อบรมเชิงปฎิบัติการ “พิราบน้อยศรีฐาน” ปั้นผู้สื่อข่าวยุคดิจิทัล

อบรมเชิงปฎิบัติการ “พิราบน้อยศรีฐาน” ปั้นผู้สื่อข่าวยุคดิจิทัล

        สมาคมเครือข่ายสื่อฯ ภาคอีสาน ร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างองค์ความรู้ในการรู้เท่าทันและใช้สื่อออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ โดยจัดอบรมเชิงปฎิบัติการ “พิราบน้อยศรีฐาน” สามารถผลิตสื่อเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนตนผ่านสื่อออนไลน์

พันโท ดร.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน กล่าวว่า ชุมชนบ้านศรีฐาน เทศบาลนครขอนแก่น เป็นชุมชนโบราณที่มีประวัติความเป็นมาในการก่อตั้งบ้านเรือนมากกว่า 200 ปีแล้ว นอกจากนั้นยังพบหลักฐานว่าชุมชนแห่งนี้เคยเป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดี อายุกว่า 2,000 ปีมาก่อน เรื่องราวดีงามต่างๆ ของชุมชนบ้านศรีฐานนี้ ที่ผ่านมาเป็นการรับรู้เฉพาะในวงแคบ หากจะมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ก็เป็นจากการดำเนินงานของหน่วยงาน ส่วนราชการของทางราชการ

จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยี อย่างไม่หยุดยั้ง กระบวนการเรียนรู้ของคนในสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลง สื่อกลายเป็นแหล่งเรียนรู้แหล่งใหม่ที่สามารถกระตุ้นการรับรู้ และดึงดูด ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนจะใช้เวลาไปในการใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น หากเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านศรีฐานได้รับการพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีรูปแบบและเนื้อหาที่มีคุณภาพ ให้เกิดความฉลาดรู้ด้านสื่อ และความตื่นรู้ทางปัญญาได้อย่างทรงพลัง จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านนักสื่อสารสร้างสรรค์อย่าง “พิราบน้อย” ที่ได้เรียนรู้กระบวนการผลิตสื่อ และสามารถบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนตนเองได้อย่างภาคภูมิใจ

พันโท ดร.พิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า สมาคมเครือข่ายหนังสื่อพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน (องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในอิทธิพลของสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเซียลมีเดีย จึงต้องการส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านศรีฐาน ได้เรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ พร้อมฝึกปฏิบัติการผลิตสื่อแบบเข้มข้นจากนักสื่อสารมืออาชีพ ให้ความรู้ในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลในยุคดิจิทัล เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับงานด้านประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเซียลมีเดีย และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และการทำงานในอนาคตได้

สมาคมเครือข่ายหนังสื่อพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน (องค์กรสาธารณประโยชน์) จึงได้ร่วมกับชุมชนบ้านศรีฐาน ,สถานีวิทยุ อสมท ขอนแก่น ,ศูนย์ข่าว 123 คนดีมีน้ำใจ จังหวัดขอนแก่น, ศูนย์ศึกษาพระเครื่องจังหวัดขอนแก่น,สถาบันวาทศิลป์ และสถาบันพัฒนสื่อสารมวลชน จัดทำ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวยุคดิจิทัล “พิราบน้อยศรีฐาน” ประจำปี 2562 ขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น และโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีฐาน ในการให้ใช้สถานที่จัดการอบรมดังกล่าว ระหว่างวันที่  23 – 24  สิงหาคม  พ.ศ.2562 โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจากชุมชนศรีฐานทั้ง 4 ชุมชน และนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีฐาน รวมทั้งสิ้น 82 คน

นายสุธี ศรสวรรค์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น กล่าวในโอกาสปิดการอบรม “พิราบน้อยศรีฐาน” ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับพิราบน้อยศรีฐานทุกคน ที่เข้าอบรมการในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวยุคดิจิทัล “พิราบน้อยศรีฐาน” ประจำปี 2562 และขอขอบคุณ สมาคมเครือข่ายหนังสื่อพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน (องค์กรสาธารณประโยชน์) และ ภาคีเครือข่าย อาทิ สถานีวิทยุ อสมท ขอนแก่น ,ศูนย์ข่าว 123 คนดีมีน้ำใจ จังหวัดขอนแก่น, ศูนย์ศึกษาพระเครื่องจังหวัดขอนแก่น, สถาบันวาทศิลป์, สถาบันพัฒนสื่อสารมวลชน, ชุมชนศรีฐาน และที่สำคัญ เป็นโครงการที่ สมาคมเครือข่ายหนังสื่อพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน (องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในอิทธิพลของสื่อต่างๆ ทั้งสื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และโซเซียลมีเดีย (Social Media) จึงต้องการส่งเสริมให้เยาวชนในชุมชนศรีฐาน ได้มีโอกาส เรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ และฝึกปฏิบัติการผลิตสื่อแบบเข้มข้นจากนักสื่อสารมืออาชีพ ซึ่งจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับงานด้านประชาสัมพันธ์ และยังสามารถเข้าใจในสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเซียลมีเดีย (Social Media) ที่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และการทำงานในอนาคตต่อไป

“พิราบน้อยศรีฐาน” เป็นโครงการแรกที่นำร่องในชุมชนศรีฐาน นับเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับเยาวชน ที่จะได้พัฒนาศักยภาพและต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอยากให้นำโครงการนี้ขยายผลไปยังชุมชนต่างๆ เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้ และฝึกฝนปฎิบัติจากผู้เชี่ยวชาญนักสื่อสารมืออาชีพ และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไปในอนาคต

นายสุธี ศรสวรรค์ พมจ.ขอนแก่น กล่าวต่อว่า พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น เป็นหน่วยงานที่เน้นการให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน ต้องการให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ มีความสามารถ และเติบโตขึ้นมาเพื่อเข้ามาทดแทนผู้ใหญ่ที่ทำงานมานาน มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ซึ่งผู้ใหญ่ในปัจจุบันแต่ละท่านก็ต้องเข้าสู่การเป็นผู้สูงวัย เรื่องที่มีความสำคัญอีกหนึ่งเรื่องคือ “สังคมผู้สูงอายุ” ในปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ คือมีผู้สูงอายุ 20% และใน ปี 2574 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 28 – 30% ดังนั้น เราต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพเพื่อทดแทนผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เยาวชนในปัจจุบันมีหลายกลุ่ม บางกลุ่มติดสื่อ Social ในทางที่ผิด ขาดทักษะการคิดและตัดสินใจ ทำให้หลงไปกระทำตามกระแสแบบผิดๆ ถูกหลอกลวงไปทำมิดีมิร้าย กลายเป็นปัญหาของสังคม ซึ่งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต้องเข้าไปร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆ เยาวชนบ้านศรีฐานจะเป็นโครงการที่นำร่องและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนในชุมชนอื่นๆ ดังนั้น ผู้ปกครอง โรงเรียน และหน่วยงานต้องให้ความสำคัญที่จะร่วมกันสร้างให้เยาวชนได้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ และเป็นกำลังที่สำคัญของประเทศต่อไปในอนาคต

 

แท็กซี่ – ตุ๊กๆ – วินมอร์ไซด์ รวมตัวยื่นหนังสือพ่อเมืองโคราช เร่งช่วยเหลือ ก่อน “สูญพันธุ์”

 

แท็กซี่ – ตุ๊กๆ – วินมอร์ไซด์ รวมตัวยื่นหนังสือพ่อเมืองโคราช เร่งช่วยเหลือ ก่อน “สูญพันธุ์”


ที่ผ่านมา  กลุ่มชมรมรถสาธารณะเมืองโคราช  ประกอบด้วยคนขับแท็กช์ชี่-ตุ๊กๆและวินมอเตอร์ไชด์  เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  และนายชาติชาย มัฆวิมาลย์ขนส่งจังหวัดนครราชสืมาเพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดฯหาทางแก้ไขป้ญหาแกร้ปไบร-แกร็ปคาร์กว่า  2000  คัน  ที่วิ่งรับผู้โดยสาร  ทำให้กลุ่มตนมีรายได้ที่ลดลงเป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้  กลุ่มบุคคลเหล่านี้จึงอยากให้ทางจังหวัดนครราชสีมา  จัดระเบียบแกร็ปทั้งหลายให้เหมือนกลุ่มของแท็กซี่  รถตุ๊ก ๆ และรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง  ที่ดำเนินการตามระเบียบขนส่งทุกประการ  เรื่องนี้หลังจากที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว  และกล่าวมาว่าตนจะนำเสนอทางรัฐมนตรีคมนาคมให้ช่วยเร่งแก้ปัญหาเพราะมันเป็นผลกระทบกันทั้งประเทศ  ซึ่งต้องแก้ไขในระดับประเทศ  และผู้ว่า ฯ จะสรุปปัญหาทั้งหมดร่วมกับทางขนส่งจังหวัดในสองวันนี้หากทางกลุ่มมีข้อเสนอเพิ่มเติมก็รีบมาเสนอก่อนจะส่งเข้ากระทรวงคมนาคมต่อไป

วัฒนธรรมโคราช จัดแถลงข่าวสืบสานมรดกทางศิลปะวัฒนธรรมอีสานและของชาติในงานมหกรรมสภาวัฒนธรรมจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 2

 

สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาสืบสานมรดกทางศิลปะวัฒนธรรมอีสานและของชาติในงานมหกรรมสภาวัฒนธรรมจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6-7 กันยายน 2562

ที่ผ่านมา  ณ ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี  ศาลาศาลากลาง จังหวัดนครราชสรมา  ว่าที่ร้อยตี นิรันดร์ ดุจจานุทัศน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ได้เป็นประธานในงานแถลงข่าว การจัดสืบสานมรดกทางศิลปะวัฒนธรรมอีสานและของชาติในงานมหกรรมสภาวัฒนธรรมจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 2  ระหว่างวันที่  6- 7 กันยายน  2562

นางเอมอร  ศรีกงพาน   ประธานสภาวัฒนธรรม  จังหวัดนครราชสีมา  เปิดเผยว่า  สภาวัฒนธรรม  จังหวัดนครราชสีมา  กำหนดจัดงานมหกรรมสภาวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่  2  ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6-7 กันยายน 2560 ณ  ห้อง  mcc Hall ชั้น 3 เดอะมอลล์นครราชสีมา   กิจกรรมประกอบด้วยการแสดงนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย   พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร และ พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว   นิทรรศการแสดงผลงานคนดีศรีวัฒนธรรมอีสาน   การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง  ดาวรุ่ง  วัฒนธรรมอีสาน  ชมและช็อป  ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม   การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณคนดีศรี วัฒนธรรมอีสาน   ประเภท   ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมการมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง  ดาวรุ่ง  วัฒนธรรมอีสาน  และการเดินแบบผ้าไทย  อัตลักษณ์ของวัฒนธรรมอีสาน  โดยผู้เดินแบบกิตติมศักดิ์ และประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด

 

ในโอกาสนี้ มีการนำคณะสภาวัฒนธรรมจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด  เดินทางตามเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง  ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว  จังหวัดนครราชสีมา  และร่วมกิจกรรมอีสานสัมพันธ์  ผูกเสี่ยว  เทียวยาม  ของสภาวัฒนธรรมอีสาน  ที่บ้านเรือนรีสอร์ท  อำเภอวังน้ำเขียว  จังหวัดนครราชสีมา

สำหรับการจัดงานมหกรรมสภาวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 2 จัดขึ้นเพื่อสืบสานมรดกทางศิลปะวัฒนธรรมของภาคอีสานและของชาติ   และเผยแพร่องค์ความรู้วิถีวัฒนธรรมอีสาน ฮีตสิบสองคลองสิบสี่  รวมทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มศิลปินพื้นบ้านและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม  ซึ่งเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยและรักษาวัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด  โดยเฉพาะมิติทางวัฒนธรรม ประกอบด้วยอาหาร  ภาพยนตร์และวีดีทัศน์  ผ้าไทย  และการออกแบบ  มวยไทยและการอนุรักษ์ขับเคลื่อนเทศกาลประเพณี  เน้นการเพิ่มมูลค่าของสินค้า  และบริการทางวัฒนธรรมทุกสาขาโดยใช้ศิลปะวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและ ร่วมสมัยเป็นพื้นฐานในการพัฒนา

ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ  นักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรม  ร่วมงานมหกรรมสภาวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียง  ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กันยายน 2562  ที่บ้านดินรีสอร์ท อำเภอวังน้ำเขียว  จังหวัดนครราชสีมา  และ ห้อง MCC HALL ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ นครราชสีมา

พิธีเปิดโครงการ “ ๑๐๑ อาชีพ”เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๑๐

พิธีเปิดโครงการ “ ๑๐๑ อาชีพ”เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๑๐

วันนี้   ที่วัดดอนขวาง  ตำบลหัวทะเล  อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมา  ว่าที่ร้อยตรี นิรันดร์  ดุจจานุทัศน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด  โครงการ “๑๐๑ อาชีพ”  เฉลิมพระเกียรติ  เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  กระทรวงแรงงาน  โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน  ๕  นครราชสีมา  ดำเนินการจัดกิจกรรมขึ้น  จำนวน  ๒  กิจกรรมได้แก่การพัฒนาทักษะ ๑๐๑  อาชีพ  และการจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์  เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเทนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร  กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช  สยามินทราธิเบศรราชวโรดม  บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  เนื่องในโอกาสมหามงคล  พระราชพิธีบรมราชาภิเษก  พุทธศักราช ๒๕๖๒

ทั้งนี้  นายสุเมธ  โศจิพลกุล   ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน   ๕  นครราชสีมา  ในนามผู้ดำเนินโครงการ “๑๐๑ อาชีพ” เฉลิมพระเกียรติ  เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  เนื่องในโอกาสมหามงคลการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักกรี  ทั้งนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  กระทรวงแรงงาน  สำนึกอย่างหาที่สุดไม่ได้ในพระมหากรุณาธิคุณและการได้สนองเบื้องพระยุคลบาทอย่างต่อเนื่องในการปฎิบัติภารกิจและหน้าที่ด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีศักยภาพสูงสุด  รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างประเทศ  ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ  โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ  และประชาชนเป็นสำคัญ  จึงขอน้อมนำศาสตร์พระราชา  ตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียง  โดยส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสพัฒนาทักษะ ในการประกอบอาชีพของตนเองเพื่อให้มีอาชีพ  มีรายได้  ที่มั่นคง  และประยุกต์ใช้ความรู้จากแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสู่การดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนด้วยการจัดฝึกอบรมทักษะ ๑๐๑ อาชีพให้แก่ประชาชนที่สนใจ  จำนวน  ๒ รุ่น รุ่น ๆ ๒๐ คน  รวมเป็น  ๔๐ คน ฝึกอบรมระหว่างวันที่  ๒๑ – ๒๓ สิงหาคม  ๒๕๖๒   ณ วัดดอนขวาง  ต.หัวทะเล  อ.เมือง จ.นครราชสีมา

2 มหาวิทยาลัยดังเมืองโคราช ร่วมเปิดแนวคิดพัฒนารากเหง้าเพื่อพัฒนาเมือง


2 มหาวิทยาลัยดังของเมืองโคราช ร่วมเปิดแนวคิดในการร่วมกันพัฒนา รากเหง้าของคนโคราชที่ดูแลกำลังหลักของประเทศหันมาหาแนวทางที่จะพัฒนาร่วมกันเนื่องจากทั้ง 2 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และ มหาวิทยาลัยเทคโนราชมงคลอีสาน ต่างมีอาณาเขตติดกันมีคณาจารย์ในระดับด็อกเตอร์หลายร้อยคนน่าจะร่วมมือในการมีส่วนร่วมพัฒนาเมืองโคราชได้เป็นอย่างดี

โดยทั้ง 2 มหาวิทยาลัยฯได้มีการนัดพูดคุยตกลงแนวทางร่วมกันก่อนหน้านี้เมื่อเดือน กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมาและได้มีการกำหนดกรอบการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงหรือเซ็น(mou)ร่วมกันในวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ที่จะถึงนี้

 

จากการพูดคุยกับ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พอสรุปคร่าวๆได้ 2-3 ประเด็นที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อเมืองโคราช อาทิเช่น การทุบรั้วของทั้งสองมหาลัยแล้วเชื่อมเข้าด้วยกัน แบบไปมาได้ทั้งสองมหาวิทยาลัยฯ เพื่อเปิดทางสัญจรให้สะดวกและคล่องตัวขึ้น เรื่องต่อมาจะเป็นในส่วนของการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่าง 2 มหาวิทยาลัยได้เข้ามาเรียนรู้ อีกฝั่งของมหาวิทยาลัยได้ นอกจากนี้ยังมีการทำกิจกรรมสาธารณะในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดฯ ร่วมกัน เพื่อมิให้ใช้งบประมาณในเรื่องเดียวกันแบบใช้งบประมาณซ้ำซ้อนแต่ทำคนละครั้ง จับมาทำร่วมกัน แบ่งปันกันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลักการดังกล่าวน่าจะสำเร็จได้เนื่องจากทั้ง 2 มหาวิทยาลัย มีบุคลากรและนักศึกษาร่วมกันกว่า 3 หมื่นคนและจะทำงานทั้งด้านสังคม ชุมชน และเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปพร้อมๆกันทั้ง 2 มหาวิทยาลัย นับเป็นมิติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย แต่ที่ทำสำเร็จก็เพราะทั้งสองมหาวิทยาลัยมีรั้วติดกันจึงง่ายต่อการประสานงานและทำงานร่วมกัน ดร.อดิศร กล่าว

โครงการส่งเสริมคุณธรรม  จริยธรรม ด้วยกระบวนการลูกเสือ  ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา

โครงการส่งเสริมคุณธรรม  จริยธรรม ด้วยกระบวนการลูกเสือ  ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา

ที่ผ่านมา  ดร.รัตนะ วรบัณฑิต  ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานเปิดและได้ดำเนินการครบกระบวนการของลูกเสือตามมาตรฐาน ระหว่างวันที่  14 – 16 สิงหาคม 2562  โดยมีวัตถุประสงค์  เพื่อเสริมสร้างเด็กและเยาวชนให้มีคุณธรรม  จริยธรรม การดำเนินชีวิตประจำวัน ตามคำปฏิญาณในกฎของลูกเสือที่ได้อบรม  ดังนี้

  1. ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
  2. ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
  3. ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ

โดยมีผู้ที่เข้าร่วมอบรมครั้งนี้กว่า 300  คน  ระหว่างการอบรมเด็กและเยาวชนได้ปฏิบัติ ตามระเบียบของลูกเสือทั้ง 3 วัน โดยมีผู้ที่ผ่านการอบรมในครั้งนี้ทุกคน

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก  นายฐิติรัตน์  นายกสมาคมนักข่าว  จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีปิดการอบรม พร้อมด้วย นายวรภพ  จำนงค์จิต  รองประธานคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา  และนายจิรภัทร ธนกูลกิจ กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นเกียรติในการมอบเกียรติบัตรในครั้งนี้

โดยในกิจกรรมนี้ผู้เข้าอบรมได้มีความยินดีที่ได้รับการพัฒนาชีวิตการเรียนรู้ใหม่  ในการใช้วีวิตที่มีคุณค่า และคุณธรรมต่อไป

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเสนอแนะรูปแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในจังหวัดนครราชสีมา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเสนอแนะรูปแบบแนวทางการแก้ไขปัญหา

การจราจรในจังหวัดนครราชสีมา

วันที่  16 สิงหาคม  2562 ณ หอประชุมเปรม  ติณสูลานนท์  ศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย  นายจรัสชัย  โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา  และคณะกรรมการเข้าประชุมเพื่อหารือขอเสนอแนะรูปแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในจังหวัดนครราชสีมา  โดยมีหน่วยงานทางภาครัฐ  ประชาชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

สืบเนื่องด้วย  นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  เมื่อวันอาทิตย์ที่  4  สิงหาคม 2562 เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – นครราชสีมา  ตอนที่  34  (คลองไผ่) และตอนที่  40  ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับทางหลวงชนบท  เลข  นม. 1120  ณ  สำนักงานโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – นครราชสีมา  อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมา  และลงตรวจติดตามโครงการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา   ในการนี้  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการกรณีการแก้ไขปรับแบบก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่มาบกระเบา – ชุมชนถนนจิระ (สัญญาที่ 2 คลองขนานจิต – ชุมทางถนนจิระ) ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา  บริเวณสะพานข้ามแยกโรงแรมสีมาธานี  อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมาของการรถไฟแห่งประเทศไทย  โดยให้จังหวัดนครราชสีมาแต่งตั้งคณะกรรมการจากผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสมาชิกสภาสมาชิกผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  องค์กรภาคเอกชนและผู้แทนภาคประชาชน  ได้ร่วมกันพิจารณาเสนอรูปแบบแนวทางการก่อสร้างทางรอดบริเวณถนนสืบศิริ  หรือแยกโรงแรมสีมาธานี  เพื่อดำเนินการก่อสร้างทางยกระดับของโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงผ่านบริเวณดังกล่าว โดยให้ได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน

 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เด้งรับผลประชุม  ครม.เศรษฐกิจ  ปักหมุดนครชัยบุรินทร์ นำร่อง BCG โมเดล  4จังหวัดอีสานใต้มันใจต่อยอดการค้าใช้แดน  ดันมุระค่าการค้าขายในประเทศไทยสู่ระดับเวทีโลกแบบก้าวกระโดด

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เด้งรับผลประชุม  ครม.เศรษฐกิจ  ปักหมุดนครชัยบุรินทร์ นำร่อง BCG โมเดล

 4จังหวัดอีสานใต้มันใจต่อยอดการค้าใช้แดน  ดันมุระค่าการค้าขายในประเทศไทยสู่ระดับเวทีโลกแบบก้าวกระโดด

 

นายชัชวาล  วงศ์จร ประธานหอการค้า และคณะ มอบดอกไม้แสดงความยินดี

นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา และคณะ มอบดอกไม้แสดงความยินดี

ภายหลังจากที่หารือร่วมกับประธานหอการค้าและประธานกลุ่ม  Biz Club กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ได้แก่จังหวัดนครราชสีมา  ชัยภูมิบุรีรัมย์   และสุรินทร์    ที่โรงแรมสีมาธานี    นายวีรศักดิ์   หวังศุภกิจโกศล   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์   ได้กล่าวว่า   กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับนครชัยบุรินทร์  4  จังหวัดอีสานตอนใต้เป็นอย่างมาก   เพราะเป็นพื้นที่   ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง  โดยได้พิจารณาคัดเลือกกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาท้องถิ่นที่สร้างความเติบโตอย่างยังยืนให้แก่เศรษฐกิจพื้นฐานของภาคอีสานและประเทศไทยภายใต้ยุทธศาสตร์นครชัยบุรินทร์ประตูอีสานสู่สากล

ขณะเดียวกัน  4 จังหวัดอีสานตอนใต้  นครชัยบุรินทร์  ยังจะเป็นพื้นที่นำร่อง  BCG โมเดลตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี  ที่มีดำริให้กระทรวงต่างๆ พิจารณานำโมเดลเศรษฐกิจ BCG ไปใช้ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากด้วย ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้  ก็ได้เชิญผู้บริหารของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  กรมทรัพย์สินทางปัญญา และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  มาหารือกับผู้บริหารหอการค้าจังหวัดและคณะกรรมการบริหาร Biz Club กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์เพื่อกำหนดแนวทางร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจของนครชัยบุรินทร์

โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะปรับโฉมร้านค้าดั้งเดิม  ให้เป็น Smart โชห่วย อีกทั้งยังจะส่งเสริมการค้าระบบแฟรนไชส์และขยายตลาดสินค้า  OTOP Select  โดยได้สั่งการให้จัดทำเส้นทางสายไหม ในพื้นที่  4  จังหวัดเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นพร้อมอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ส่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา  จะผลักดันขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ  GI ควบคู่กับการเจรจาเปิดตลาดการค้าระหว่างประเทศ โดยได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเร่งรัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าหรือ  JTC กับประเทศคู่ค้า เช่นกัมพูชา และสปป.ลาว เพื่อขยายมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าของไทยในเวทีการค้าโลกซึ่งมี  3 กรมจะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ภายใต้ความร่วมมือของหอการค้าจังหวัดและ Biz Club ที่จะเป็นองค์กรเชื่อมโยงระหว่างรัฐกับเอกชนในการสร้างอาชีพ  สร้างมูลค่า  จากทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาระยะยาว  ตลอดจนสร้างเสริมเอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ให้เป็นจุดเด่นของจังหวัดเหล่านี้ต่อไปในอนาคต

กระทรวงการต่างประเทศ เล็งเห็นศักยภาพภาคอีสาน เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา ชั้น3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา

กระทรวงการต่างประเทศ เล็งเห็นศักยภาพภาคอีสาน เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา ชั้น3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา

กระทรวงการต่างประเทศ เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา บริเวณ ชั้น 3 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา โดยซีพีเอ็นได้สนับสนุนพื้นที่รวมขนาดกว่า 652 ตารางเมตร เปิดให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้ามารับบริการได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนศูนย์การค้าเปิด (รับจำนวน300ท่าน/วัน) ทางศูนย์การค้าพร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาใช้บริการไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถที่สะดวกต่อการมารับบริการ ประตูทางเข้า ป้ายบอกทางพร้อมเจ้าหน้าที่แนะนำเส้นทาง โดยยกเว้นค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้แก่ ค่าเช่าพื้นที่ ค่ามัดจำเช่าสถานที่ ค่าธรรมเนียม และค่าประกันต่างๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง

โดยก่อนหน้านี้ เราได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการ จัดตั้งศูนย์กลางบริการภาครัฐ หรือ Government Center และมีโอกาสได้รับใช้พี่น้องชาวโคราช ให้ได้รับความสะดวกสบาย ในการติดต่อรับบริการของภาครัฐ โดยได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากชาวโคราช  ซีพีเอ็น เราไม่เพียงให้ความสำคัญในเรื่องการเป็นศูนย์รวมสินค้า และบริการที่ครบครันเท่านั้น เรามุ่งหวังให้ศูนย์การค้าของเราเป็น “Center of Life หรือศูนย์กลางการใช้ชีวิต” สำหรับทุกคนในแต่ละชุมชนที่มีศูนย์การค้าของเราอยู่อีกด้วย

สำหรับพิธีเปิดได้รับเกียรติจากท่านชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล พร้อม ท่านวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงาน โดยมี คุณณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา, คุณรุจิเรศ นีรปัทมะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), ดร.อานรรถ ใจสำราญ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา, คุณเสฏฐวุฒิ ทัตสุระ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา และ คุณกรณ์กิจจ์ ศิริวิสูตร หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางฯ นครราชสีมา ร่วมงาน บริเวณ ชั้น3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา

MHeart สายโลหิต สายใจ “หนึ่งคนให้ หลายคนรับ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2562”

MHeart สายโลหิต สายใจ “หนึ่งคนให้ หลายคนรับ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2562”
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันแม่แห่งชาติ

การให้…คือกุศลที่ยิ่งใหญ่ เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมกับห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จัดงานบริจาคโลหิตและอวัยวะ ภายใต้โครงการ “MHeart สายโลหิต สายใจ หนึ่งคนให้ หลายคนรับ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2562” 13-14 สิงหาคม พ.ศ.2562 ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช เชิญชวนชาวโคราชร่วมบริจาคโลหิต อวัยวะ และดวงตาถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 12 สิงหาคม 2562 ทรงเจริญพระชนมายุครบ 87 พรรษา และตลอดเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อสำรองโลหิตให้โรงพยาบาลประจำจังหวัดใช้ตลอดปี 2562


โดยได้รับเกียรติจาก นางปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางณัฎฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา คุณศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา และนายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วมงาน
นางปิยะฉัตร อินสว่าง เผยว่า “ต้องขอขอบคุณเดอะมอลล์โคราช ที่จัดงาน MHeart สายโลหิต สายใจ หนึ่งคนให้ หลายคนรับ ซึ่งต่างก็ได้รับความร่วมมือ จากทุกฝ่ายในจังหวัดนครราชสีมาทั้งภาครัฐและเอกชนโรงพยาบาล สถานศึกษาร่วมบริจาคโลหิต ส่งกำลังคน ร่วมประชาสัมพันธ์รณรงค์ และสนับสนุนการจัดงาน อีกทั้งการเปิดให้บริการห้องบริจาคโลหิตภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช ซึ่งทุกคนสามารถมาบริจาคโลหิตได้ทุกวัน เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริจาคโลหิตและเป็นภาพลักษณ์แห่งความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างยิ่ง”


คุณณัฎฐินีภรณ์ จันทรโณทัย เผยว่า “เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นศูนย์กลาง ของการประสานงาน ระหว่างสภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัด กิ่งกาชาดอำเภอ และองค์กรภายนอก ให้สามารถสนับสนุนภารกิจของสภากาชาดไทย งานด้านการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบสาธารณภัย หรืองานด้านสังคมสงเคราะห์และส่งเสริมคุณภาพชีวิต แก่ประชาชนในจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อน และด้อยโอกาส ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาต้องการรับบริจาคโลหิต อวัยวะ และดวงตา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 12 สิงหาคม 2562 ทรงเจริญพระชนมายุครบ 87 พรรษา ”
คุณศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา กล่าวเสริมว่า “เดอะมอลล์โคราชเป็นองค์กรเอกชนที่มีเครือข่ายแข็งแรงในการรับบริจาคโลหิตมาอย่างยาวนานตลอด 19 ปี ซึ่งโลหิตที่ได้จากงานนี้ถูกนำเข้าคลังโลหิตเพื่อนำไปใช้ในทุกๆวันตามรพ.ต่างๆ พี่น้องประชาชนสามารถบริจาคโลหิตทุกกรุ๊ปได้ตลอดเพราะยังมีความต้องการใช้อยู่อย่างต่อเนื่องค่ะ ”
นายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว เผยว่า “สำหรับโครงการฯบริจาคโลหิต ประจำปี 2562 ได้กำหนดการรณรงค์และเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้ร่วมบริจาคโลหิต อวัยวะ และดวงตา ทั้ง 5 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 วันที่ 2-3 เมษายน 2562
ครั้งที่ 2 วันที่ 14 มิถุนายน 2561 (วันผู้บริจาคโลหิตโลก)
ครั้งที่ 3 วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 (เนื่องในวันพระราชสมภพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพพยวรางกูร)
ครั้งที่ 4 วันที่ 13-14 สิงหาคม 2562 (เนื่องในวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)
ครั้งที่ 5 วันที่ 12-13 ธันวาคม 2562
ซึ่งโครงการ “ MHeart สายโลหิต สายใจ ” เป็นโครงการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือสังคมจัดหาโลหิตสำรอง บรรเทาการจัดหาโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 19 ปี นับตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเดอะมอลล์โคราชเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดห้องรับบริจาคโลหิตภายในห้างเมื่อปี 2549 ซึ่งการดำเนินโครงการในแต่ละปีนั้นจะสำเร็จลุล่วงมิได้หากขาดความร่วมมือ ร่วมใจ จากผู้มีจิตศรัทธาทุกหน่วยงาน องค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ที่ร่วมบันทึกให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการนี้ สำหรับ“ MHeart สายโลหิต สายใจ ” ได้รณรงค์จัดหาโลหิตโดยมียอดผู้บริจาคโลหิตในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2543 – กรกฎาคม 2562 จำนวน 160,099,850 ซี.ซี. (หนึ่งร้อยหกสิบล้านเก้าหมื่นเก้าพันแปดร้อยห้าสิบซีซี)ครับ อีกทั้งต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักที่สนับสนุนกิจกรรมนี้มาโดยตลอด ได้แก่ บริษัท แออดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา บริษัท แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท ราชาอิมเมจ จำกัด