กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดการแข่งขันระดับภาคคัดยอดฝีมือมือสู่สากล

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดการแข่งขันระดับภาคคัดยอดฝีมือมือสู่สากล

วันที่ 4 กรกฎาคม 2562 นายวิรัช  คันศร  ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ ให้สัมภาษณ์ความเป็นมาของการจัดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่  28 ระดับภาค จะจัดขึ้นระหว่างวันที่  3-5 กรกฎาคม 2562  ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ซึ่งจะมีการแข่งขันใน 6 กลุ่มสาขาอาชีพ  จำนวน 25 สาขา  โดยมี นายจรัสชัย  โชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการแข่งขัน  ในการจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสำหรับเยาวชนได้แสดงความสามารถ ด้านทักษะฝีมือในการประกอบอาชีพ ได้ฝึกฝนอบรมในแขนงต่าง ๆ จากหลากหลายสังกัด จำนวน  256 คน   ที่เข้าแข่งขันเพื่อคัดเลือกให้เป็นตัวแทนระดับภาคเข้าไปแข่งขันในระดับชาติในปี พ.ศ. 2563 ต่อไป

นายวิรัช  คันศร  ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า  สืบเนื่องจากการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพ และการแข่งขันฝีมือช่างแห่งชาติ ครั้งที่ ๑  เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๓  ณ ลุมพินีสถาน กรุงเทพฯ และทรงมีพระราชดำรัสในพิธีเปิดงาน โดยทรงกล่าวถึงปัญหาเรื่องช่างฝีมือ ซึ่งต้องปรับปรุงให้มีความประณีต และมีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน จากพระราชดำรัสของพระองค์ ทรงแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีความห่วงใยต่อกำลังแรงงานของไทย และทรงให้ความสำคัญกับมาตรฐานงานช่างของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

ในช่วงกว่า ๔๙ ปีที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงได้จัดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติอย่างต่อเนื่องตลอดมา รวม ๒๗ ครั้ง และในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ นี้ จะเป็นการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๘ ระดับภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสำหรับเยาวชนได้แสดงความสามารถด้านทักษะฝีมือในการประกอบวิชาชีพ ที่ได้ฝึกฝนอบรมมาในแขนงต่างๆ กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นเยาวชนมาจากหลากหลายสังกัด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดในเครือข่าย (ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และนครยก) และเยาวชนผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการเป็นต้น เข้าร่วมการแข่งขันใน ๖ กลุ่มสาขาอาชีพ จำนวนรวม ๒๕ สาขา มีผู้สมัครจำนวน 406 คน ผ่านการคัดกรองเข้าแข่งขัน จำนวน 256 คน  จำแนกเป็น

๑. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีก่อสร้างและอาคาร จำนวน ๖ สาขา ได้แก่สาขาก่ออิฐ    ปูกระเบื้อง ไม้เครื่องเรือน  ต่อประกอบมุมไม้  เทคโนโลยีระบบทำความเย็น และเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร

๒. กลุ่มสาขาอาชีพแฟชั่นและครีเอทีฟ จำนวน ๓ สาขา ได้แก่สาขาจัดดอกไม้ แฟชั่นเทคโนโลยี และกราฟิกดีไซน์

๓. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีการสื่อสาร จำนวน ๒ สาขา ได้แก่สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และเว็บดีไซน์

๔. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิต จำนวน ๙ สาขา ได้แก่ สาขาเขียนแบบวิศวกรรมเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ เครื่องจักรกล CNC (เครื่องกลึง) เครื่องจักรกล CNC (เครื่องกัด) เทคโนโลยีงานเชื่อม อิเล็กทรอนิกส์ และสาขาแมคคาทรอนิกส์ หุ่นยนต์เคลื่อนที่ มาตรวิทยาด้านมิติ ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม จำนวน ๔ สาขา ซึ่งเป็นการแข่งขันประเภททีมเยาวชน

๕. กลุ่มสาขาบริการส่วนบุคคลและสังคม จำนวน  ๓  สาขา  ได้แก่สาขาแต่งผม ประกอบอาหาร และบริการอาหารและเครื่องดื่ม

๖. กลุ่มสาขาอาชีพขนส่งและโลจิสติกส์ จำนวน ๒ สาขา ได้แก่สาขาเทคโนโลยียานยนต์ และสีรถยนต์

การแข่งขันในแต่ละสาขาใช้เวลาไม่เกิน 12 ชั่วโมง  หรือ 2 วัน สามารถปรับเพิ่ม – ลดได้ โดยคำนึงถึงความเหมาะสม  ซึ่งผู้ที่ชนะจะได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขัน ดังนี้

  1. การแข่งขันประเภททีมเยาวชน

-เหรียญทอง                        รางวัลละ   20,000 บาท

-เหรียญเงิน                        รางวัลละ   12,000 บาท

-เหรียญทองแดง                    รางวัลละ     6,000 บาท

  1. การแข่งขันประเภทเยาวชน

-เหรียญทอง                        รางวัลละ   10,000 บาท

-เหรียญเงิน                        รางวัลละ     6,000 บาท

-เหรียญทองแดง                    รางวัลละ     3,000 บาท

การแข่งขันจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓ – ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ๕ นครราชสีมา และบุญถาวร สาขาโคราช  ซึ่งจัดการแข่งขันในสาขาปูกระเบื้อง และสาขาก่ออิฐ โดย   ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนระดับภาค เข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาติ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓

อนึ่ง การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ได้มีสถานประกอบการที่เห็นความสำคัญด้านการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย ผ่านกิจกรรมการแข่งขัน ได้ให้การสนับสนุน เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์การแข่งขันสาขาต่างๆ จำนวน ๑๐ ราย ได้แก่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน), บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด,บริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด,บริษัท อาร์.พี.เอส.ซัพพลาย จำกัด,         บริษัทพรภัทร เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด, บริษัทสยามนิสสันนครราชสีมา จำกัด สาขาปากช่อง, บริษัทมิตซูปฐพีทอง จำกัด สาขาปากช่อง,บริษัท ตังปักโคราช จำกัด สาขาสีคิ้ว, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โตโยต้าโคราช ๑๙๘๘ และบริษัท โคราชฮอนด้าออโตโมบิล จำกัด เป็นต้น  นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสาธิตอาชีพของสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดในเครือข่าย อาทิเช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การสาธิตอาชีพการทำปลาท่องโก๋และสังขยา สาธิตอาชีพการทำเกี๊ยวซ่า สาธิตอาชีพการทำข้าวเหนียวหมูฝอย สาธิตอาชีพการทำน้ำสมุนไพร สาธิตอาชีพการทำเฉาก๊วยโบราณ  สาธิตอาชีพการทำขนมกุยช่ายทอด  สาธิตอาชีพการทำขนมไทย สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าชมการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 28 ระดับภาค สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา กม. 99 ถนนมิตรภาพ  อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 044 416947

พิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562

พิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562

ที่ผ่านมา อำเภอปากช่องจังหวัดนครราชสีมาได้จัดให้มีพิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562 ในวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2562 ณ เวทีกิ่งกาชาดอำเภอปากช่องสนามข้างโรงทอกระสอบ  อำเภอปากช่อง  จังหวัดนครราชสีมา

โดยนายสุรพันธ์  ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง  ได้กล่าวรายงานต่อ  นายจรัสชัยโชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562  โดยงานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีระหว่างวันที่ 1 – 12 กรกฎาคม  ของทุกปี  โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาสู่การปฏิบัติ  เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่โดยจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าผลผลิตทางการเกษตรในลักษณะของตลาดนัดประชารัฐให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะผลไม้ชนิดต่างๆ  เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพทางด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกรที่มีการพัฒนาสายพันธุ์และคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง  เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP ของตำบล  ตลอดจนการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางเกษตร และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอปากช่องเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในฐานะประตูสู่อีสาน

ซึ่ง ในงานนี้ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนและการสนับสนุนจากองค์กรภาคเอกชนหลายหน่วยงาน  มีการออกร้านและหน่วยงานต่างๆเพื่อให้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้ที่มาเที่ยวชมงาน และมีการประกวดผลไม้รวมทั้งการจัดกระเช้าผลไม้ของเกษตรกรชาวอำเภอปากช่อง  นอกจากนี้ยังได้มีการประกวดธิดาน้อยหน่าประจำปี 2562 อีกด้วย

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา  ส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา  ส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562

วันนี้ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน   เขต 3  จังหวัดนครราชสีมาได้จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562  โดย ดร.รัตนะ  วรบัณฑิต  ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน  เขต  3  จังหวัดนครราชสีมา   ในนามคณะทำงานจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562 ได้กล่าวรายงานต่อ  คุณณัฐภัสสร  สุนทรฐณะวัฒน์  รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ   ซึ่งเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีฐานะครอบครัวยากจน ,ครอบครัวไม่มีความพร้อม  และไม่สามารถสนับสนุนหรือส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาทั้งสายสามัญและสายอาชีพให้กับเด็กและเยาวชนได้   ทำให้เด็กและเยาวชนขาดความรู้ความสามารถและทักษะที่จะสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพ  เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตและรายได้ให้กับตนเอง

โดยการดำเนินโครงการดังกล่าว   ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน   เขต  3  จังหวัดนครราชสีมา   ได้รับมอบหมายจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้ดำเนินการจัดกิจกรรมสำหรับหน่วยงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   โดยมีกิจกรรมส่งเสริมอาชีพอิสระพร้อมการสาธิตจากเรือนจำกลางนครราชสีมาร่วมกับวิทยาลัยการบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวนครราชสีมา  วิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทยเยอรมันสระบุรี ,บ้านขนมไทย ,ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านมะค่า ,สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับร้านพร้อมสวยชาย – หญิง(บริการตัดผมฟรี) สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับโรงเรียนสอนธัชพลตัดผมสตรีและบุรุษและหน่วยงานอื่นๆอีกมากมาย  ที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการให้การสนับสนุนด้านวิชาชีพให้กับเด็กภายในศูนย์ฝึก ฯ แห่งนี้

ป.ป.ส.ภาค 3 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565

ป.ป.ส.ภาค 3 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565

สืบเนื่องจากสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) อันมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ จำนวน 23 ประเด็น โดยในประเด็นที่ 1 ประเด็นความมั่นคง ได้กำหนดแผนย่อยเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง โดยมีเป้าหมายสำคัญเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและการพัฒนาประเทศ และมีการกำหนดตัวชี้วัด คือ ระดับความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในปัจจุบันดีขึ้นอย่างน้อย ร้อยละ 50 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการยกร่างแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อวางกรอบ ทิศทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในระดับประเทศ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และกำหนดจัดทำแผนปฏิบัติการ ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) เพื่อวางแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในพื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้


ผู้สื่อข่าวรางานว่าวันที่ 18 มิถุนายน 2562 นายวีรวัฒน์ เต็งอำนวย รองเลขาธิการ ป.ป.ส ประธานประชุม
นายอดุล ประยูรสิทธิ (ผอ.ปปส.ภาค 3)กล่าวรายงาน
ในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 20 มิถุนายน 2562 ณ ห้องสีมาธานีบอลรูม บี ชั้น L โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยการประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. หน่วยงานภาคี และเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคายหนองบัวลำภู และอุดรธานี ผู้แทนเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาคี ระดับภาค
โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จำนวน 170 คน ประกอบด้วย
1. กองทัพภาคที่ 2
2. ตำรวจภูธรภาค 3 / ตำรวจภูธรภาค 4
3. ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2
4. ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5. หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง
6. ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด
7. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
8. ตำรวจภูธรจังหวัด
9. ศึกษาธิการจังหวัด
10. เครือข่ายภาคประชาชน
11. เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง / ภาค 3 / ภาค 4
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผน ปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2563 ให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในระดับพื้น


นายอดุล ประยูรสิทธิ (ผอ.ปปส.ภาค 3)กล่าว กระผม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดประชุมในครั้งนี้ ทุกหน่วยงานภาคีในพื้นที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ การทำงานด้านยาเสพติดในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ให้สำเร็จลุล่วงและบรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป สำนักงาน ปปส.ภ.3 และ ปปส.ภ.4 ในฐานะเป็นหน่วยรับผิดชอบอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง เพื่อบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ด้านยาเสพติด
ในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพ.ศ. 2563 ให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในระดับพื้นที่

 

พิธีเททองนำฤกษ์ พระชัยเมืองนครราชสีมา รุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปี

วันนี้ 17 มิ.ย.62 เวลา 15.00 น.ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในพิธี ได้นำหลอมรวมเททองนำฤกษ์และ พระสังฆาธิการ 9รูป ได้สวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อปรกอธิษฐานจิตเจริญ พระเกจินั่งปรก 4 รูปสี่ทิศนามมงคล 1 พระครูศาลาธรรมพินิจ หลวงพ่อเงิน วัดบ้านอ้อ อำเภอโนนไทย 2 พระครูวิสุทธิ์วิทยาคม หลวงพ่อทองสุทธสีโล วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด 3 พระครูประโชติติปัญญากร หลวงพ่อคูณวรปญโญวัดบัลลังค์ อำเภอโนนไทย 4 พระครูสุนทรคุณวัตร วัดหลวงพ่อทวีปัญญาธโร วัดประมวลราษฎร์ จังหวัดนครราชสีมา ใน โดยมีพระธรรมวรนายกที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวัดมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธาน นางปิยะฉัตร อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาร่วมพิธี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน (ชุดที่ 23)และ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ พรรคชาติพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน (ชุดที่ 23)พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาและเหล่าข้าราชการ ประชาชน300กว่าคน


สำหรับพิธี เททองนำฤกษ์ พระชัยเมืองนครราชสีมา รุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปี ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีมีวัตถุประสงค์การจัดสร้างพระชัยเมืองเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบูรณะศาลหลักเมืองจังหวัดนครราชสีมากิจการสาธารณะประโยชน์การกุศลในจังหวัดนครราชสีมาและในปีพศ 2562 นี้ถือว่าเป็นวาระมงคลจังหวัดนครราชสีมาครบรอบ 345 ปีโดยจากเดิมตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอำเภอสูงเนินในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงมีรับสั่งให้ย้ายเมืองนครราชสีมาเมื่อปีพ. ศ. 2217ผู้สื่อข่าวรายงาน ใน มวลสารศักดิ์สิทธิ์นำมาหลอมร่วมจัดสร้างพระชัยเมืองนครราชสีมามวลสารจากเจ้าคณะอำเภอ 32 อำเภอในจังหวัดนครราชสีมาแผ่นจารทองเงินจากเจ้าคุณธงชัยวัดไตรมิตรแผ่นจารและวัตถุมงคลเก่าของหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่หลวงปู่นิลและอาจารย์ฟั่นตะกรุดและพระเครื่องเก่าของหลวงพ่อจงหลวงปู่สีหลวงปู่ดุล ฯลฯแผ่นจารอักขระและมวลสารเก่าครูบาบุญชุ่มครูบาแบ่งและครูบากฤษณะและพระธรรมวรนายกที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวัดมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระเหรียญพระชัยเมืองนครราชสีมารุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปีแจกให้เหล่าข้าราชการ ประชาชนทั่วไปคนละ1เหรียญโดยทีด้านหน้าซองเขียนว่า (นำฤกษ์)จนแจกไม่พอ บางเจ้าหน้าที่นำไปเป็นจำนวนมากทำให้แจกไม่ถ้วนหน้า ในเวลาต่อมาช่างหลอมก็ได้ทุบเป้าหลอมพระชัยเมืองให้ประชาชนที่มาร่วมในพิธีดูรูปลักษณะของพระชัยเมือง


สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดสั่งจองได้ที่ทำการปกครองจังหวัดจังหวัดนครราชสีมาศาลากลางชั้น 2 โทร 0 4 4- 2 5 2 8 2 0 โทร 0 6 3 -9 0 1 2 8 4 8, 089- 8 3 8 8 5 7 7ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook พระชัยเมืองนครราชสีมารุ่นฉลองจังหวัดนครราชสีมาครบรอบ 345 ปี


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าโดยมีรายละเอียดการจัดสร้างพระชัยเมืองดังนี้รูปหล่อพระชัยเมืองขนาด 9 นิ้วรุ่นนำโชคประกอบด้วยพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วปิดทองแท้ 1 องค์พระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วนำฤกษ์ 1องค์จัดสร้าง 99 ชุดบูชาชุดละ19,999 บาท2 รูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วเนื้อทองเหลืองรมดำจัดสร้าง 999 องค์บูชา 3,999 บาท3 รูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วเนื้อทองเหลืองรมดำปัดทองจัดสร้าง 999 องค์บูชา 3,999 บาท4 รูปหล่อพระชัยเมืองขนาด 5.9″เนื้อทองเหลืองรมดำจัดสร้าง 999 องค์บูชา 1,999 บาทรูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 5.9 เนื้อทองเหลืองรมดำปัดทองจัดสร้าง 999 องค์บูชา 1999 บาทเหรียญพระชัยเมืองนครราชสีมาเนื้อชนวนมวลสาร 9999เหรียญ อีกด้วย

นายกสมาคมนักข่าว ร่วมลงนามข้อตกลงร่วมมือเครือข่ายช่วยเหลือเด็กสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคราชการและเอกชน

ผู้แทนสื่อมวลชนนายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมาลงนามร่วมมือเครือข่ายช่วยเหลือเด็กสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคราชการและเอกชน ที่ห้องประชุม สถานแรกรับเด็กและเยาวชน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา นายรัตนะ วรบัณฑิต ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 พร้อมด้วย นายบุญธรรม รอบคอบ ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ จ.นครราชสีมา ได้เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถานพินิจ และเครือข่ายในโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของเครือข่ายด้านการศึกษา, อาชีพ และ การกำกับติดตามให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนปีงบประมาณ 2562 โดยเครือข่ายจากสถานศึกษา ได้แก่ อาชีวศึกษานครราชสีมา วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง วิทยาลัยสารพัดช่าง การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และ วิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชม ไทย – เยอรมัน สระบุรี เครือข่ายด้านอาชีพ ได้แก่ บริษัทเทสโก้โลตัว และ เซ็นทรัลพลาซ่า เครือข่ายด้านให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ได้แก่ กองทัพภาคที่ 2 เทศบาล กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน


ทั้งนี้ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ยังได้มีตัวแทนจากสื่อมวลชน โดยได้รับเกียรติจาก นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมลงนาม เพื่อเป็นประบอกเสียงในการช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสถานพินิจ รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนของภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ ได้ให้การสนับสนุนรับบุคลากรเข้าไปให้ความรู้ ไปฝึกอบรม ให้กับเยาวชนภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการติดตามกลุ่มเยาวชนที่ออกจากสถานพินิจแล้วได้ต่อยอดด้านอาชีพ ซึ่งสถานพินิจมีบทบาทในการพัฒนาการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู ให้เด็ก และเยาวชนกลับคืนสู่สังคม ส่งเสริมบทบาทและสนับสนุนเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมในเด็กและเยาวชน ขยายดูแลสิทธิเด็กและสวัสดิภาพของเยาวขนในกระบวนการยุติธรรมเต็มรูป และเสริมสร้างและพัฒนาบุคคลากรและระบบงาน


และที่ผ่านมาจากสถิติของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา พบว่า ใน 1 เดือน จะมีคดีของเด็กและเยาวชนเฉลี่ย 80 คดี สัปดาห์ละ 20 คดี เยาวชนผู้กระทำผิดที่เข้ามาวันละ 3 คน โดยปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาเป็นปัญหาอันดับ 1 ถึง 50% รองลงมาคือ ปัญหาในเรื่องเพศ ปัญหาการลักทรัพย์ และปัญหาเกี่ยวกับชีวิต เช่น การทะเลาะวิวาท และเมื่อเยาวชนเข้ามาอยู่ภายในสถานพินิจแล้ว จึงจำเป็นต้องจัดหาเครือข่ายมาร่วมให้ความรู้และจัดกิจกรรม เพื่อที่จะให้เยาวชนเมื่อออกไปแล้วได้มีความรู้และทักษะอาชีพติดตัวออกไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ฯ รอง ผบ.ตร.เดินทางถวายเทียนพรรษาวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี และกราบขอพรหลวงพ่อขาว พระประธานประจำวัด

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ฯ รอง ผบ.ตร.เดินทางถวายเทียนพรรษาวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี และกราบขอพรหลวงพ่อขาว พระประธานประจำวัด

เมื่อวันที่  11  มิถุนายน  2562 เวลา 18.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ากราบนมัสการพระครูปลัดภูมิปัญญา  ญาณสัมปัณโณ  เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี  พร้อมคณะนายตำรวจ  ภายหลังจากเดินทางมาตรวจติดตามเร่งรัดการสืบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่  ภาค 3 จึงได้แวะเข้ามากราบขอพรพระประธานวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี  และถวายเทียนพรรษาพร้อมด้วยสังฆทาน ก่อนที่จะถึงวันพระใหญ่ หรือวันเข้าพรรษา ประจำปี 2562 นี้

อีกทั้งยังได้ถือโอกาสเข้ากราบเยี่ยมเยือน พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พระครูปลัดภูมิปัญญา  (หลวงพ่อเสือ) ญาณสัมปัณโณ  เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี  ซึ่งหากเว้นว่างจากการเดินทางมายังพื้นที่ภาค 3 แห่งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  จะแวะเข้ามาเยี่ยมเยือนหลวงพ่อเสือเป็นประจำ

ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  รอง ผบ.ตร.ยังได้กล่าวว่า ยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรมของทางวัด  หากขาดแคลนในส่วนใดที่จะเป็นการช่วยบำรุงวัดและพุทธศาสนา ก็จะช่วยอย่างเต็มที่  รวมถึง จะมาร่วมในงานกฐิน ประจำปี  2562  ของวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี  ในวันที่  3  พฤศจิกายน 2562 นี้อีกด้วย

บริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัด คว้า 2 รางวัล ธุรกิจได้มาตรฐาน และการบริการดีเด่น ประจำปี 62

บริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัด คว้า 2 รางวัล ธุรกิจได้มาตรฐาน และการบริการดีเด่น ประจำปี 62

ขอแสดงความยินดีกับ คุณนพรัตน์ ศิริบุญนภา ประธานบริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัด

 

 ที่ได้รับรางวัล มาตรฐานธุรกิจและผลิตภัณฑ์ดีเด่นแห่งปี 2562 Best Product of The Year 2019 มอบโดยสภาเครือข่ายสถาบันส่งเสริมพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจแห่งประเทศไทย (สส.ศท) และ รางวัลคนไทยตัวอย่าง คนทำดีต้นแบบสังคมแห่งปี 2562 สาขา ธุรกิจด้านการด้านบริการดีเด่น มอบโดย สมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท)
ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา

สุดทน ร้องสื่อ…ชาวบ้าน 2 อำเภอโคราช ร้องสื่อถนนพังยุบตัวยาว 2 กิโลเมตรรถสัญจรไม่ได้ นาน 3 ปี – ไร้หน่วยงานเหลียวแล

ชาวบ้าน 2 อำเภอโคราช สุดทนร้องสื่อ!ถนนพังยุบตัวยาว 2 กิโลเมตรรถสัญจรไม่ได้ นาน 3 ปี – ไร้หน่วยงานเหลียวแล


ผู้นำชุมชน 2 อำเภอ และชาวบ้านโคราช รวมตัวกัน ร้องช่อง 8 ถนนเส้นหลักที่ใช้สัญจรพังเสียหาย ถนนยุบตัวความยาวกว่า 2 กิโลเมตร รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ สัญจรไม่ได้ ปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 3 ปี ไร้หน่วยงานเหลียวแล ไปส่งเรื่องศูนย์ดำรงธรรมก็ไม่มีความคืบหน้า จำทนต้องใช้ถนนสายอื่นไกลกว่า 10 กิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน อาทิ ไปทำงานสาย ไปเรียนสาย หรือเมื่อยามเจ็บป่วยรถพยาบาลก็ไม่สามารถเข้ามารับได้จะไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ลำบากตรากตรำ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยชาวบ้านด้วย


ที่ ถนนเส้นทางบ้านเขว้า หมู่ที่ 11 เชื่อมต่อระหว่างตำบลพุดซา อำเภอเมือง และ ตำบลกำปัง อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ผู้นำชุมชนทั้ง 2 อำเภอ คือ ตำบลพุดซา อำเภอเมือง และ ตำบลกำปัง อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอบต.พร้อมทั้งชาวบ้านทั้ง 2 ตำบลกว่า 35 คน เข้าร้องเรียนกับช่อง 8 ถึงความเดือดร้อนเรื่อง ถนนเส้นหลักที่ใช้สัญจรไปมาทุกวันพังเสียหาย เกิดการยุบตัวความยาวกกว่า 2 กิโลเมตร รถทุกประเภทสัญจรไม่ได้ เดือดร้อนแบบนี้มากว่า 3 ปี ไร้หน่วยงานเหลียวแล ทำหนังสื่อร้องขอความช่วยเหลือไปหลายที่ไม่มีความคืบหน้า วันนี้สุดทนจึงมาร้องช่อง 8 หวังเป็นกระบอกเสียงให้ผู้มีอำนาจเห็นความเดือดร้อนประชาชนและลงมาช่วยแก้ไขปัญหา ปัจจุบันจะเดินทางไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ลำบากตรากตรำ ต้องไปใช้เส้นทางอื่นอ้อมไกลกว่า 10 กิโลเมตร
นายประเสริฐ เชยพุดซา กำนันตำบลบ้านพุดซา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตัวแทนผู้เดือดร้อน กล่าวว่า ตนเองเป็นกำนันตำบลพุดซา ดูแลกว่า 18 หมู่บ้านในตำบล วันนี้เดือดร้อนถนนที่ใช้สัญจรไปมายุบตัวพังเสียหาย ถนนนี้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ร่วมกัน ทำถนนนี้เพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้สะดวก เพราะเป็นเส้นทางที่ทั้งต้องใช้ขนพืชผลทางการเกษตรมาดูแลสวนไร่นาต่างๆ และใช้ในชีวิตประจำวัน
นายประเสริฐ เชยพุดซา กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุตรงนี้ เกิดจากสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา มาทำโครงการผันน้ำระบายน้ำเพื่อการกักเก็บ จากบึงพุดซาพื้นที่ 3 พันไร่ เพื่อระบายน้ำมากักเก็บยังในบึงบ้านเขว้าพื้นที่ 200 ไร่ จึงได้ทำการประชาคมและมีมติให้ทำท่อส่งน้ำ โดยขุดพื้นที่ถนนสาธารณะประโยชน์ที่เราใช้สัญจรไปมานี่แหละ เพื่อวางท่อส่งน้ำ แต่หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาอย่างที่เห็นก็คือ ตอนแรกถนนเริ่มพังเป็นหลุมบ่อ นานๆไปกลับกลายเป็นว่า ยิ่งพังหนักกว่าเดิม ถนนเกิดการทรุดและยุบตัว ความลึกกว่า 2 เมตร พังจนท่อน้ำโผล่ขึ้นมากลางถนนเลย ความยาวกว่า 2 กิโลเมตร รถสัญจรไปมาไม่ได้เลย ขนาดจะเดินก็ยังไม่กล้า

ครั้งหนึ่ง ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ได้ทำหนังสือร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรม เขาก็ส่งเจ้าหน้าที่โยธามาซ่อมแซมเพียงแค่มาทำถนนหินคลุก ตนเองมองว่า ถนนมันพังขนาดนี้ มาทำแค่ถนนหินคลุก ถ้าเอางบประมาณมาทำแค่หินคลุกมันเป็นการสูญเสียภาษีของประชาชนโดยเปล่าประโยชน์ ยิ่งซ่อมยิ่งพังตนเองก็งงว่ามาซ่อมแบบไหนกัน ถ้าจะทำทั้งที ก็ทำให้ดีให้มั่นคงไปเลย เพราะหน่วยงานของท่านต่างก็มีวิศวกรผู้ชำนาญงานอยู่แล้ว วอนเถอะครับชาวบ้านและพวกผมเดือดร้อนมากว่า 3 ปีแล้ว ตนเองเป็นกำนันเห็นสภาพถนนเป็นแบบนี้ประชาชนที่เราดูเดือดร้อนเรารู้สึกเสียใจมากที่หน่วยงานที่เราขอความช่วยเหลือเขาเมินเฉย นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน อาทิ ไปทำงานสาย ไปเรียนสาย หรือเมื่อยามเจ็บป่วยรถพยาบาลก็ไม่สามารถเข้ามารับได้จะไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ลำบาก ต้องไปใช้เส้นทางอื่นอ้อมไกลกว่า 10 กิโลเมตร วอนผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเมื่อทราบข่าวแล้วช่วยแก้ไขให้ประชาชนที่เดือดร้อนด้วยครับ

พระครูสถิตสีลาภิวัฒน์ (พระประหยัด)   เจ้าอาวาสวัดปรางค์ทอง เผยมณฑปจำลอง ให้ ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมพี่น้องประชาชนได้ชม  หวังหาทุนสร้างเพื่อเป็นที่แสดงมรดกอันล้ำค่า ที่อยู่ภายในวัด

พระครูสถิตสีลาภิวัฒน์ (พระประหยัด)       เจ้าอาวาสวัดปรางค์ทอง เผยมณฑปจำลอง ให้ ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมพี่น้องประชาชนได้ชม  หวังหาทุนสร้างเพื่อเป็นที่แสดงมรดกอันล้ำค่า ที่อยู่ภายในวัด

            เมื่อวันที่  1  มิถุนายน 2562  ที่วัดปรางค์ทอง  ต.พุดซา  อ.เมือง จ.นครราชสีมา  ดร.สุรสิทธิ์  สิงห์หลง  ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่  ได้ไปที่วัดปรางค์ทอง  ต.พุดซา หลังจากที่ได้มีการประชาคมพี่น้องประชาชน  รวมทั้งผู้นำชุมชนไปแล้วนั้น จึงได้ทำการลงพื้นที่เพื่อสำรวจว่า หมู่บ้านแห่งนี้ มีมกดรอันล้ำค่าอยู่มากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้พระครูธรรมาธรประหยัด ฐิติสีโล  เจ้าอาวาสวัดปรางค์ทอง ก็ได้เปิดเผยว่า ทางวัดก็ได้มีการหารือกับหน่วยงานหลายพากส่วน  ในการจัดทำศาลา  หรือ สถานที่ในการจัดเก็บมรดกอันล้ำค่า  ที่อยู่ภายในวันมาเป็นหลายพันปี  อาทิ ทับหลังโบราณอันล้ำค่า 2 ชิ้น ประเมินค่าไม่ได้ ,เทพนพเคราะห์ภาพสลักที่ล้ำค่า , รอยพระบาทและปางห้ามสมุทร รวมทั้ง ที่วัดแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของ ปรางค์ปราสาท อโรคยาศาล อันเก่าแก่อีกด้วย

ทางด้าน  ดร.สุรสิทธิ์  สิงห์หลง ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา และคณะ ได้หารือ บุคคล และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อผลักดัน ให้สถานที่แห่งนี้  ได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางอารยธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา