‘Dusit D2 Khao Yai’ โรงแรมหรู ล้อมรอบด้วยมนต์เสน่ห์ขุนเขา จัดโปรโมชั่นต้อนรับเดือน พ.ค. สุดพิเศษ

สัมผัสวิวสวย Dusit D2 Khao Yai’  โรงแรมหรู ล้อมรอบด้วยมนต์เสน่ห์ขุนเขา

                ‘โรงแรมดุสิตดีทู เขาใหญ่’ หรูหรา เงียบสงบ ล้อมรอบด้วยขุนเขา พร้อมด้วยกิจกรรม activity ครบรสด้วยอาหารชั้นเลิศทั้งไทยและยุโรป สุดพิเศษจองห้องพักกับโปรโมชั่นห้องพักแบบดีลักซ์ในราคาสุดพิเศษเพียง 2,700 บาท พร้อมเครื่องดื่ม mocktail จำนวน 2 แก้ว ตั้งแต่วันนี้- 30 พฤษภาคม 2562  

วันนี้ ‘โคราชอินไซด์’ จะมารีวิว ‘โรงแรม Dusit D2 Khao Yai’ (ดุสิตดีทู เขาใหญ่) ที่ได้มาพักช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ของจริงไม่ต้องพูดเยอะมาดูกันเลยดีกว่า เข้ามาส่วนแรกก็เป็นโซน Lobby มาเช็คอินกันก่อนเลย ที่นี่จะตกแต่งโดยใช้โทนเข้มนิดๆ เน้นลายหินอ่อนที่โต๊ะเช็คอินรวมๆแล้วถือว่าสบายตาเลยที่เดียว Lobby ที่นี่ไม่ได้ใช้แอร์ แต่ใช้ลมธรรมชาติโบกสะบัดได้รับอากาศธรรมชาติบริสุทธิ์ ด้านข้างของ Lobby ก็มีสระว่ายน้ำซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ เป็นสระว่ายน้ำที่มองเห็นเขาใหญ่ประมาณ 180 องศา ระหว่างรอพนักงานก็มีน้ำอัญชันเย็นๆมาเสิร์ฟให้ดื่มเพิ่มความสดชื่นอีกด้วย โดยรวมพื้นที่ของโรงแรมมีขนาดใหญ่พอที่จะเห็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เต็ม 2 ตา โรงแรมแห่งนี้วิวแบบนี้ช่างอลังการสุดๆ มองวิวงามตาพาฝันจินตนาการได้อย่างมีความสุข

ห้องพักโมเดิร์นเรียบหรู

ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 3 ประเภท 1. ห้องดีลักซ์ จัดเตรียมให้แก่แขกผู้มาพักเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่หรูหราและอบอุ่น ประกอบด้วย เตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ หรือเตียงคู่ไว้ให้เลือก พร้อมกับทีวีแอลซีดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการชงชา/กาแฟ และอ่างอาบน้ำขนาดห้อง 36 ตารางเมตร 2. ห้องดีลักซ์ พลัส จัดเตรียมให้แก่แขกผู้มาพักเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่หรูหราและอบอุ่น ประกอบด้วย เตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ หรือเตียงคู่ไว้ให้เลือก พร้อมกับทีวีแอลซีดี เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการชงชา/กาแฟ และอ่างอาบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องน้ำ (เครื่องเป่าผม เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะสวมภายในห้อง และชุดเครื่องอาบน้ำต่างๆ ) ขนาดห้อง 36 ตารางเมตร 3.ห้องสวีท D’Corner ความโดดเด่นของห้องสวีท D’Corner คือทิวทัศน์ แบบพาโนรามา ของเทือกเขาใหญ่จากหน้าต่างแบบพื้นจรดเพดาน ซึ่งยาวสุดขอบของห้องพัก ห้องสวีทขนาด 1 ห้องนอนเหล่านี้ จะประกอบด้วย ห้องนอนขนาดใหญ่ มีหมอนบุด้วยขนนก ผ้าปูที่นอนลินินเนื้อดี ผ้านวมเนื้อนุ่ม ทีวีจอแอลซีดี ในส่วนของห้องนั่งเล่นที่สะดวกสบาย ประกอบด้วย โซฟา โต๊ะกาแฟ เก้าอี้และโต๊ะทำงาน พร้อมห้องแต่งตัว คุณจะได้รื่นรมย์กับทิวทัศน์ของเทือกเขาได้จากอ่างอาบน้ำที่เป็นการเพิ่มระดับความผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ ขนาดห้อง 72 ตารางเมตร

(และพิเศษ) ห้องสวีท Duplex ที่น่าตื่นตาตื่นใจ แยกพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและการผ่อนคลายออกจากกัน โดยชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ในส่วนของห้องนั่งเล่นซึ่งถูกตกแต่งเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย อาทิเช่น โซฟา โต๊ะกาแฟ โต๊ะทำงานและทีวีจอแอลซีดี แต่เมื่อขึ้นบันไดไปอีกชั้นหนึ่งจะกลายเป็นห้องนอนที่สะดวกสบายอีกห้องหนึ่ง ที่มีหมอนบุด้วยขนนก ผ้าปูที่นอนลินินเนื้อดี ผ้านวมเนื้อนุ่ม และหน้าต่างที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาของเทือกเขาใหญ่ ห้องสวีท Duplex จะมีห้องน้ำ 2 ห้อง โดยห้องน้ำชั้นบนจะมีอ่างอาบน้ำที่จะสามารถช่วยให้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ขนาดห้อง 69 ตารางเมตร

5 เมนูA La Carte – จุใจบุฟเฟ่ต์มื้อเช้า

                ทางด้าน คุณเพชรรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปห้องอาหารมูสิ กริล โรงแรม Dusit D2 Khao Yai’ ดุสิตดีทู เขาใหญ่ เผยว่า นอกจากที่พักและบรรยากาศที่ดีแล้วที่นี่เรายังมีบริการอาหารมื้อเย็นโดยเฉพาะเมนู A La Carte dinner ที่ทุกคนมาแล้วต้องมาลองมี 5 เมนูแนะนำ คือ 1. ผัดไทยเส้นจันท์กุ้งสด รสเข้มข้นถึงเครื่องผัดไทยโบราณหอมอ่อนๆกลิ่นกระทะ  2. สเต็กหมูพร์อคช็อพ เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ 3.ซีซ่าสลัด รสกลมกล่อม 4.ชุดหมูสะเตะและของทอดพร้อมเครื่องจิ้ม 4 รส  5.พิซซ่าอิตาเลียน แป้งบางกรอบ ทานคู่กับซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศเข้ากันได้ดี  ถือเป็นเมนูเด็ดที่ลูกค้ามาแล้วต้องมาลิ้มชิมรส  นอกจากนี้ทางโรงแรมของเรายังมีบริการห้องร้องคาราโอเกะให้ได้ผ่อนคลายและสนุกสนานอีกด้วย ขณะที่ในช่วงเช้าทางห้องอาหารยังมีบริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าให้แก่ลูกค้าทุกท่านที่มาพักให้เลือกรับประทานมากมายหลากหลายตั้งแต่เวลา 06.00 – 10.30 น.

ลูกค้าจองแน่นทั้งปี   

คุณครองยศ พิริยพฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตดีทู เขาใหญ่ ให้สัมภาษณ์ว่า โรงแรมดุสิต ดีทู เขาใหญ่ มีห้องพักตั้งแต่ขนาดมาตรฐานไปจนถึงห้องสวีทที่กว้างขวาง ตกแต่งแบบทันสมัยทั้งหมด 79 ห้อง มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งพร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ปัจจุบันโรงแรมดุสิตดีทูเขาใหญ่ เปิดบริการมาได้กว่า 2 ปีแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว ชอบธรรมชาติ ความเงียบสงบและการพักผ่อนอย่างแท้จริง ระยะหลังๆก็จะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็น ชาวสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีนที่เริ่มมาใช้บริการเยอะเช่นเดียวกัน ตั้งแต่เปิดบริการมาลูกค้าจองแน่นตลอด คือลูกค้าจะโทรจองวันไว้ล่วงหน้าก่อนเลยคือแน่นทั้งปี ถือเป็นความประสบความสำเร็จของเราที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจในการให้บริการ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่ติดใจเนื่องจากโรงแรมเราติดกับเขาและธรรมชาติไม่มีสิ่งรบกวนทั้งทางด้านเสียงและมลภาวะ ถึงการเดินทางจะเข้ามาไกลหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มาพักผ่อนอย่างเต็มที่จริงๆ

แนะนำกิจกรรมใน 1 วัน และสิ่งอำนวยความสะดวก

ในโรงแรมมีกิจกรรมไว้คอยบริการอยู่เสมอไม่ขาด ทั้งระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งแบบไร้สายทั้งในห้องพัก / พื้นที่ส่วนรวม สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ห้องออกกำลังกายและห้องสุขภาพ บริการอาหารภายในห้องพัก (08.00 น. – 23.00 น.) บริการรักษาพยาบาล บริการรถยนต์ขนาดใหญ่ / บริการรับ-ส่ง / บริการรถเช่า บริการซักรีด / บริการซักแห้งบริการพี่เลี้ยงเด็ก บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ห้องเชื่อมต่อกันตามการร้องขอ ทั้งกิจกรรมภายในโรงแรมหรือบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าคุณจะต้องการผ่อนคลายในสระว่ายน้ำ หรือการเดินป่าบนภูเขา มีทางเลือกให้คุณอยู่เสมอ ฟาร์ม อัลปาก้า การปั่นจักรยาน การพายเรือแคนู การเดินป่า / การขึ้นเขา และ การปีนเขา กิจกรรมชมไร่องุ่นกราน มอนเต้ ที่ปลูกอยู่บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่แห่งนี้ เป็นองุ่นที่ปลูกเพื่อนำไปผลิตไวน์เกือบ 100% ได้รับความนิยม ทั้งในด้านรสชาติของไวน์ และความงามของไร่องุ่น นอกจากนี้ยังมีองุ่นหลายสายพันธุ์ที่ทำไวน์ ที่เด่นคือ องุ่นสายพันธุ์ชีราช, เทมปรานิลโย, และการแบร์เนต์ โซวีนยอง ซึ่งเป็นองุ่นที่ ผลิตไวน์แดง และยังมีองุ่นพันธุ์เชอแนง บลอง สำหรับทำไวน์ขาว พิเศษกิจกรรมเชฟพาสอนทำอาหาร พ่วงกิจกรรมส่องดูสัตว์ยามในยามค่ำคืนบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ปิดทริปอย่างสวยงามอีกด้วย หากลูกค้าสนใจลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่หน้าเคาท์เตอร์

ทั้งนี้ ขอเชิญนักท่องเที่ยวและลูกค้าทุกท่านมาใช้บริการและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติขุนเขาได้ที่ โรงแรม Dusit D2 Khao Yai (ดุสิตดีทู เขาใหญ่) ที่อยู่ 678 หมู่ 18 ตำบลหมูสี อำเภอ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130 เบอร์โทรศัพท์ 044 – 003000  พิเศษโปรโมชั่นเดือนนี้ สำหรับห้องพักแบบดีลักซ์ในราคาสุดพิเศษเพียงคืนละ 2,700 บาท พร้อมเครื่องดื่ม mocktail จำนวน 2 แก้ว ตั้งแต่วันนี้- 30 พฤษภาคม 2562 อนึ่ง (โปรโมชั่นนี้ใช้ได้สำหรับการเข้าพักในวันอาทิตย์ ถึงวันพฤหัสบดีเท่านั้น จำนวนห้องพักมีจำนวนจำกัดและไม่สามารถใช้ได้สำหรับวันศุกร์ เสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนไม่ควรพลาด

ศิลปะขอมอีกแห่ง ของคนโคราช “ปรางค์พระโค” แห่งเมืองกระโทก อ.โชคชัย

ศิลปะขอมอีกแห่ง ของคนโคราช “ปรางค์พระโค” แห่งเมืองกระโทก อ.โชคชัย

 ปราสาทหินบ้านพะโค หรือ ปราสาทปะโค ตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านกระโทก อำเภอโชคชัย จังหวัดนครนครราชสีมา ถิ่นน้าชาติ บ้านคุณสุวัจน์และเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ในปลายปีไงครับ

        หากเดินทางจากตัวจังหวัด ตามถนนหลวงหมายเลข 224 ผ่านแหล่งเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนอันเลื่องชื่อของเมืองโคราช ประมาณ 30 กิโลเมตรก็จะมาถึงตัวอำเภอโชคชัย เดินทางต่อจากตัวเมืองโชคชัยไปทางอำเภอครบุรี ด้วยทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2071 อีกประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร ก็จะพบปราสาทองค์เล็ก ๆ ทางด้านขวามือ

         ซึ่งหากเดินทางโดยไม่ได้เจาะจงสนใจมากนัก ก็จะผ่านเลย “ปราสาทพะโค” ไปได้โดยง่าย

ด้วยเพราะปราสาทหินพะโคเป็นปราสาท”ขนาดเล็ก” ไม่ได้ตั้งอยู่ในเส้นทางโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองโคราช เช่นเดียวกับ ปราสาทหินใหญ่ ๆ อย่างปราสาทหินพิมาย ปราสาทพนมวัน ปราสาทเมืองแขก เมืองเสมา ฯลฯ จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวหลงทางแวะมาชมกันมากนัก เรียกได้ว่าถ้าจะมาก็ต้องตั้งใจมากันจริง ๆ แล้วค่อยตัดเดินทางไปตามเส้นทางลัดสาย สูงเนิน  – โชคชัย เดินทางลัดไปจังหวัดบุรีรัมย์

        เฉพาะที่อำเภอปักธงชัย ใกล้เคียงกับปราสาทพะโคก็มีปราสาทขนาดเล็กที่สร้างเพื่อเป็นปราสาท สรุก” หรือเทวาลัยประจำชุมชนโบราณ ถึง 8 หลัง เช่น ปราสาทบ้านนาแค ปราสาทบึงคำ ปราสาทสระหิน ปราสาทบ้านปรางค์ ฯ ในอำเภอโชคชัยก็มีอยู่ 3 ปราสาทและมีปราสาทหินน้อยใหญ่รวม 34 แห่ง ทั่วเขตจังหวัดนครราชสีมา บางแห่งก็บูรณะแล้ว บางแห่งก็ยังมีสภาพรกร้างเดิม ๆ ดิบอยู่

         ปราสาทหินตามชุมชนโบราณขนาดเล็กทั้งหลายนี้ ส่วนใหญ่จะมีสภาพพังทลายไม่สมบูรณ์เพราะต้องผจญกาลเวลามายาวนานกว่าพันปีบ้าง เกือบพันปีบ้าง ปราสาทหินจึงมี “ความไม่สมบูรณ์” ที่หลากหลาย ทั้งแบบที่ยังสร้างไม่เสร็จก็หยุดสร้าง เพิ่งเริ่มสร้างยังไม่ทันแกะสลักลายก็หยุดสร้าง หรือถูกทำลายจากภัยธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหว บ้างก็มีต้นไม้ ป่ารกขึ้นปกคลุมแทนเพราะไม่มีชุมชนมาใช้ประโยชน์หรือมาคอยดูแลรักษา

        บางปราสาท ฐานล่างต้องรับทั้งน้ำฝน ความชื้นและความร้อน ก็ล้วนแต่จะช่วยทำให้หินทรายเกิดปฏิกิริยาพองและกรอบ จึงรับน้ำหนักด้านบนที่กดทับลงมาไม่ไหวก็แตกกร่อนพาให้ด้านบนพังทลายลงมา

        บางปราสาทก็อาจถูกผู้คนในยุคหลังเข้ามารื้อทำลาย ทั้งเพื่อนำหินไปสร้างปราสาทหรือศาสนสถานตามคติความเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการค้นหาทรัพย์สมบัติและโลหะที่มีค่าไปใช้ประโยชน์

        ปราสาทหินและโบราณสถานหลายแห่งล้วนเสื่อมสภาพและพังทลายตามเงื่อนไขที่กล่าวมาทั้งสิ้น บางปราสาทหินก็อาจจะเจอสองเด้งทั้งภัยธรรมชาติและจากน้ำมือของมนุษย์

        

คำว่า “พะโค” มาจากคำว่า “ปะโค” ซึ่งเป็นชื่อเมืองเก่าแก่ในนิทานภาคอีสาน เรื่องหอนางอุษาหรืออุสา-บารส หรืออาจจะมาจากคำเขมรว่า เปรียะโค” แปลว่า “พระโค(วัว)” ชาวบ้านในพื้นที่ปัจจุบันน่าจะเคลื่อนย้ายมาจากทางอีสานเหนือเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว จึงนำชื่อเรียกใหม่สวมทับปราสาทในภายหลังครับ

         สภาพก่อนการบูรณะนั้น ปราสาทมีสภาพเป็นโคกเนินดินทับถมขนาดใหญ่ มีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นรกรุงรัง มีกองหิน อิฐและเศษรูปสลักกระจัดกระจายอยู่บนเนิน มีร่องรอยการขุดหาของเก่าหลายหลุม บางโรงเรียนโดยรอบปราสาทได้มานำทับหลังและรูปสลักหินไปเก็บไว้ บางทีก็เป็นบ้านคนมาเก็บไป บางทีก็เป็นวัดมาเก็บ มีการลักลอบนำลายแกะสลักหินที่แตกหักออกจากปราสาทไปบ่อยครั้ง

       ปราสาทพะโคในสายตาในเวลานั้นอยู่ในสภาวะเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง ตามความเห็นและข้อสันนิษฐานของผม ปราสาทหินองค์นี้ เป็นปราสาทที่สวยงามและอลังการที่สุดในบรรดาปราสาททางทิศใต้ของเขตเมืองโคราช อายุของปราสาทอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 15 -16 ฝีมือช่างแกะสลักระดับช่างหลวงคลาสลิค แบบแผนศิลปะเทียบเคียงได้กับศิลปะเกลียงหรือคลังในประเทศกัมพูชา

      นอกจากนี้  บริเวณโดยรอบยังมีสระน้ำ ล้อมรอบ และมีดอกบัวจำนวนมากอีกด้วย

ขอบคุณที่มา  :

วรณัย พงศาชลากร
เรื่องราวทางมานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ โบราณคดี สหวิทยาการและมุม Gossip
Permalink : http://oknation.nationtv.tv/blog/voranai

โคราชเชิญชวนประชาชน ร่วมประเพณีอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล ในวันสงกรานต์

โคราชเชิญชวนประชาชน ร่วมประเพณีอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล ในวันสงกรานต์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร เทศบาลนครนครราชสีมา  ได้ฟื้นประเพณีอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล ในวันสงกรานต์ หลังจากประเพณีนี้ได้ห่างหายไปตั้งแต่ปี 2522 หรือ 40  ปีก่อน หลังจากเมื่อวันสงกรานต์ปี 2560 ที่ผ่านมาได้รื้อฟื้นประเพณีอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ และสรงน้ำพระ และในวันสงกรานต์ 13 เมษายน 2562 ที่จะถึงนี้ วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ได้เตรียมอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล อีกครั้ง ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยขบวนจะเริ่มจากวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร แห่องค์พระไปยังลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ผ่านถนนจอมพล ถนนประจักษ์ ถนนมหาดไทย และถนนราชดำเนิน เพื่อประกอบพิธีลอดซุ้มประตูชุมพล ก่อนขบวนองค์พระคันธารราษฎร์ จะวกกลับไปยังวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร

โดยมีกำหนดการตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 06.30 น.  มีพิธีตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง  ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี   และเวลา 15.00 น. อัญเชิญพระคันธารราฐ หรือ พระปางขอฝน เป็นพระพุทธรูปสำคัญจากวัดพระนารายณ์ ขึ้นสู่ราชรถจัดขบวนแห่ให้ผู้ร่วมงานเดินตาม รอบเมืองตามเส้นทางที่กำหนดลอดซุ้มประตูเมืองให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ถวายสรงน้ำ กราบไหว้สักการะ บูชา โดยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้จับชายผ้าพระ เดินตามขบวนกลับไปยังวัด จากนั้นจะมีการประกอบพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์ และผู้สูงอายุ มีการก่อเจดีย์ทราย ซึ่งถือเป็นประเพณีสงกรานต์ดั่งเดิม ที่ประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ควรสืบสานและอนุรักษ์ไว้

ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2562 23 มีนาคม – 3 เมษายน

ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2562 23 มีนาคม – 3 เมษายน

เที่ยวงานใหญ่เมืองโคราช กับ งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี หรือ งานย่าโม ประจำปี 2562 จัดเต็มความสนุก 12 วัน 12 คืน ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2562 ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี หรือ “งานย่าโม” ถือเป็นงานประจำของจังหวัดนครราชสีมา ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในทุกปี เพื่อสักการะและรำลึกถึงวีรกรรมของคุณหญิงโม สตรีแกร่งแห่งโคราช

ด้วยรูปแบบการจัดงานที่น่าสนใจ อาทิ การจุดพลุเฉลิมฉลองทั้ง 4 ประตูเมืองโคราช, การรำบวงสรวงสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี, นิทรรศการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน, การแสดงแสง สี เสียง สื่อผสมประวัติของคุณหญิงโม, การประกวดนางสาวนครราชสีมา, การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง, การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง  ชมฟรีตลอด 12 วัน 12 คืน  โดยมีรายละเอียดดังนี้

Cr.ภาพจาก facebook ที่นี่นครราชสีมา

ทุ่งกังหันลมห้วยบง แหล่งท่องเที่ยวพลังงานลม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทุ่งกังหันลมห้วยบง แหล่งท่องเที่ยวพลังงานลม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นายอริกะ กายขุนทด ที่ปรึกษาชมรมรักษ์ห้วยบง เปิดเผยว่า ทุ่งกังหันลมไฟฟ้า ห้วยบง ตั้งอยู่ที่ อำเภอด่านขุนทด และอำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม “เวสต์ ห้วยบง 2” และ “เวสต์ ห้วยบง 3” ขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย มีกังหันลมทั้งหมด 500 กว่าต้น ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นกำลังการผลิตพลังงานลมสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


ในปัจจุบันทุ่งกังหันลมห้วยบง ได้ถูกพัฒนาส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดนครราชสีมา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม พักผ่อนสูดอากาศได้อย่างสม่ำเสมอ ในช่วงปลายปีทุ่งกังหันลมห้วยบง จะมีอากาศเย็นสบายเหมาะสำหรับมาพักผ่อนเป็นอย่างมาก สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถมองเห็นทุ่งกังหันลมได้จาก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2256
ซึ่งชมรมรักษ์ห้วยบง พยายามผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับวัยรุ่นและครอบครัว อีกทั้งยังส่งเสริมร้านอาหาร ที่พัก โรงแรม ให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามาในชุมชน ซึ่งทุ่งกังหันลมห้วยบง รอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดเป็นอย่างมาก

ชมคลิป>>>

นายกเหล่ากาชาด จังหวัดนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าว เปิดตัวผู้ประกวดหลานสาวย่าโม  ประจำปี  2562

นายกเหล่ากาชาด จังหวัดนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าว เปิดตัวผู้ประกวดหลานสาวย่าโม  ประจำปี  2562

วันที่  18 มีนาคม 2562 ที่ห้อง อรพิมบอลรูม โรงแรมสีมาธานี  จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับกาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดให้มีการแถลงข่าวงานแสดงแบบผ้าไทยการกุศล  “อัตลักษณ์ผ้าไทยล้ำค่า งามตระการตาผ้าไหมโคราช” พร้อมเปิดตัวสาวงามผู้เข้าประกวด “หลานสาวย่าโม ประจำปี 2562” โดยได้รับเกียรติจาก  นางปิยะฉัตร  อินสว่าง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะผู้ดำเนินการจัดงาน ร่วมกันแถลงข่าวอย่างพร้อมเพียง  ทั้งนี้ ยังได้เผยโฉม ผู้เข้าร่วมประกวด หลานสาวย่าโม ประจำปี 2562  โดยมีสาวงามจากทั้ง 32 อำเภอเข้าร่วมประกวด กว่า 52 คน  นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าว ยังได้รับเกียรติจาก พลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติมาร่วมงาน และร่วมเดินแสดงแบบ ในวันที่ 30 มีนาคม 2562 อีกด้วย รวมทั้งผู้สนับสนุนในการจัดกิจกรรมดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายในงาน ยังได้รับความอนุเคราะห์ จาก คลับลิตเติ้นคิส ไทยแลนด์ ที่ได้นำน้อง ๆ หนู ๆ มาโชว์แสดงเดินแบบผ้าไหมไทย  เพื่อเป็นการสร้างสีสัน ให้กับงานอีกด้วย

ชาวบ้านเร่งถอนมันหนีช้างป่าทับลาน ขณะที่อุทยานเตรียมขุดคูกันช้างออกจากป่า 10 กิโลเมตร

ชาวบ้านเร่งถอนมันหนีช้างป่าทับลาน ด้านนายอำเภอสั่งจัดเวรยามลาดตระเวน ขณะที่อุทยานเตรียมขุดคูกันช้างออกจากป่า 10 กิโลเมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย อำพันกาญจน์ นายอำเภอเสิงสาง พร้อมด้วย  นายประวิทย์    แสงสกุล หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลาน และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านราษฎร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากกรณีช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน ออกมาทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านที่อยู่ติดกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ในท้องที่ตำบลบ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา จนได้รับความเสียหายต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายวันในห้วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา

เบื้องต้นพบว่ามีไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านถูกช้างป่าบุกเข้าไปเหยียบย่ำผลผลิตได้รับความเสียหายจำนวน 3 แปลง รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 6 ไร่ ในจำนวนนี้มีเกษตรกรบางรายต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนกำหนด เพราะเกรงว่าจะถูกช้างป่าเหยียบย่ำทำลายจนไม่ได้เก็บเกี่ยว ถึงแม้ว่าจะต้องขาดทุนไปบ้างก็ตาม

นายสมชาย อำพันกาญจน์ นายอำเภอเสิงสาง กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับช้างป่าออกมาทำลายผลผลิตของชาวบ้านในช่วงนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะอยู่ติดกับแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งก็เป็นปัญหาต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานประสานกำลังร่วมกับทางผู้นำชุมชน กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ช้างป่าอำเภอเสิงสาง และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันออกลาดตระเวนและผลักดันช้างกลับสู่ป่า เพื่อไม่ให้ผลผลิตของชาวบ้านเสียหายน้อยที่สุด ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น ขณะนี้ทางเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 4 (ลำปลายมาศ) ประสานมาว่าในปีงบประมาณ2562 นี้ จะมีการขุดคูป้องกันช้างตามแนวเขตอุทยานแห่งชาติระยะทาง 10 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างออกมาจากแนวเขตและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่แล้ว

ชมภาพเพิ่มเติม

โคราชพลิกไร่มันเป็นจุดเช็คอินสุดฟิน สัมผัสกลิ่นไอวิถีชาวบ้านใกล้ชิดธรรมชาติ

ท่องเที่ยวนวัตวิถีโคราชบูมต่อเนื่อง โคราชพลิกไร่มันเป็นจุดเช็คอินสุดฟิน สัมผัสกลิ่นไอวิถีชาวบ้านใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง อย่างเช่นที่บ้านหนองผักไร หมู่ที่ 2 ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ชุมชนของอำเภอครบุรี ที่ได้รับงบประมาณจากโครงการนี้มาดำเนินการขับเคลื่อน ล่าสุดได้พลิกพื้นที่การเกษตรเชิงเดี่ยว ซึ่งเดิมทีมีเพียงการเพาะปลูกมันสำปะหลังเพื่อส่งขายให้แก่โรงงานต่างๆ เพื่อเลี้ยงครอบครัวในชุมชน

โดยหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จำนวนกว่า 1.7 ล้านบาท ทำให้ชาวบ้านเริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาปลูกพืชชนิดอื่น อาทิ ดอกดาวเรือง กะหล่ำปลี มะเขือเทศ และมะระ  ซึ่งเป็นพืชที่มีสีสันความสวยงามและสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการปลูกมันสำปะหลัง พร้อมทั้งจัดทำจุดชมวิวและโฮมสเตย์  ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ในภาพของแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถีชุมชนชนบท ที่สามารถดึงเอาสิ่งที่สามารถหาได้ในท้องถิ่นมาเป็นจุดขาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนอย่างนี้ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งขณะนี้หมู่บ้านหนองผักไร เริ่มกลายเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่นิยมชมชอบกับเสน่ห์วิถีชีวิตชุมชน ต่างพากันเดินทางไปเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย เพราะนอกจากจะมีความสวยงามจากสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นหอคอยไม้ไผ่ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอย่างมากแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสถึงวิถีชีวิตการดำรงชีวิตประจำวันของชาวบ้านที่ทำการเกษตรหลากหลายอย่างใกล้ชิดด้วย

>ชมภาพบรรยากาศเพิ่ม<<

วัดหนองโคพรหมนิมิต ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เนรมิตพื้นที่กว่า 1 ไร่ ปลูกต้นคอสมอส เพื่อดึงดูดนักบุญท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดหนองโคพรหมนิมิต ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ทาง พระครูวิทิตธรรมภาณ  เจ้าอาวาส และคณะกรรมการวัด ได้มีแนวคิดจัดสวนดอกไม้เพื่อดึงดูดให้คนเข้าวัดทำบุญในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง  โดยได้ปลูกดอกคอสมอสและตกแต่งพื้นที่ภายในวัดเกือบ 1 ไร่ ให้กลายเป็นสวนดอกไม้ที่ขณะนี้กำลังออกดอกบานสะพรั่งสวยงามเป็นอย่างมาก

จากการสอบถามพระครูวิทิตธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดหนองโค พรหมนิมิต ทราบว่า ทางวัดได้ริเริ่มจัดสวนดอกไม้ขึ้นก็เพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา และสร้างขึ้นเพื่อดึงดูประชาชนให้หันมาเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้น   เพราะดอกไม้เป็นสิ่งที่สวยงามและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน และในยุคแห่งโลกโซเชี่ยวนี้  หากมีสถานที่ใด ที่มีจุดโด่นเด่นให้ถ่ายภาพ  เชื่อว่าผู้คนจะแห่มาท่องเที่ยว  โดยทางวัดเองก็หวังว่า  การปลูกดอกคอสมอสนี้นอกจากจะสร้างสีสัน  ความสวยงามแล้ว ยังจะสามารถดึงดูด นักท่องเที่ยว

>ชมภาพเพิ่มเติม<<

แก่งวังเต่าโคราชเริ่มคึกคัก หลังเทศกาล ปีใหม่ ยังคงมีนักท่องเที่ยว แห่ล่องแพ ชมความงาม อย่างต่อเนื่อง

นครราชสีมา – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเริ่มต้นวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา  ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเริ่มมีนักท่องเที่ยวพาครอบครัว เพื่อนและคนที่รักเดินทางไปท่องเที่ยวกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ

อย่างเช่นที่ท่าเรือบ้านมาบกราด ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดให้บริการนำนักท่องเที่ยวเดินทางข้ามเขื่อนลำแชะ เพื่อไปเที่ยวชมแก่งวังเต่า ซึ่งเป็นแก่งหินที่มีความสวยงามและมีป่าไม้ล้อมรอบสุดจะเป็นธรรมชาติ ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ ซึ่งผู้ประกอบการส่วนทั้งในส่วนของเรือรับส่งหรือแพ ต่างก็บอกว่าตอนนี้มีการจองใช้บริการกันข้ามปีเลยทีเดียว

แต่หลังจากที่เทศบาลปีใหม่ผ่านพ้นไปแล้ว  ยังคงมีพี่น้องประชาชน ที่ได้ทราบข่าวว่า  ที่อ.ครบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย  จึงยังคงมีนักท่องเที่ยวที่ค้างจากเทศกาล ทั้งจากที่หยุดยาวจากการลาพักร้อน  หรือการสลับวันลาหยุดก็ตาม  ยังคงหลั้งไหล เช่าแพ และเรือเล็ก ชมความงามของน้ำตกวังเต่าในช่วงฤดูหนาว

ขณะที่บรรยากาศที่แก่งวังเต่า ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแก่งหินนั้นค่อนข้างน้อย แต่ก็ยังคงความสวยงาม เหมาะสำหรับพาครอบครัว เพื่อนฝูงหรือคนที่รักไปพักผ่อนหย่อนใจหลังที่ต้องทำงานหนักกันมาตลอดทั้งปี   ทั้งนี้แก่วังเต่าเป็นหนึ่งในชุมชนท่องเที่ยวในโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอครบุรีด้วย

>ชมภาพบรรยากาศ<<