
    6. รางวัลที่พัก 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหารจากร้านยอดนิยม และผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA)
    7. ประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัลผ่าน Facebook-หอการค้าโคราช และ Website : Siam Music ในวันที่ 1 ก.ค.2563 จำนวนรวม 300 รางวัล
    8. ตัดสินเพลงโดยคณะกรรมการนักร้องประกวดจากสยามกลการ (TSC) และคำตัดสินของคณะกรรมการ ถือเป็นที่สิ้นสุด

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง Website :www.siammusicclub.com