Money Expo Korat 2020 เปิดแล้ว จัดโปรแรงสู่อีสานรับ New Normal

      สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด งานมหกรรมการเงิน โคราช ครั้งที่ 14 Money Expo Korat 2020  ซึ่งงานนี้ วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นในวันที่ 7-9 สิงหาคม 2563 ที่เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ นครราชสีมา ภายใต้แนวคิด “Wealth Being” จัดหนักแคมเปญโปรโมชั่นร้อนแรงแห่งปี อาทิ สินเชื่อบ้าน 0% นาน 6 เดือน สินเชื่อ SMEs ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปี, เงินฝากดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี, ออม 20 บาท ลุ้นหยิบ 2 ล้าน พร้อมเปิดแพลตฟอร์มใหม่ในรูปแบบ “Hybrid Exhibition” ทำธุรกรรมได้ทั้ง Offline และ Online ที่www.moneyexpoonline.com  รับ New Normal

      (จากซ้าย) สุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา อภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo ประเสิรฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย และ ภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงิน Money Expo

นิพนธ์ ชื่นตา” ประชุมคณะทำงานการเมืองภาคประชาชน จ.ขอนแก่น กำหนดทิศทางการทำงานดูแลปัญหาพี่น้องประชาชน

“นิพนธ์” ลุยหารือคณะทำงานเมืองขอนแก่น วางแนวทางช่วยแก้ปัญหาประชาชน
“นิพนธ์ ชื่นตา” ประชุมคณะทำงานการเมืองภาคประชาชน จ.ขอนแก่น กำหนดทิศทางการทำงานดูแลปัญหาพี่น้องประชาชน เผยปัญหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องระบบสาธารณูปโภค ขณะที่ชาวบ้านเป็ดบุกร้องให้ช่วยเคลียร์ปัญหาตั้งเสาสัญญาณใกล้ชุมชน หวั่นกระทบสุขภาพ

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.63 นายนิพนธ์ ชื่นตา ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายวัชรินทร์ ศรีสวย หัวหน้าสำนักงานและเลขาฯ นายนิพนธ์ ชื่นตา, นายบรรหาร บุญเขต ประธานที่ปรึกษาและคณะทำงานด้านการเมืองภาคประชาชน ภาคเหนือตอนล่าง,นายเสรภณ การสมพรต ประธานที่ปรึกษาและคณะทำงานด้านการเมืองภาคประชาชน ภาคกลาง,.ร.ต.อ.ธนาเสฏฐ์ ธนเวชไพบูลย์ เลขานุการประจำนายนิพนธ์ โดยมี นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะทำงานการเมืองภาคประชาชน จังหวัดขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมนำเยี่ยมชมศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น


ในโอกาสเดียวกัน ได้มีตัวแทนชาวบ้านที่พักอาศัยใกล้ค่ายสีหราชเดโชชัย กรมทหารราบที่ 8 พื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่นได้มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีได้รับความเดือดร้อน วิตกกังวลจากผลกระทบด้านสุขภาพจากการตั้งเสารับ-ส่งสัญญาณคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ค่ายใหญ่เจ้าหนึ่งที่มาตั้งใกล้กับชุมชน
ภายหลังรับหนังสือและซักถามประเด็นปัญหาจากตัวแทนชาวบ้านโดยสังเขปแล้ว นายนิพนธ์ รับปากจะดำเนินการพิจารณาหาทางช่วยเหลือ โดยจะให้คณะทำงานฯ จังหวัดขอนแก่น ดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด
หลังจากนั้นนายนิพนธ์พร้อมคณะได้เยี่ยมชมพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่นถึงปัญหาอุปสรรค์การทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งได้รับรายงานข้อมูลว่าปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องของระบบสาธารณูปโภค ทั้งถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปาฯลฯ
นายนิพนธ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงภารกิจหลักที่เดินทางเยือนจังหวัดขอนแก่นในครั้งนี้เพื่อประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานการเมืองภาคประชาชน จังหวัดขอนแก่น ว่าจะกำหนดทิศทางแนวทางการทำงานอย่างไรที่จะดูแลพี่น้องประชาชนให้มีปัญหาการดำรงชีวิตน้อยที่สุด นอกเหนือจากที่ภาคราชการได้ดูแล โดยพวกตนถือเป็นทีมงานของกระทรวงมหาดไทยที่ทำงานในสถานะภาคประชาชน ซึ่งสามารถเข้าหาพี่น้องประชาชนได้สะดวก คล่องตัว รวดเร็วมากกว่า
“จากการลงพื้นที่ในต่างจังหวัด พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาคประชาชนมีหลากหลาย ทั้งปัญหาที่ทำกิน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาเรื่องความยุติธรรม ปัญหาข้อพิพาทระหว่างภาคประชาชนกับภาครัฐหรือองค์กรธุรกิจเอกชน ต้องประสานงานแก้ปัญหากับทุกภาคส่วน” นายนิพนธ์กล่าว


ภายหลังเยี่ยมชมแลกเปลี่ยนข้อมูลประเด็นปัญหาข้อร้องทุกข์ของประชาชนกับผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่นเสร็จแล้ว นายนิพนธ์ พร้อมคณะได้มอบมอบรถเข็น (วิลแชร์) จำนวน 5 คัน ให้แก่จังหวัดขอนแก่น โดยมี นางสุจินดา สระคูพันธ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น ร่วมรับมอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้ต่อไป

สสว. CONNEXT >> 40 ปีหอการค้าโคราชแฟร์

แถลงข่าว สสว. connext 40ปีหอการค้าโคราช แฟร์ #หอการค้าโคราช #กระตุ้นเศรษฐกิจ #Terminal21


​หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจการค้าสู้ COVID-19 จับมือ สสว. และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดงานแสดงสินค้า สสว. Connext 40 ปีหอการค้าโคราชแฟร์ พบกับสินค้า อาหาร ของดีเมืองโคราชมากกว่า 150 บูธ พบกับกิจกรรมเสวนาและอบรม China The Great Wall เจาะธุรกิจ ทะลุกำแพงจีน พร้อมกับกิจกรรม Business Matching เพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจ ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ดึงกำลังซื้อท้องถิ่น-นักท่องเที่ยวภายในประเทศจับจ่ายกระตุ้นเงินสะพัดในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท


​นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าภาคเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงครึ่งปีแรก และในช่วงครึ่งปีหลังยังอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระบบเงินหมุนเวียนในพื้นที่หายไปมากกว่า 70-80% คงมีเพียงงบประมาณจากภาครัฐ และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้หารือและทำงานร่วมกับทุกฝ่ายทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชนที่พร้อมผลักดันทำให้ภาคการเศรษฐกิจของนครราชสีมาทั้งระบบมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวมีความเกี่ยวโยงไปถึงภาคประชาชน ภาคประชาสังคม รวมถึงเกษตรกร ถ้าภาคการท่องเที่ยวบริการหยุดชะงัก เกษตรกรก็ไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัด
.
​การปรับตัวในช่วงต่อไปของจังหวัดนครราชสีมาก็จะเน้นเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัย และสุขภาพควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว การค้า รวมถึงภาคเกษตรกรรรม ดังนั้นจึงขอให้ภาคเศรษฐกิจการค้าได้มีการปรับตัว ประคองตัวและนำเสนอประเด็นปัญหาที่เผชิญผ่านหอการค้า นอกจากนั้นหอการค้ายังได้รณรงค์และสนับสนุนให้สถานประกอบการต่าง ๆ ได้เข้าสู่มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์แล้วกว่า 40 ราย ซึ่งผู้ที่ได้รับรองมาตรฐาน SHA การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนนี้ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามีความมั่นใจและมาโคราชเพิ่มมากขึ้น


.
นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาและประธานโครงการ 40 ปีหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ 40 ปี การก่อตั้งหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง หอการค้าจึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ มากมายขึ้น ซึ่งกิจกรรมที่จัดไปแล้ว ได้แก่ งานทำบุญครบรอบ 40 ปีหอการค้าฯ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563, โครงการ 40 ปีหอการค้าเปิดประตูเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยได้การตอบรับเป็นอย่างดี จากทั้งร้านอาหาร และนักท่องเที่ยว และสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวให้เมืองโคราชมีชื่อเสียง
.
สำหรับกิจกรรม สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ ก็เป็นอีก 1 กิจกรรมใหญ่ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของหอการค้าโคราชเช่นกัน ถือเป็นงานที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าขายในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการศูนย์การค้า Terminal 21 โคราชหลังจากประสบเหตุกราดยิง และการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้กลับมาคึกคักโดยเร็ว
​นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมครบรอบ 40 ปี หอการค้าโคราช ที่จะเกิดขึ้นอีก 2 กิจกรรมใหญ่คือ การแข่งขันกอล์ฟ 40 ปี หอการค้า ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ณ สนามกอล์ฟ พานอรามา กอล์ฟ แอนด์คันทรี คลับ และงานเทศกาลประจำปี BBQ FESTIVAL@KORAT 2020 หรืองานเทศกาลอาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 14
.


นายอัฐพล สัมพันธ์วงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธานโครงการ สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ว่า โครงการสสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมช่วยเหลือผู้ประกอบการ MSME สมาชิกหอการค้า และผู้ประกอบการในจังหวัดนครราชสีมา ให้เกิดการซื้อขาย เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมา หลังสถานการณ์โควิด -19 และเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางการตลาด ให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น โดยเฉพาะ SME ที่มีศักยภาพ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ใหม่ ๆ การสร้างความร่วมมือ เชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างๆ ในการเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และกระจายรายได้ในจังหวัดนครราชสีมาจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวของนครราชสีมาได้รับผลกระทบอย่างสูง และทำให้ผู้ประกอบการในระดับ SMEs และรายย่อยขาดรายได้หมุนเวียน หอการค้าฯ จึงประเมินสถานการณ์ว่าจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและฟื้นบรรยากาศการค้าขายในพื้นที่ให้เกิดขึ้นนำร่องขึ้น จึงได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดงาน สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ขึ้น ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ดึงกำลังซื้อท้องถิ่น-นักท่องเที่ยวภายในประเทศจับจ่ายกระตุ้นเงินสะพัดในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทโดยเน้นผู้ประกอบการการค้า SMEs ในพื้นที่จำนวน 150 กิจการมาออกบูธในงาน
.
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาอย่างเคร่งครัด
.
​นอกจากนั้นภายในงานดังกล่าวยังมีกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ 50 คู่ ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช รวมถึงมีการจัดสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการในหัวข้อ China The Great Wall เจาะธุรกิจ ทะลุกำแพงจีน เพิ่มความรู้บ่มเพาะหลานย่า สู่ตลาดจีน และการประกวดเขียนแผนธุรกิจระดับอุดมศึกษาชิงทุนการศึกษาและโล่เกียรติคุณ ในวันที่ 28-29 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น4 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช โดยหอการค้าฯ ประเมินว่าจะมีเงินสะพัดในระหว่างการจัดงานและต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
.


​ประธานโครงการ สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ กล่าวต่อว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ให้กลับมาฟื้นตัว และกระตุ้นการซื้อขายภายใน หลังประสบเหตุการณ์กราดยิง และสถานการณ์โควิด 19 อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดมีการแจกสินค้านาทีทองทุกวันจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมรายการ และแจกคูปองให้กับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานวันละ 1,000 ใบ ใบละ 40 บาทเพื่อใช้จับจ่ายสินค้าภายในงานทุกวัน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดการร่วมกิจกรรมการแสดงสินค้าได้ที่ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา โทร. 044-296121-3 หรือ คุณหนึ่งนภา 086-4617730 Email: infoncc.or@gmail.com.

พิธีเททองหล่อพระพุทธพิทักษ์ประชาอัครบารมี (รุ่น หนุนดวง เพิ่มพูลทรัพย์)

พิธีเททองหล่อพระพุทธพิทักษ์ประชาอัครบารมี (รุ่น หนุนดวง เพิ่มพูลทรัพย์)พระพุทธรูปประจำหน่วยกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3
ตำรวจภูธรภาค 3 ได้กำหนดจัดพิธีเททองหล่อพระพุทธพิทักษ์ประชาอัครบารมี(รุ่น หนุนดวง เพิ่มพูลทรัพย์) ในการจัดสร้างพระพุทธรูปประจำหน่วยกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ในวันพฤหัสบดีที่ 6 สิ่งหาคม 2563 เวลา 08.30 นาฬิกา ณ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการบสวนตำรวจภูธรภาค 3(ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังกองร้อยที่ 1 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3) ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

โดยมี พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ผบช.ภ.3ประธานคณะกรรมการอำนวยการ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรีรอง ผบช.ภ.3ประธานคณะกรรมการจัดสร้าง พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศลผกก.ปพ.บก.สส.ภ.3พ.ต.ท.สาธิต คอกขุนทด สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.3 พ.ต.ท.กุณซ์ กุลศิริสว.(ปรก.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.3พ.ต.ต.เสริมศักดิ์ มุ่งเงินทอง สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.3ผู้รับผิดชอบดำเนินการกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 มีเขตพื้นที่รับผิดชอบรวม 8 จังหวัด อีสานใต้ คือ ชัยภูมิ , นครราชสีมา , บุรีรัมย์ , ศรีสะเกษ , สุรินทร์ , อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นกำลังหลักของ ตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ยุทธวิธีต่าง ๆ และถือเป็นกำลังสำคัญที่คอยสนับสนุนหน่วยงานต่างๆพระที่จัดสร้างพระอาจารย์ วิเชียร จันทสาโร (หลวงพ่อโก) วัดป่าปากโดม อ.พิบูลมังสหาร จวอุบลราชธานีถวายนามว่า “พระพุทธพิทักษ์ประชาอัครบารมี” (รุ่น หนุนดวง เพิ่มพูลทรัพย์ )โดยหล่อเป็นพระเชียงแสน สิงห์ 1 ขัดสมาธิเพชร ขนาด 32 นิ้ว โลหะผสม ปิดทองคำแท้พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร แบบเชียงแสนสิงห์หนึ่งลักษณะองค์พระ : แบบเชียงแสน ประติมากรรมไทยสมัยเชียงแสน เป็นประติมากรรม ในดินแดนสุวรรณภูมิที่นับว่าสร้างขึ้นโดยฝีมือช่างไทยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีมีดังนี้

หลวงปู่สมบุญ ปริปุนฺณสีโล (หลวงปู่บุญ) วัดปอแดง อ.ปักธงชัย จว.นครราชสีมาประธานสงฆ์ พระนั่งปรก 4 ทิศ1. พระครูวิมลภารนาคุณ (หลวงพ่อจื่อ พันธมุตโต) วัดเขาตาเงาะอุดมพร อ.หนองบัวระเหว จว.ชัยภูมิ2. พระครูประโชติปัญญากร (หลวงพ่อคูณ วรปัญฺโญ) วัดบัลลังก์ อ.โนนไทย จว.นครราชสีมา3. พระครูสุนทรคุณวัตร (หลวงพ่อทวี ปุญฺญาธโร) วัดประมวลราษฎร์ หรือ วัดบ้านระกาย ต.จอหอ อ.เมือง จว.นครราชสีมา4. พระอาจารย์วิเชียร จันทสาโร (โก) วัดป่าปากโดม อ.พิบูลมังสาหาร จว.อุบลราชธานีพระสงฆ์สวดชยันโตนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป จากวัดประมวลราษฎร์ หรือ วัดบ้านระกาย โดยนิมนต์พร้อมพระครูสุนทรคุณวัตร (หลวงพ่อทวี ปุญฺญาธโร)ทั้งนี้โดยงบประมาณในการดำเนินการประมาณ 2,000,000 บาท จากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญ
ระยะเวลาในการสร้างพระ เริ่มประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 และทำสัญญาจ้างหล่อพระประติมากรรม เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม2563 โดยจะมีพิธีเททองหล่อพระ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2563 และรับมอบพระในวันที่ 30 สิงหาคม 2563รวมเป็นระยะเวลาดำเนินการ 75 วัน

และพระแบบเชียงแสน สิงห์ 1 ขัดสมาธิเพชร ขนาดหน้าตัก 32 นิ้วความสูงรวมฐาน 125 ซม. ความยาวฐาน 99 ซม. ความกว้าง 64 ซม.

แบบเหรียญมีดังนี้
-เหรียญทองแดง (ขัดเงา) จำนวน 28,000 เหรียญ เหรียญทองคำ (ขัดเงา) จำนวน ตามจำนวนสั่งจอง (เบื้องต้น 30 เหรียญ)พระพุทธรูป ขนาด 9 นิ้ว จำนวน ตามจำนวนสั่งจอง +8 (นปพ.ในสังกัด)พระพุทธรูปขนาด 5 นิ้ว จำนวน ตามจำนวนสั่งจอง (มีทั้งชนิด ปิดทอง และ รมมันปู) และพระบูชาเช่น แบบพระบูชาขนาดพระ9 นิ้ว2,500 บาท 5 นิ้ว850 บาทแบบรมดำขนาดพระ9 นิ้วแบบ ปิดทอง5,000 บาท 5 นิ้ว 1,600 บาท

“วัดพรหมราช” ชุมชนคุณธรรมรางวัลระดับประเทศ เน้นความพอเพียงอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น

          เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ผศ.รณรงค์ จันใด อาจารย์สาขาวิชานโยบายสังคมการพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วัดพรหมราช ต.ตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้รับรางวัลชุมชนต้นแบบ เพื่อนำการขับเคลื่อนทางวัฒนธรรม ทั้งด้านศิลปะการแสดง โดยเฉพาะ รำโทนโคราช ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ รวมถึงอาหารพื้นเมืองพื้นถิ่น อาทิ ข้าวโป่ง พล่าหมี่โคราช มีที่นี่ที่เดียวต้องมาลองชิม นอกจากนี้ในชุมชนของที่นี่มีความสำคัญ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ของวัดพรหมราชเก็บวัตถุโบราณอายุเป็นพันปี และชุมชนที่นี่ก็มีความสามัคคีอย่างมาก ในส่วนของการต่อยอดในอนาคต ทางสภาฯเราก็ได้จัดให้มีการประชุมสัญจรแลกเปลี่ยน จัดงานมหกรรมชุมชนของดี และนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เราจัดไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 เราจะไปจัดกันที่จังหวัดยโสธรในปลายเดือนกันยายนนี้ และจากนี้เราก็จะช่วยกันทุกภาคส่วนที่จะต้องผลักดันกัน โดยจะนำนิสิตนักศึกษาจากทุกสภาบันในโคราช โดยจัดตั้งเป็นสภา เยาวชน เพื่อรักษาอนุรักษ์วัฒนธรรมในท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป

ทางด้าน ผศ.รณรงค์ จันใด อาจารย์สาขาวิชานโยบายสังคมการพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทางวัดพรหมราชมีศิลปะวัฒนธรรมภายในชุมชนที่น่าสนใจและควรค่าแก่การอนุรักษ์การสืบทอดต่อไป จากการศึกษาภายในชุมชนมีความเป็นโคราชแท้ มีคุณตาคุณยายที่ยังสืบสานวัฒนธรรมอยู่ โดยเฉพาะหมี่โคราช อาหารท้องถิ่นที่ยังคงมีการสืบทอด และที่สำคัญจริงๆคืออยากให้เด็กและเยาวชนมีบทบาทและส่วนร่วมในเรื่องนี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมกับขับเคลื่อนอนุรักษ์โดยสภาเด็กและเยาวชนมาร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อเกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ ทางทีมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็จะจัดทำวีดีโอและทำ VTR  ในการขับเคลื่อนการจัดการภายในชุมชนตัวอย่าง ไปเผยแพร่ให้กับทุกจังหวัดได้มาดูงานเป็นตัวอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อไป

ขณะที่ พระครูโกศล ธรรมวิบูลย์ เจ้าอาวาสวัดพรหมราชและเจ้าคณะตำบลตูม กล่าวว่า วัดแห่งนี้จากการสันนิษฐานตามประวัติศาสตร์นั้นสร้างเมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนชื่อวัดพรหมราชนั้น เป็นชื่อของคนชื่อพรหมส่วนราชมาจาก หลังจากนั้นท่านก็ได้บรรพชาเป็นพระภิกษุและได้เทศน์ชื่อ ‘กัณฑ์มหาราช’ ในตอนหนึ่งของเวสสันดรชาดก หลังจากนั้นท่านก็สึกจากพระมาเป็นฆราวาส ผู้คนจึงได้นำชื่อของท่านมาเป็นชื่อวัด นอกจากนั้นในวัดยังมีพระพุทธรูปไม่ปรากฏชื่อ ปางลีลา อายุหลายร้อยปี ซึ่งเราก็ได้ไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดพรหมราช ประชาชนที่เข้าวัดมาทำบุญก็สามารถมาไหว้สักการะขอพระได้ นอกจากนี้ เป็นประจำทุกปีวัดเราจะจัดงานนมัสการพระพุทธบาทจำลองจัดมากว่า 96 ปีแล้ว จัดสมโภชยิ่งใหญ่ทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถวายเป็นพุทธบูชา รักษาและสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามในท้องถิ่น สอดคล้องนโยบายชุมชนคุณธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งปีนี้ก็ได้รับรางวัลวัดต้นแบบชุมชนคุณธรรม ซึ่งทางวัดตระหนักว่าวัดคือศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน มีความสามัคคีในชุมชน

ทั้งนี้ ช่วงบ่าย นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน  ได้ให้การต้อนรับ  นายไชยนันท์  แสงทอง  วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและคณะ สู่ศูนย์การเรียนรู้เครื่องปั่นดินเผา เทศบาลตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย  จังหวัดนครราชสีมา เพื่อศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ  และเป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผามายาวนานหลายชั่วอายุคน  เอกลักษณ์ที่สำคัญคือ  ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากที่นี่ มีความแข็งแกร่ง ผิวจะมีความวาว มัน มีสีน้ำตาลแดงงดงาม  และดินที่ใช้ปั้นเป็นดินที่มาจากแหล่งคุณภาพที่สุดของจังหวัดนครราชสีมาได้มาจากริมแม่น้ำมูล  ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นอาณาจักรเครื่องปั้นดินเผาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา 

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่โคราชเพื่อเปิดการเสวนาถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการ

นายสัมฤทธิ์  พงษ์วิรัตน์  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเสวนาวิชาการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการบริหารสภาวัฒนธรรม ด้วยพลังการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ณ ห้องประชุมกรองแก้ว โรงแรมแคนทารีโคราช

โดยในวันนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานกลางในการวางแผน ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงาน และประสานงานความร่วมมือระหว่างส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจองค์กรเอกชน ประชาชน และสถาบันต่าง ๆ ในด้านการดำเนินงานวัฒนธรรมของชาติทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับชาติ เพื่อที่จะรักษาและดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม รวมทั้งให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรม จึงได้ดำเนินการจัดตั้งสภาวัฒนธรรมตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการขยายเครือข่ายการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมในพื้นที่ในลักษณะการกระจายอำนาจทางวัฒนธรรม มุ่งเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ และขับเคลื่อนการดำเนินงานวัฒนธรรมในท้องถิ่นตนเอง ในรูปแบบต่าง ๆ

ที่สามารถสร้างกระแสการรับรู้ทางด้านวัฒนธรรมไปสู่ชุมชนท้องถิ่นได้อย่างกว้างขวาง

ในการนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการจัดประชุมเสวนาวิชาการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการบริหารสภาวัฒนธรรม

โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมฯ จำนวน 40 คน ประกอบด้วย ผู้แทนจาก

สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม

ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และองค์กรชุมชน กิจกรรมประกอบ ด้วย

1. การบรรยายพิเศษนำเสนอนโยบายการดำเนินงานวัฒนธรรม/ที่มาและความสำคัญของสภาวัฒนธรรมต่อการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมในพื้นที่

2. การนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน

3. แนวทางการบริหารจัดการองค์กรที่ประสบความสำเร็จและเข้มแข็งด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน

4. การระดมความคิดเห็นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงาน

ของสภาวัฒนธรรม และการนำนโยบายไปขับเคลื่อนในพื้นที่ รวมถึงปัจจัยที่นำไปสู่

ความสำเร็จของการดำเนินงาน โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในพื้นที่ และเพื่อระดมทรัพยากร บุคลากร และสรรพกำลังต่างๆ จากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อการดำเนินงานวัฒนธรรม

แม่วอนช่วยลูกชายป่วยหนัก ตัวเองยังมาป่วยเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ ไม่มีเงินรักษา พิกัด อ.เทพารักษ์โคราช

คุณแม่ลัดดา ชื่นนอก ชาวบ้านห้วยน้ำเค็ม ต.บึงปือ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวด้วย เนื่องจากลูกชายป่วยหนัก ไม่มีเงินรักษาลูก และตนเองก็มีอาการป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ตอนนี้ต้องผจญกับอาการป่วยของตัวเองและคิดหนักเรื่องรักษาลูกจนร่างกายทรุดโทรมลงไป จึงมาขอวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวของตนเองด้วย คุณแม่ลัดดา ให้ข้อมูลว่า ตนเองมีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้หญิงมีครอบครัวแล้ว อาชีพทำไร่ทำสวน ไม่มีรายได้ประจำ พ่อแม่และน้องชายป่วยก็ต้องมาอยู่ดูแลแม่ที่บ้าน คนที่ 2 คือนายนพดล หวังหยิบกลาง ลูกชายคนที่ป่วยหนัก ก่อนที่ลูกชายจะป่วยก็ได้ไปทำงานอยู่ที่จ.ปทุมธานี หาเงินส่งมาให้แม่และส่งน้องสาวคนเล็กเรียนหนังสือ ซึ่งปัจจุบันก็ต้องออกจากโรงเรียนเนื่องจากไม่มีเงินและต้องมาอยู่บ้านช่วยดูแลแม่ด้วย เป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อเดือนมีนาคม 2563

ที่ผ่านมา ลูกชายก็เริ่มมีอาการป่วยไปหาหมอที่จ.ปทุมธานีตรวจพบว่าลิ้นหัวใจรั่วจึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมาต้องย้ายกลับมารักษาตัวต่อที่ จ.นครราชสีมา บ้านเกิดเนื่องจากไม่สะดวกเรื่องเงินค่ารักษา หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนอาการแทรกซ้อนต่างๆก็เริ่มมีมากขึ้น มีอาการแขน ขา บวม และปวดมาก จนเมื่อวันที่ 29 กรกฤาคม 2563 มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ญาติจึงได้พาไปหาหมอที่ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา และหมอได้นัดว่า วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ให้มาพบหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคหัวใจ วันที่เดินทางกลับจาก รพ.มหาราช อาการของลูกชายก็กำเริบอีกมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ญาติจึงพาไปหาหมอที่ รพ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา หมอบอกว่าคนป่วยมีอาการหนักมาก อาจจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดติดเชื้อ จึงได้ทำการส่งตัวคนป่วยต่อไปยัง รพ.มหาราช ทันที

ตอนนี้คนป่วยนอนอยู่ในห้อง ไอซียู ญาติๆต้องสลับกันเดินทางมานอนเฝ้าคนป่วยทำให้ ทางครอบครัวมีความลำบากมากเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาและการเดินทางต่างๆอีกทั้งคุณแม่เองก็อาการป่วยทรุดหนักตามไปด้วยอีกคน ทางครอบครัวจึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือด้วย สำหรับผู้ใจบุญที่ประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวของคุณแม่ลัดดา ชื่นนอก สามารถโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีของคุณแม่ได้โดยตรงที่ บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาเทพารักษ์ เลขที่ 020152088016

เชิญร่วมแสดงมุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล 67 พรรษาครูบากฤษณะ อินทวัณโณ

qrf

ขอเชิญคณะศิษย์ยานุศิษย์ร่วมงานพิธีวันคล้ายวันเกิดอายุวัฒนะมงคลครบ 67 พรรษา #พระครูวินัยธรสุรเดช(ครูบากฤษณะ)อินทวัณโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร #ครูบากฤฃษณะ

rpt

วันที่ 31 กรกฎาคม2563 10.00น.พิธีสมโภชผ้าไตร ย่ามและเทียนพรรษา ทรงประทานในพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอทิตยากรกิติคุณ
วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 10.00 น เป็นต้นไป ร่วมพิธีเททองหล่อพระนารายณ์ เนื้อสัมฤทธิ์หล่อโบราณ

สพร. 5 นครราชสีมา จัดสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME

ที่ห้องประชุมโรงแรมซิตี้พาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ร้อยเอกกิจสมพงษ์ กล้าหาญ แรงงานจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME และเครือข่ายเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยมีหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ ผู้ประกอบกิจการ SME กลุ่ม otop กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้นำชุมชน และผู้นำกลุ่มอาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 85 คน

    โดยแรงงานจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า  ผู้ประกอบธุรกิจ SME ในจังหวัดนครราชสีมา             มีกว่า 9,000 แห่ง  มากถึง 97 %  ของกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหมด  ดังนั้น  จึงต้องมีการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถแสดงถึงประสิทธิภาพในการทำงาน  ของปัจจัยการผลิตด้านแรงงาน  เพื่อใช้เปรียบเทียบผลงานทางด้านเศรษฐกิจ โดยการวัดจากอัตราส่วนของผลผลิตกับจำนวนแรงงานในระบบเศรษฐกิจ
    โดยในช่วงเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา  ผลิตภาพแรงงานของประเทศไทยขยายตัวอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ  และมีแนวโน้มลดลง สะท้อนว่าประเทศไทยมุ่งเน้นปัจจัยด้านเงินทุน  และปริมาณแรงานมากกว่าการพัฒนาคุณภาพแรงงาน  ทำให้ไม่สามารถพัฒนาไปสู่การใช้เทคโนโลยีชั้นสูง  เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตได้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานในฐานะหน่วยงานภาครัฐ   ที่มีภารกิจในการขับเคลื่อนผู้ประกอบกิจการและแรงงานให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน  จึงได้จัดทำ โครงการเพิ่มผลิตภาพแรงาน สู่ SME 4.0 ขึ้น  โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแก่ผู้ประกอบกิจการ SME กลุ่ม OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชน/   หรือกลุ่มสหกรณ์  ผ่านกระบวนการเพิ่มผลิตภาพแรงงานผลักดัน  ให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  นวัตกรรมแปลกใหม่  และการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อรองรับการพัฒนาสู่ SME 4.0 

ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา

    กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  จึงมอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา                   จัดสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME และเครือข่ายเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  ประจำปีงบประมาณ 2563 ขึ้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร  และทิศทางแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในยุค 4.0  สมรรถนะที่จำเป็นในการที่จะเป็นผู้ประกอบกิจการในอนาคต  และสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการให้คำปรึกษาการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  และขับเคลื่อนการพัฒนาผู้ประกอบกิจการ  เพื่อสร้างความเข้มแข็งกับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

พ่อเมืองโคราชฟันธง ช่องส่องผีต้องขอขมาตามมาตรการ 4 ข้อวันที่ 19 กรกฎาคมนี้

ผู้ว่าเมืองโคราชจัดประชุมเตรียมการรับเรื่อง สืบจากผู้ดำเนินรายการช่องส่องผีประสานมาเพื่อจะมาขอขมาท่านท้าวสุรนารีและคุณย่าบุญเหลือในวันที่ 19 กรกฎาคม 2563 #ช่องส่องผี #ขอขมาท้าวสุรนารี #ย่าโมแรงศรัทธาชาวโคราช


จากการประชุมณ.ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม 2563 เวลา 16.30 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวันครราชสีมา เป็นประธานประชุมหารือ ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จากข่าวเหตุการณ์รายการช่องส่องผีบิดเบือนประวัติศาสตร์ของท่านท้าวสุรนารีกับย่าบุญเหลือ ส่งกระทบ “ย่าโมแรงศรัทธาชาวโคราช” ประชุมหารือ ณ ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา ***ขอสรุปจากการประชุมครั้งนี้


เรียน ท่านผู้บริหาร ภาคราชการ เอกชน ประชาสังคมและพี่น้องประชาชนชาวโคราช
วันนี้ (14ก.ค.2563) เวลา 16.00 น.มีการประชุมหารือตัวแทนภาคส่วนต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทางมาขอขมาท่านท้าวสุรนารีและคุณย่าบุญเหลือ ของผู้ดำเนินรายการช่องส่องผี

 สรุปว่า 

 1. การขอขมาฯ ดำเนินการในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค.2563 เริ่มเวลาประมาณ 14.00 น.

 2. ต้องมีการจัดพิธีขอขมาฯ 2 จุดคือ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและวัดศาลาลอย

 3 .ผู้ดำเนินรายการช่องส่องผี ต้องมาขอขมาฯให้ครบทุกคน

 4. คณะผู้ขอขมาฯต้องจัดเครื่องไหว้บวงสรวงให้สมเกียรติวีรสตรีทั้งสองท่าน

  วิเชียร จันทรโณทัย

          ผวจ.นม.

14 ก.ค. 2563 เวลา 18.30 น.