กิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 111 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

“เราเป็นมากกว่าโรงพยาบาล เพราะ เราเป็นเพื่อนคุณ”
กิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 111 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา การส่งมอบ 111 กิจกรรมทำความ ….เพื่อประชาชน” และการประชุมวิชาการครบรอบ 111 ปี
ในวันที่ 22-23 กันยายน 2563ณ ห้องประชุมสวนหม่อน, สายไหม ชั้น 7 อาคารผู้ป่วยนอก รพ.มหาราชนครราชสีมา พิธีเปิดกิจกรรมเฉลิมฉลอง111 ปีและส่งมอบ กิจกรรมทำความดี … เพื่อประชาชน

โดยมีประธาน นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาดจังหวัดนครราชสีมา ผู้กล่าวรายงาน นายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา การปฏิญาณตนของผู้ข้าร่วมกิจกรรมทำความดี และส่งมอบกิจกรรมทำความดีตัวแทนกิจกรรมทำความดี ส่งมอบป้ายกิจกรรมทำความดีประธาน และผู้บริหารผู้มีเกียรติ รับมอบกิจกรรมทำความดี นอกจากนั้นยังมีกลุ่มอสม.ในจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 111 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศกิจกรรม มีการรับบริจาคอวัยวะ บริจาคเลือด บริจาคดวงตาให้บริการ นวดแผนไทย ฝังเข็ม คลินิกกัญชาทางการแพทย์ณ ห้องประชุมข้างเผือก ชั้น 7 อาคารผู้ป่วยนอก โดย ประธาน นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาดจังหวัดนครราชสีมาและร่วม ชม โปสเตอร์กิจกรรมทำความดี และโปสเตอร์ผลงานวิชาการและร่วมกิจกรรมชมโปสเตอร์ ลุ้นรางวัลและร่วมบริจาคเลือด บริจาคอวัยวะบริการนวดแผนไทย ฝังเข็ม คลินิกกัญชาทางการแพทย์อีกด้วย

กธจ.นครราชสีมาลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการ 2 แห่งในปีงบประมาณ 2563

วันนี้ 3 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น.นายวิฑูรย์ ชาติปฎิมาพงษ์ รองประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ ที่ปรึกษากรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา  คุณธิดารัตน์ หวังสวัสดิ์ และนายธานี แก้วกระจ่าง กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจกรรมการธรรมมาภิบาล จังหวัดนครราชสีมางานติดตามสอดส่องตรวจสอบโครงการถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต แยกทางหลวงหมายเลข 224 – โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  อ.เมือง จ.นครราชสีมา งบประมาณ39,985,000  บาท

โดยมีนายไพวรรณ์  เขียวอ่อน ผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการ และนายเจษฎา มังกะโรทัย นายช่างโยธาชำนาญงาน แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ให้การต้อนรับพร้อมนำชมการทำงานของผู้รับเหมา และคาดว่าถนนเส้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จช่วงกลางเดือนกันยายน 2563 อย่างแน่นอน

นอกจากนี้  เวลา 13.00 น. นายวิฑูรย์ ชาติปฎิมาพงษ์ พร้อมด้วยคณะ โดยมีนายอัฐพล สัมพันธ์วงศ์ กรรมการธรรมาภิบาลมาร่วมเสริมทัพสอดส่องโครงการยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุกลุ่มนครชัยบุรินทร์ในกิจรรมย่อยการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัยด้วยนวตกรรมการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาการทางสมองงบประมาณ7,0000,000บาทบริหารเหลือคืนจังหวัดนครราชสีมา 1,800,000บาท ที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดยได้รับเกียรติจาก  รศ.ดร.สนั่น การค้า  รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์และวิเทศสัมพันธ์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยคณะ เพื่อนำเรียนผลการดำเนินงาน และสรุปโครงการให้คณะดำเนินงานได้ทราบต่อไป

พระธรรมเจดีย์(สมคิด เขมจารี) เจ้าคณะภาค 11 เป็นประธานเททองหล่อพระประธานวัดวัดประมวลราษฎร์ จ.นครราชสีมา

วันที่ 30 สิงหาคม 2563  ได้มีพิธีเททองหล่อพระสมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ พระประธานประจำอุโบสถหลังใหม่ ขนาดหน้าตัก 79 นิ้ว  ณ วัดประมวลราษฎร์ (ระกาย) ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โดยได้รับเมตตาจาก พระธรรมเจดีย์(สมคิด เขมจารี) วัดทองนพคุณ เจ้าคณะภาค 11 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับเกียรติจากนายวิสูตร ชัชวาลวงศ์  ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

โดยเวลา 09.29 น. มีพิธีบวงสรวง เวลา 13.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และในเวลา 14.29 น. เป็นพิธีเททองหล่อพระประธาน และหากพุทธศาสนิกชนท่านใดที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมต่อบุญครั้งนี้ได้

รถไฟฟ้ารางเบาLRT Korat ทุกภาคส่วนเห็นด้วยคาดว่าได้ใช้ปี 2568

L R Tรถไฟฟ้าโคราชผ่านฉลุย!!! ทุกภาคส่วนร่วมใจ ได้เห็นแน่ปี 2568 #รถไฟฟ้ารางเบาโคราช


รฟม. จัดประชุมรับฟัดวามคิดเห็นของประชาชนออก ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ)งานศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว
(ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์)

วันนี้ (26 สิงหาคม พ.ศ. 2563) เวลา 09.00 น. นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ) งานศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน -สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) โดยภายในงานมีผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ สถาบันการศึกษา และผู้สนใจรวมถึงสื่อมวลชนเข้าร่วมการประชุมกว่า 250 คน ณ ห้องสีมาธานี แกรนด์ บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาทั้งนี้ ได้รับเกียรติจกนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาร่วมเป็นประธานพิธีเปิด

พร้อมด้วยนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและคณะผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาลฯ โดยการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งนี้


เป็นการนำเสนอผลการศึกษาแนวเส้นทาง สถานีรูปแบบโครงกร และผลกระทบสิ่แวดล้อม รวมทั้งมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบผลการศึกษา พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆเพื่อนำไปพิจารณาปรับปรุงผลการศึกษาให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ในลำดับต่อไปสำหรับผลการศึกษาโดยสรุปคือ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว(ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) เป็นประเภทระบบรถรางไฟฟ้า (Tram)มีลักษณะเป็นระบบรถไฟฟ้าที่วิ่งไปตามทางวิ่งหรือรางบนถนน มีรูปแบบที่คล้ายกับรถไฟฟ้า MRT แต่มีขนาดเล็กกว่า รวมระยะทางประมาณ 11.15 กิโลเมตร มีสถานีรับ-ส่ง ผู้โดยสาร 21 สถานี ได้แก่ สถานีมิตรภาพ 1สถานีสามแยกปักธงชัย สถานีมิตรภาพ 2 สถานีองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สถานีสวนภูมิรักษ์ สถานีหัวรถไฟสถานีเทศบาลนคร สถานีศาลเจ้าวัดแจ้ง สถานีโพธิ์กลาง สถานีอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สถานีแยกประปาสถานีโรงเรียนสุรนารีวิทยา สถานีราชภัฏฯ สถานีราชมงคล สถานีบ้านเมตตา สถานีบ้านนารีสวัสดิ์สถานีชุมผลสถานีศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา สถานีไปรษณีย์จอมสุรางค์ สถานีวัดแจ้งในและสถานีดับเพลิง
ในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นกรณีมีการพัฒนาโครงการ ได้แก่ ผลกระทบด้านคุณภาพอากาศ เสียงและความสั่นสะเทือน จกกิจกรรมในระยะก่อสร้างของโครงการ รวมทั้งปัญหาด้านการจราจรที่มีการรบกวนผิวจราจรปัจจุบัน ซึ่งโครงการได้มีการพิจารณาและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยจัดให้มีมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบอย่างเต็มที่ อาทิ ฉีดพรมน้ำในบริเวณที่อาจเกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย กำหนดช่วงเวลาที่อนุญาตให้มีกิจกรมก่อสร้างที่ก่อให้เกิดเสียงดังผิดปกติเฉพาะช่วงเวลา 08.00 -17.00 น. ทั้งนี้ หากมีกิกรรมกรก่อสร้างที่ก่อให้เกิดเสียงที่มีความจำเป็นจะต้องดำเนินการนอกช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องมีการประกาศแจ้งให้สรรณชนทราบล่วงหน้า รวมถึงควบคุม/จำกัดความเร็ว และตรวจสอบน้ำหนักบรรทุกของรถบรรทุกให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และมีการจัดเตรียมแผนการจัดการจราจรให้สอดคล้องกับแผนงานก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนฯ นำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาและเผยแพร่แผนการจัดการจราจรให้ประชาชนทั่วไปและผู้ใช้เส้นทางที่เกี่ยวข้องทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงอีกทั้งกำหนดช่วงเวลาในการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ของโครงการ นอกช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นทั้งนี้ รฟม, ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัด

นครราชสีมา ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) โดยให้ดำเนินกรก่อสร้าง ครั้งละ 1 เส้นทาง เริ่มจากสายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ เป็นลำดับแรก ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องจากจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ) โดย รฟม, จะจัดการประชุมเพื่อทดสอบความสนใจของภาคเอกชน และ/หรือ องค์กรครองส่วนท้องถิ่น (Market Sounding) ครั้งที่ 1 ในวันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2563 เวลา 13.30 – 16.30 น. ณ ห้องสีมาธานี แกรนด์ บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา และครั้งที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 08.30 – 12.00 น.ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อทดสอบความสนใจจากภาคเอกชน นักลงทุน ตัวแทนผู้ผลิต/จำหน่ายรถไฟฟ้าและงานระบบที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนจกสถานทูตประเทศต่างๆ ตลอดจนหน่วยงานราชการส่วนกลาง และสถานบันการเงิน ซึ่งจะนำไปประกอบในการจัดทำแนวทางการร่วมลงทุนของโครงการต่อไป
สำหรับโครงการระบุบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว นับเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายแรกของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปี โดยเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2565 และสมารถเปิดให้บริการ พ.ศ. 2568 ทั้งนี้เมื่อโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐาน รวมถึงมีความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงสามารถลดการใช้รถยนต์โดยรวมบนท้องถนนจึงช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศที่เกิดจกการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ได้อีกด้วย

เสริมเขี้ยวเล็บตำรวจภูธรภาค 3

ตำรวจภาค3จัดเสริมเขียวเล็บให้ทัพตำรวจด้านการสืบสวนโดยใช้เทคโนโลยี


วันที่ 23-29 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น.ณ โรงแรมแคนทารี โดราช อ.เมืองจังหวัด.นครราชสีมาพิธีเปิดการอบรมโครงการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรด้านการสืบสวนโดยใช้เทคโนโลยีของข้าราชการตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3และผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกนาย

ตำรวจภูธรภาค 3 ได้รับอนุติงบประมาณ โครงการพัฒนาบุคลากรด้านการสืบสวน โดยใช้เทคโนโลยีของข้าราชการตำรวจ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดฝึกอบรมให้กับข้าราชการตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสายงานสืบสวน โดยมอบหมายให้ ตำรวจภูธรภาค3 ดำเนินการฝึกอบรมตามโครงการฯ ดังกล่าว ในห้วงระหว่างวันที่ 23 – 29 สิงหาคม 2563 ณ โรงแรมแคนทารี โคราช อ.เมืองจังหวัดนครราชสมา รวมผู้เข้ารับการอบรม 150. นาย

ประกอบด้วย ข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรสืบสวน ของตำรวจภูธรจังหวัด กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ถึง ภาค 9 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 1-5กองบังคับการในสังกัด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังตับการตำรวจท่องเที่ยว 1- กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1-4 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1-4 และ ข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรผู้รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1-4ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้เทคนิค และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงามสืบสรม ให้มีความรู้ความสามารถในการนำเทคโนโลยี อุปกรณ์ที่ทันสมัย มาใช้ในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งการพัฒนางานสืบสวน จะต้องพัฒนาบุคลากรให้มีองค์ความรู้และมีความรอบรู้ ที่ทันสมัยอยู่เสมอ อีกทั้ง ยังจำเป็นต้องพัฒนาให้เกิดทักษะ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ทันที รวมไปถึงเพื่อฝึกบทวน แลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคการสืบสวน และการทำงานเป็นทีม ทำให้สามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว

ด้านพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3กล่าวจากการรายงาน ท่านทั้งหลายคงทราบแล้วว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนดำเนินการ ยกระดับขีดความสมารถในการปฏิบัติภารกิจหลัก เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลเพื่อลดความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมของประชาชน โดยมีระบบกระบวนงาน ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังต้องการพัฒนาบุคคลกรขององค์กร ให้มีความรู้ความสามารถและทักษะในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาใช้สนับสนุนการสืบสวนและสามารถติดตามตัว จับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว/กั้งนี้ ก็เพื่อความสงบสุขของ ประชาชนชุมชน สังคม ประเทศชาติ

สพร.5 จัดทบทวนและทำแผนพัฒนากำลังคนระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

ที่ผ่านมา  ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์  พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมาได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การทบทวนและจัดทำแผนพัฒนากำลังคนระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2563 โดยได้รับเกียรติจาก  อ.รามณรงค์ นิลกำแหง  อ.อธิต ทิวศะศิธร์  อ.อรรถพงษ์ โภชน์เกาะ  อ.ดร.วันเกษม สัตยานุชิต  เป็นผู้ที่ให้ความรู้  ณ โรงแรมเดอะวินเทจ โฮเทล  ต.หมูสี  อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา

โดยโครงการนี้อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนากำลังคน การพัฒนาผลิตภาพแรงงาน เพื่อรองรับการเข้าสู่ Thailand 4.0 โดยจังหวัดนครราชสีมาได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการในคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.) ขับเคลื่อนแผนพัฒนากำลังคนของจังหวัดผ่านกลไกของจังหวัด

ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนากำลังคนในพื้นที่ ตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญของจังหวัด โดยนำแผนพัฒนากำลังคนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ซึ่งได้จัดทำร่างขึ้นในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติและเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาจังหวัด ตลอดจนสร้างการรับรู้ข้อมูลแรงงานด้านต่างๆ ให้กับองค์กร หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและแรงงานในพื้นที่ได้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจการพัฒนากำลังคนในพื้นที่ในรูปแบบประชารัฐ และการบูรณาการความร่วมมือสามารถพัฒนาทักษะความรู้ให้แก่กำลังคนในพื้นที่ได้ตามยุทธศาสตร์ในแต่ละระดับต่อไป

บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ส่งมอบเงิน 1,390,000 บ. สนับสนุนอาหารกลางวัน

บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ( ผู้ผลิตและส่งออกไก่ปรุงสุกทั่วโลก สำนักงานตั้งอยู่ที่อำเภอโชคชัย) ส่งมอบเงินจำนวน 1,390,000 บาท เพื่อสนับสนุนโครงการเกษตรอาหารกลางวัน ซึ่งเป็นโครงการที่ทางบริษัทดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ เพื่อพัฒนาโภชนาการของน้องๆ ในโรงเรียนที่ขาดแคลนทั้ง 22 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 4,500 คน

โครงการเกษตรอาหารกลางวันมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโภชนาการของน้อง ๆ ในชุมชนแบบบูรณาการ ปลูกฝังเรื่องโภชนาการที่ดี สร้างกระบวนการเรียนรู้สอดแทรกนวัตกรรมใหม่ ๆ และเป็นการเสริมสร้างทักษะให้กับยุวเกษตรตัวน้อย ๆ โดยมีกิจกรรมภายใต้โครงการ อาทิ เช่น การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ การเพาะเลี้ยงเห็ด การเลี้ยงปลา และการเลี้ยงไก่ไข่ โดยผลผลิตที่ได้จะถูกนำไปประกอบอาหารกลางวันในโรงเรียน และบางส่วนนอกเหนือจากนี้ยังสามารถจำหน่ายให้กับชุมชนโดยรอบ ก่อให้เกิดรายได้หมุนกลับเข้ามาในโครงการ ฯ จึงทำให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน

สสว. จัดสัมมนากระตุ้น SMEs โคราช หลังวิกฤตโควิด-19

สสว. จัดสัมมนากระตุ้น SMEs โคราช หลังวิกฤตโควิด-19

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. จัดสัมมนาพิเศษ  หัวข้อ “การพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs  หลังวิกฤตการณ์ Covid-19” ณ ห้องประชุมตะโกราย 3 อาคารสำนักงานส่งเสริมวิชาการและงานลงทะเบียน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา แนะพัฒนา 4 ด้านภายหลังพ้นวิกฤตโควิด-19

          ดร.เพชรมณี ดาวเวียง รองผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs ปฏิบัติงานช่วยควบคุม กำกับ ศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจร(OSS) ได้ให้แนวคิดกับผู้ประกอบการที่กำลังต่อสู้กับความท้าทายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติจาก โควิด-19 หรือการทำธุรกิจแบบ New Normal ว่า “ผู้ประกอบการต้องเร่งทำ 4 อย่างด้วยกันคือ สร้างทักษะใหม่ๆ หรือ New Skill Set การพัฒนาคนในองค์กร (Retraining) การพัฒนาทักษะเดิม ๆ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น (Reskilling แบบรอบด้าน) และต้องเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว (Digitalization) รวมทั้งต้องพยายามหาโอกาสในทุกวิกฤต หากผู้ประกอบการ SMEs ยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน อาจเข้ามาหาความรู้จากคลังความรู้ที่ สสว.ได้เตรียมไว้ทั้งในแพลตฟอร์มออนไลน์  www.smeknowledgecenter.com และสัมมนาที่น่าสนใจอีกหลากหลาย

          เนื้อหาของหัวข้อการสัมมนาในครั้งนี้ ทางสสว.มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการ SMEs ของภาคอีสานเตรียมความพร้อมสำหรับก้าวต่อไปเมื่อผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 บรรยายโดย อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานถึง 4 ท่านในประเด็นต่างๆ ดังนี้ การจัดการภาวะวิกฤตสำหรับ SMEs โดย ดร.อนิรุธ พิพัฒน์ประภา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย คณะบริหารธุรกิจ, สร้าง Content ดียอดขายปัง โดย ดร.ณพรรณ สินธุศิริ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ, การตลาดออนไลน์ กับ SME ไทย ในยุค 4.0 โดย นายปุริม หนุนนัด อาจารย์ประจำสาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ และสร้างแบรนด์ง่าย ๆ ด้วย Infographic โดย นางสาวศศิวิมล กอบัว อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ

          สำหรับวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ ทาง ดร.เพชรมณี ดาวเวียง รองผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs ปฏิบัติงานช่วยควบคุม กำกับ ศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจร(OSS) แนะนำผู้ประกอบการ SMEs ว่า “หลังจากวิกฤตครั้งนี้ ผู้ประกอบการ SMEs จะต้องพัฒนาธุรกิจของตัวเองทุกวัน หยุดไม่ได้ ต้องปรับธุรกิจให้เหมาะกับยุค New Normal จัดการแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่ เช่น ปรับลดขนาดองค์กร ค้นหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ กระโจนสู่ตลาดออนไลน์อย่างเต็มตัว เพราะจากวิกฤตโควิด-19 เชื่อว่า ผู้ประกอบการ SMEs ได้เห็นศักยภาพของตลาดออนไลน์แล้วว่า สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนั้นยังต้องศึกษาเรื่องการสร้าง content ให้แบรนด์มากยิ่งขึ้น เพราะ Content Marketing เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับธุรกิจ เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างสิ่งที่ต้องการนำเสนอไปถึงลูกค้าได้อย่างแนบเนียนโดยลูกค้าจะไม่รู้สึกว่ากำลังถูกขายของ รวมถึงปรับรูปแบบการนำเสนอสินค้าด้วยคลิปวิดีโอหรือภาพที่เข้าใจง่ายและดึงดูดความสนใจอย่างอินโฟกราฟฟิกให้มากยิ่งขึ้น”

          สัมมนาครั้งต่อไปของโครงการ SME Knowledge Center   ทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. จะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ที่จังหวัดเชียงราย กับหัวข้อ “อัพเกรดแฟรนไชส์ไทยเปิดตลาดสู่สากล” สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.smeknowledgecenter.com

กิจกรรมในเดือนวันแม่แห่งชาติ กองพลพัฒนาที่ 2

อีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ในเดือนแห่งวันแม่ #ทำดีด้วยหัวใจ

กองพลพัฒนาที่ 2 (ช.2 พัน.201) ได้ส่งทีม “ขุนค้อน 201 hammer” เป็นตัวแทนในการเข้าแข่งขัน Thailand Smart Soldier Strong Man Challenge ครั้งที่ 2 โดยได้ทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงฯ โดยได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น ทาสีโรงเรียน มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ผู้ยากไร้และผู้ป่วยติดเตียง และทำความสะอาด ขุดลอกคูคลอง

 โดยกิจกรรมนี้  มีน้องๆ นักศึกษา และประชาชนที่สนใจมีจิตอาสาเข้าร่วม โดยวัตถุประสงค์ต้องการมุ่งเน้นให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ในทีม รำลึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษ รักสถาบัน รักชาติ รักแผ่นดิน และทำความดีเพื่อประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม

มุ่งมั่นพัฒนาประเทศช่วยเหตุภัยพิบัติเสริมชาติมั่นคง_ดำรงสถาบัน

กองพันทหารช่างที่201

กองพลพัฒนาที่2

กองทัพภาคที่2

ตลาดนัด CEO พร้อมเปิดให้บริการชาวโคราช 9 กันยายนนี้

ตลาดนัด CEO พร้อมเปิดให้บริการชาวโคราช 9 กันยายนนี้

9-12 ก.ย.63 เปิดแน่นอน ตลาดนัดแห่งใหม่ของคนโคราช #ตลาดนั้ดCEOโคราช ถนนสุระ2 ใกล้สี่แยกย้ายหนองโพธิ์และโรงแรมอยู่สบาย ตลาดเปิดใหม่ติดถนนสี่เลน มีทั้งโซนอาหารปรุงสำเร็จและโซนของสดไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลร้านใหญ่ หมูสด เนื้อสด ผักสดและอื่นๆอีกมากมาย มาก 350 ร้านค้า พร้อมที่จอดรถสะดวกสบายมากกว่า 500 คัน

#กิจกรรม วันที่ 9 กย เย็นละแบน & น้องโชค ไทรถแห่เต็มวงวันที่ 10 กย วงฮาโมนี่ ปะทะ ค่ายมักเด้อ มิวสิควันที่ 11 กย วงพลังหนุ่ม & วงหม้อดิน โคราชปิดท้ายวันที่ 12 กย รำวงย้อนยุ้ค มะละกอ โคราชระบบเสียงงานนี้ เบียร์ ไลค์ แอนซาวย์ ปิติพัฒน์ เตชะสุระประเสริฐ มะเหมี่ยว วงดนตรีมะละกอ โคราชมะปราง พิยดา อารมณ์ โปรดักส์ชั่น วันชัย ปักกาเวเฮีย เม้งกี้ หม้อดิน วง พลังหนุ่มแบนด์ เย็นละแบนด์ โคราช ทุ่งนาเรคคอร์ด Aphisit Arjhan ทศพร พ่วงพงษ์ นอ น๊อต บ่องตง สนใจติดต่อขายของที่ผู้บริหารเสี่ยเอ็ม 093554 4147