รวมสุดยอดนวัตกรรมเกษตร นวัตกรรมด้านอาหาร สุดยิ่งใหญ่ในภาคอีสาน “ISAN SMART FARM SMART FOOD”

ISAN SMART FARM SMART FOOD
เริ่มแล้ววันนี้-31 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00-20.30 น.
ณ . ชั้น 3 วาไรตี้ ฮอลล์ และเอ็มซีซี ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช

จัดโดย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา
กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชมงาน “อีสาน สมาร์ท
ฟาร์ม สมาร์ทฟู้ด” ที่รวมสุดยอดนวัตกรรมเกษตร นวัตกรรมด้านอาหาร สุดยิ่งใหญ่ในภาคอีสาน เพื่อ
ยกระดับรายได้ของชุมชนจากการจำหน่ายสินค้าเกษตรและเพิ่มช่องทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ ให้เป็นที่
รู้จักอย่างกว้างขวางและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต และ
ผู้ประกอบการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทางการค้า การลงทุน ระหว่าง
ผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจการค้า การลงทุนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี
การเติบโตอย่างต่อเนื่องและเกิดการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอาหารไปยัง
ภูมิภาคอื่น


โดยมีกิจกรรมการออกบูธแสดงและจำหน่ายสินค้า จำนวน 100 ร้านค้า สินค้าประกอบด้วย สินค้า
GI สินค้าเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย เกษตรแปรรูป อาหารปลอดภัยอาทิเช่น ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ ข้าวหอมมะลิทุ่ง
สัมฤทธิ์ ข้าวทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา
กระทรวงพาณิชย์ น้อยหน่าปากช่องเขาใหญ่ กำลังอยู่ระหว่างการประกาศโฆษณาขึ้นเป็นสินค้า GI ผัดหมี่โคราช ข้าวทอด
โคราชสูตรดั้งเดิม ไข่ไก่อารมณ์ดี ข้าวอินทรีย์จากจังหวัดนครราชสีมา สินค้าแปรรูปจากปลา จังหวัดอุบลราชธานี
ลูกชิ้นยืนกิน จังหวัดบุรีรัมย์ เสื่อกก จังหวัดมหาสารคาม ชาดอกไม้ จังหวัดขอนแก่น ถ่านไบโอชา จังหวัด
หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นถ่านชีวภาพสำหรับปลูกพืชทำให้พืชเจริญโตเร็ว ต้นแข็งแรง เสื้อฝ้ายย้อมคราม จังหวัด
สกลนคร กาแฟภูทับช้าง จังหวัดเลย และสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงของแต่ละจังหวัดและทั่วภาคอีสานมากมาย
ภายงานยังมีจัดกิจกรรมสัมมนาการสร้างเครือข่ายการตลาดเชื่อมโยงการค้าเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลุ่ม
แปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ, กิจกรรม Online Business Matching (OBM) พืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยง
สัตว์ โดยได้รับความร่วมจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ ประสานผู้นำเข้า ผู้รับซื้อจากต่างประเทศ
เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยผ่านฑูตพาณิชย์ทั่วโลก, กิจกรรม Business Matching ระหว่างผู้ประกอบการกับผู้รับซื้อใน
ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมการแสดงนวัตกรรมด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร กิจกรรมสินค้านาที
ทอง กิจกรรมเช็คอิน แชร์ ลุ้นโชครับรางวัล การแสดงของนักเรียนนักศึกษาและมินิคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง
29 ก.ค. พบกับ “บอย ศิริชัย” หมอลำใจเกินร้อย
30 ก.ค. “กานต์ ทะศะนะ” เจ้าของเพลง คาถาขุนแผน
31 ก.ค. “ไรอัล ไมค์หมดหนี้” แชมป์ไมค์หมดหนี้ 200 สมัย

เทศกาลทุเรียน G.I. ปากช่องเขาใหญ่ครั้งที่

เทศกาลทุเรียนG.I.ปากช่องเขาใหญ่ ครั้งที่1

15 กรกฎาคม 2565 ณ ฟาร์มโชคชัย ถนนมิตรภาพ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
เทศกาล “ทุเรียนG.I.ปากช่องเขาใหญ่”ครั้งที่1 : ปักธงเปิดตัวสโลแกน “เนื้อแห้ง เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น กลิ่นไม่แรง” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในเมืองมรดกโลก และพัฒนาคุณภาพของทุเรียนและผลไม้ในอำเภอปากช่องต่อยอดช่วยเกษตรกรทำการตลาดพร้อมแข่งขันในเวทีระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน
ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เกษตรอินทรีย์ เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน เดินหน้าปักธงเมืองแห่งความมั่นคงทางด้านอาหารเกษตรอินทรีย์ พลิกฟื้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตามแนวทางการพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง( Korat Wellness Corridor)

       เมื่อวันที่ 15กรกฎาคม 2565 ฟาร์มโชคชัย ถนนมิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา  นายชูศักดิ์ ชุนเกาะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธานในพิธีเปิดงาน “เทศกาลทุเรียนG.I.ปากช่องเขาใหญ่” ครั้งที่ 1 และมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยให้แก่เกษตรกรทั้ง 39สวน  โดยนายคณัสชนม์ ศรีเจริญนายอำเภอปากช่องเป็นผู้กล่าวรายงาน 
งาน “เทศกาลทุเรียนG.I.ปากช่องเขาใหญ่” ครั้งที่1 จัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคมนี้ ณ ฟาร์มโชคชัย ถนนมิตรภาพ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่และเครือข่ายทุเรียน G.I. ปากช่องเขาใหญ่, อำเภอปากช่อง, สำนักงานเกษตรอำเภอปากช่อง,  ททท. สำนักงานนครราชสีมา, พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา,  ฟาร์มโชคชัย, ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารอำเภอปากช่อง, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา, หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา,และภาคีเครือข่ายทั้งภาคธรุกิจและชาวสวนทุเรียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน G.I. (สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) 
            
 ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย  อาทิ บุฟเฟ่ต์ทุเรียนและผลไม้ 399 บาท ซึ่งมีลักษณะพิเศษ ตามสโลแกน “เนื้อแห้ง เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น กลิ่นไม่แรง” จากสวนทุเรียนสมาชิกและรวมผลไม้ที่ปลูกในอำเภอปากช่อง อาทิ อโวคาโด้ น้อยหน่า แก้วมังกร ลำไย กล้วยน้ำว้าที่มีรสชาติดีเป็นที่นิยมของผู้ชื่นชอบผลไม้จากสวนเกษตรและสุดพิเศษไอศกรีมข้าวเหนียวทุเรียน (สำหรับบุฟเฟต์ทุเรียนจำกัดเวลา 49 นาที แบ่งเป็น 4 รอบต่อวัน 11.00 น., 12.00 น., 14.00 น.และ 15.00 น. (ทั้งสองวัน), อาหาร ขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมวัตถุดิบจากทุเรียน, ผลิตภัณฑ์จากทุเรียน และกิจกรรม “ขายของเขาใหญ่”  ที่นำผลิตภัณฑ์ของดีคัดสรรจากผู้ประกอบการจากอำเภอปากช่อง  
ผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูธภายในงาน อาทิ สวนทุเรียนวงศ์สมิตกุล  Treatcher Farm สวนมหาลาภ สวนอัมพร ไร่วงศ์เกษตร สวนอิงฟ้าน้ำใส ไร่ช้างทอง  สวนทุเรียนเกษสาคร  สวนถ้ำค้างคาวเขาใหญ่  สวนทุเรียนซีต้า สวนทุเรียนภูสวรรค์ สวนไร่ประกิจ สวนทุเรียนผู้ใหญ่ละมัย อินทร์ยิ้ม สวนทุเรียนนายชัดเจน สวนทุเรียนถ้ำค้างคาว สวนทุเรียนเจ้าเงาะ สวนผู้ใหญ่ไทย สวนสานรักแม่บานเย็น 

คูโบต้าอนันตภัณฑ์ สวนสองพี่น้อง ไร่แม่เกื้อหนุน สวนบ้านไร่วรพงษ์ ททท.Metaverse กลุ่มคลองม่วง สวนทองทิพย์ ตังนำการเกษตร สยามไดมอน ไร่โชตวัน MGอนันตภัณฑ์ ไปรษณีย์ไทย เกรซ ซิมเปิ้ล ฯลฯ
ภายในงานมีกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและผลไม้รวม 4รอบต่อวัน กิจกรรมจับฉลากจากหางบัตรบุฟเฟต์ ตอบคำถามชิงรางวัล และได้รับเกียรติจากนางสาวนันทิยา สุวรรณแสวง( มด) รองอันดับสอง Miss Universe Thailand 2021 และนางสาวพิมพ์นารา ฟอนซูร์มูเล็น (อูลี่)รองอันดับสาม Miss Universe Thailand 2021 และนางสาวอัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร รองอันดับ 1 นางสาวไทยประจำปี 2565 มาร่วมกิจกรรมภายในงานสร้างสรรค์ความสนุกให้กับผู้ร่วมงานในครั้งนี้
นอกจากนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังนำเสนอการท่องเที่ยวผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริงหรือเมตาเวิร์สมาร่วมให้ความรู้แก่ผู้ร่วมงานด้วย Error! Hyperlink reference not valid.เครือข่ายFood For Fighters นำทีมอาสาสมัครช่วยในซุ้มจัดทุเรียนบุฟเฟ่ต์ตลอดงาน
งานนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีและความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่จะเป็นตัวจักรสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ

ติดต่อFB:ปากช่องเมืองผลไม้GI ,สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่
สอบถามรายละเอียดLINE OFFICIAL : @561ndtxa (ผลไม้GIปากช่อง)

สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา #พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา

สานฝันคนรุ่นใหม่สู่บาเร็ตต้ามืออาชีพโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน

ติดอาวุธทางปัญญาสานฝันคนรุ่นใหม่สู่บาริสต้ามืออาชีพ โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค ๕
ได้รับเกียรติจากนายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานพิธีเปิดฝึกอบรมฝึกอาชีพเสริม หลักสูตรบาริสต้ามืออาชีพ (๓๐ ชั่วโมง)
วันจันทร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๑.๐๐ น.
ณ. ห้อง Cenza Strider ชั้น ๑ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช

นายไพฑูรย์ ถิ่นสูง รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการพัฒนาฝีมือแรงงาน ๕
นครราชสีมา ในนามของการฝึกฝึกอบรม กล่าวรายงาน การฝึก
อาชีพเสริม หลักสูตรบาริสต้ามืออาชีพ ในวันนี้
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีภารกิจในการฝึกทักษะอาชีพ พัฒนาศักยภาพแรงงาน
ของคนทุกกลุ่มให้มีทักษะในการทำงาน หรือการประกอบอาชีพอิสระ โดยมีหน่วยงานปฏิบัติในพื้นที่
ได้แก่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ ดำเนินการสนับสนุน
ส่งเสริมพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายเข้ารับการฝึกอาชีพสาขาต่าง ๆ ซึ่งการเปิดฝึกอบรมใน
วันนี้ เป็นโครงการฝึกอบรมแรงงานกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ
ประกอบด้วยแรงงานนอกระบบ ผู้ว่างงานและผู้สนใจประกอบอาชีพอิสระ โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อฝึกอาชีพเพิ่มทักษะให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะฝีมือแรงงาน
เพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้ จึงกำหนดจัดฝึกอบรมหลักสูตร
การฝึกอาชีพเสริม สาขา บาริสต้ามืออาชีพ ระยะเวลา ๓ㅇ ชั่วโมง โดยทำการอบรมระหว่างวันที่
๒๕ – ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ รวม ๕ วัน จำนวน ๒๕ คน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา
นครราชสีมา ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับ ผู้ผ่านการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ ทักษะที่ได้รับไปสร้าง
โอกาสในการประกอบอาชีพ มีงานทำในระบบการจ้างงาน และการประกอบอาชีพอิสระ แบ่งเบา
ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง
สร้างเศรษฐกิจภายในครอบครัว เข้มแข็งต่อไป

ประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ

โครงการอบรมวิชาชีพตามมาตรฐานฝีมือแรงงานและการประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ

วันพุธที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕ณ วิทยาลัยเทคนิคนครโคราช (วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา)อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา การประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพนายวิจิตร กิจวิรัตน์คำปลัดจังหวัดนครราชสีมา ประธานกล่าวเปิดโครงการ พร้อมด้วยนางอารยา ศิริทิพย์ ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติภาค ๓กล่าวเปิดกิจกรรม และท่านผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติในสังกัดคุมประพฤติภาค ๓ /ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติภาค ๓ และคณะ/ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงยุติธรรม/ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครโคราช/ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาและแขกผู้มีเกียรติทุกท่านผู้เข้าร่วมพิธีเปิด

โครงการอบรมวิชาชีพตามมาตรฐานฝีมือแรงงานและการประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ และในวันนี้ผู้เข้าร่วมประกวดการทำอาหารในระดับภาคที่ได้เดินทางมาจากจังหวัดบุรีรัมย์/สุรินทร์/ศรีสะเกษ/ยโสธร/อำนาจเจริญ/ชัยภูมิและอุบลราชธานีนั้น จังหวัดนครราชสีมา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนให้ผู้กระทำผิดได้มีอาชีพ สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวโดยการฝึกอาชีพ ส่งเสริมให้มีงานทำและมอบทุนประกอบอาชีพ รวมทั้งเสริมสร้าง

บทบาทของอาสาสมัครคุมประพฤติให้เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการคืนคนดีสู่สังคมอย่างครบวงจรทักษะวิชาชีพสามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่า นั้นตามที่ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติภาค ๓ ได้กล่าวรายงานมาแล้วนั้นนับเป็นสิ่งที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเพราะภารกิจหลักของกรมคุมประพฤติคือการดูแลแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน การสร้างงาน สร้างอาชีพ และยกระดับในการทำอาหารของผู้กระทำผิด ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสร้างขวัญกำลังใจ ต่อไป ผลการแข่งขันประเภทการประกวด แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้

๑. ประเภทอาหารคาว

๒.ประเภทอาหารหวาน

ได้แก่ชนะเลิศที่๑ทีมสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุรินทร์ทั้งสองรายการ

เทศกาลสินค้าโครงการหลวงดอกไม้กินได้

กูร์เมต์ มาร์เก็ต ชวนชาวโคราช ช้อป ชิม หลากหลายสินค้า

และเมนูอร่อย ดีต่อสุขภาพ ในบรรยากาศกาดดอยแสนม่วนอกม่วนใจ๋

ที่งาน “เทศกาลสินค้าโครงการหลวง:ดอกไม้กินได้”

กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ เดอะมอลล์ โคราช ร่วมกับ มูลนิธิโครงการหลวง จัดงาน “เทศกาลสินค้าโครงการหลวง: ดอกไม้กินได้” ชวนชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมลิ้มลองความอร่อยกับเมนูสุดพิเศษเฉพาะงานนี้ ที่รังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบและดอกไม้กินได้จากโครงการหลวง พร้อมด้วยสินค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพทั้ง ผัก ผลไม้ ดอกไม้กินได้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมาย พร้อมเมนูอิ่มอร่อยจากอาหารพื้นเมือง ที่ปรุงด้วยวัตถุดิบโครงการหลวง กว่า 10 เมนู ในบรรยากาศกาดดอยแสนม่วนอกม่วนใจ๋ ระหว่างวันที่ 5 – 12 มกราคม 2565 ที่ Grand Hall ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช

6 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. ที่ Grand Hall ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เทศกาลสินค้าโครงการหลวง : ดอกไม้กินได้”พร้อมด้วย พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจตรี พรมณัฏฐเขต ฮามคำไพ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 คุณพัชรินทร์ เก่งกาจ หัวหน้าฝ่ายผลิตผลและผลิตภัณฑ์แปรรูป มูลนิธิโครงการหลวง คุณศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด คุณพลอยชมพู อัมพุช ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ คุณชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ

 กลับมาส่งตรงความสด อร่อย แบบได้สุขภาพให้กับชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียงอีกครั้ง กับงาน “เทศกาลสินค้าโครงการหลวง” ภายในคอนเซ็บท์ “ดอกไม้กินได้” พร้อมจำลองบรรยากาศและกลิ่นอายการตกแต่งที่สวยงามเหมือนยกกาดดอยมาได้ม่วนอกม่วนใจ๋ โดยภายในงานรวบรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพจากโครงการหลวงทั้ง ผัก-ผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมาย กว่า 150 รายการ อาทิ ผักเคล และผักสดหลากหลายชนิด,  สตรอเบอร์รี่, เคปกูสเบอร์รี่, เสาวรส, ฟักทองญี่ปุ่น,มะเขือเทศเชอรี่, ปลาเรนโบว์เทร้าต์, ขนมปังมันเทศญี่ปุ่น มินิ, ไข่ไก่อินทรีย์โครงการหลวงที่เลี้ยงแบบปล่อยธรรมชาติไม่ใช้ฮอร์โมนไม่ใช้สารเร่ง, กาแฟดริปโครงการหลวง กาแฟ 100% อะราบิก้า จากแหล่งปลูกแม่ลาน้อย ที่มีสภาพอากาศเหมาะสม ปลูกภายใต้ร่มไม้ใหญ่ และสภาพหุบเขาที่โอบล้อม ทำให้ได้เมล็ดกาแฟคุณภาพ มีให้เลือก 2 แบบ คือ คั่วกลาง กับ คั่วเข้ม, เนยแข็งเฟต้า ผลิตจากนมควายผสมนมแพะ นิยมรับประทานกับสลัด บีบให้เนื้อร่วนโรยหน้าสลัด โรยหน้าพิซซ่า หรือทานกับผลไม้, ผักเคลผง สินค้าใหม่ที่คุณค่าทางโภชนาสูง อัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุเป็นราชินีแห่งผักใบเขียว ฯลฯ พร้อมพบกับไฮไลท์ “ดอกไม้กินได้” อาทิ ดอกเนสเตอร์เตียม (Nasturtium) มีสีขาว ครีม ชมพู เหลือง ส้ม และแดง มีกลิ่นหอม ใบมีรสเผ็ด จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Indian Cress ดอกและใบนิยมมารับประทาน เป็นผักสดมีรสเผ็ดและให้กลิ่นหอมคล้ายกับวอเตอร์เครส นิยมใส่ในสลัดเพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติ ดอกกุหลาบ (Rose) มีหลากหลายสีสัน เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ มีสรรพคุณช่วยลดกลิ่นตัว ขับเหงื่อ ขับสารพิษ ช่วยบำรุงหัวใจ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ กลีบบางชนิดนำมาทำเป็น “ชาดอกกุหลาบ” บางชนิดนำมาทำเป็นอาหาร เช่น นำไปยำกับเนื้อสัตว์ ชุบแป้งทอด ใส่ในไข่เจียว หรือจะทำเป็นสลัดได้เช่นกัน, ดอกบีโกเนีย (Begonia) ตัวดอกมีความกรอบชุ่มฉ่ำเหมือนผักสลัดสด ๆ มีรสชาติเปรี้ยว เหมือนยอดมะขามอ่อน เหมาะสำหรับอาหารทุกประเภทที่ต้องการตัดรสเลี่ยน หรือแม้กระทั่งทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อเติมความสดชื่นระหว่างวัน มีสรรพคุณช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร

 พร้อมกันนี้เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสและลิ้มลองความอร่อยของวัตถุดิบคุณภาพจากโครงการหลวง กูร์เมต์ มาร์เก็ต ได้รังสรรค์ 4 เมนูสุดพิเศษ โดยเชฟ You Hunt We Cook ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะงานเท่านั้น ได้แก่ สลัดโรลผักเคลกับดอกไม้โครงการหลวง (Salad Roll with kale Flower) ราคา 90 บาท, ผักเคลเบคอนอบครีมชีส (Bake kale & bacon cream cheese) ราคา 150 บาท, ปลาเรนโบว์เทราต์ ย่างกับซัลซ่ามะเขือเทศโครงการหลวง (Grilled Trout decorations with Cherry Tomato Salsa) ราคา 250 บาท, ปลาเรนโบว์เทราต์ ย่างซอสสมุนไพรกับข้าวโครงการหลวง (Grilled Trout with Thai Herb and Rice) ราคา 250 บาท และนอกจากนี้ภายในงานยังได้คัดสรรอาหารเหนือแบบพื้นเมืองแท้ ๆ และยังใช้วัตถุดิบจากโครงการหลวงในการปรุงเมนูมาให้ได้เลือกลิ้มลองความอร่อยมากมาย อาทิ ข้าวเหนียวงาดำ มีส่วนผสมพิเศษในส่วนของข้าวเหนียวธัญญะพืชที่ได้ใช้ งาดำ    และงาหอม ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงมาเป็นส่วนผสมซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์, ข้าวซอยปลาเทร้าต์ทอด อาหารขึ้นชื่อของชาวเหนือ ใช้ปลาเทร้าต์จากโครงการหลวง ทอดในน้ำมันร้อน ๆจนเหลืองกรอบ ทานพร้อมเส้นและราดน้ำแกงข้าวซอย เพิ่มความอร่อยด้วยเครื่องเคียงต่าง ๆ, ผัดไทไข่ไก่โครงการหลวง เมนูอาหารจานเด็ดซึ่งทางร้านได้นำไข่ไก่โครงการหลวงที่ปล่อยตามธรรมชาติ ไก่ไม่เครียด ไม่ใช้ฮอร์โมนเร่งไม่ใช้สารเร่งสีไข่แดง เลี้ยงด้วยผลผลิตอินทรีย์ ซึ่งไข่ไก่อินทรีย์จะปลอดจากสารพิษ, น้ำพริกหนุ่ม พร้อมผักเครื่องเคียงโครงการหลวง อาหารพื้นบ้านล้านนาที่รู้จักกันทั่วไป ทำจากพริกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าพริกหนุ่มอาจจะใช้พริกหนุ่มที่แก่จัดหรือยังไม่แก่จัดก็ได้ โขลกส่วนผสม หอม และกระเทียม ที่มาย่างและรับประทาน กับ ผักโครงการหลวงสดจากดอยโดยตรง ซึ่งเป็นผักปลอดภัย และมีให้เลือกหลายหลายชนิด, กะลอจี้ ขนมกะลอจี๊เป็นขนมแป้งเหนียว ๆ สัญชาติจีน นำไปต้มจนสุก เวลาจะกินก็นำไปคลุกกับน้ำตาลทรายผสมงาขาวงาดำ จากโครงการหลวง ใส่ถั่วเพิ่มกะลอจี๊กรอบนอกนุ่มใน หอมงาและถั่ว ไปกินเล่นยามว่าง, ขนมตะโก้  ตะโก้กะทิสดมีให้เลือกกว่า 16 ไส้ โดยมีเมนูแนะนำคือไส้ ข้าวโพด, ฟักทอง, ถั่วแดง ที่สด ใหม่ จากโครงการหลวง บอกเลยว่าถ้ากินหมดนี่เบาหวานรับประทานแน่นอน,น้ำอะโวคาโดปั่น ได้คัดสรร ผลอะโวคาโด สดจากทีมโครงการหลวง มาทำน้ำอะโวคาโดปั่น ซึ่งเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกว่า 20 ชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ซึ่งประโยชน์ของอะโวคาโดนั้นมีหลากหลายด้าน เช่น บำรุงสมอง บำรุงดวงตา ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ไปจนถึงประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ และอีกหลากหลายเมนูให้เลือกลิ้มลองความอร่อย

ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง และลิ้มลองความอร่อยกับหลากหลายเมนูได้ ในงาน “เทศกาลสินค้าโครงการหลวง: ดอกไม้กินได้” ตั้วันที่ 5 – 12 มกราคม 2565 ที่ Grand Hall ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช

“พิธีเปิดโครงการการผลิตสื่อออนไลน์เพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมผ้า และอาหาร โคราชบ้านเอง”


วันเสาร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๑๕ น.พิธีเปิดโครงการการผลิตสื่อออนไลน์เพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมผ้า และอาหาร โคราชบ้านเองณ ห้อง Studio ชั้น ๕ (NRRU Library) สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาโดยนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ ประธานดำเนินการโครงการผลิตสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ผ้าและท่านวิทยากร  คณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการ  และผู้เข้าร่วมการอบรมทุกท่าน

โครงการผลิตสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ผ้าและอาหารการส่งเสริมต่อยอดสร้างสรรค์ ด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมดำเนินการโดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม,พัฒนาการชุมชนจังหวัดนครราชสีมา , มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลและสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา

สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เป็นองค์กรภาคประชาสังคม ภายใต้การกำกับของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริม รักษา สืบสาน อนุรักษ์ ฟื้นฟู ต่อยอด ด้วยศิลปะวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม และมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ของชาติ ให้คงอยู่สืบไป

ในส่วนการรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ.2559 ได้กำหนดให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีบทบาทในการส่งเสริม รักษา หรือ พัฒนา ให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ครอบคลุม เนื้อหาสาระ ของการรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ๗ ด้าน ได้แก่ (๑) วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา (๒) ศิลปะการแสดง (๓) แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล (๔) ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล (๕) งานช่างฝีมือดั้งเดิม (๖) การเล่นพื้นบ้าน กีฬา พื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว (7) ลักษณะอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงวัฒนธรรม

โดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เห็นความสำคัญของการรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม  ได้จัดทำโครงการ การผลิตสื่อออนไลน์เพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมผ้า และอาหารโคราชบ้านเอง ขึ้นมา จึงถือว่าเป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่น จะได้เผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์ด้านอาหารพื้นถิ่น และผ้าพื้นเมือง ของจังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย  โดยจัดอบรมผู้ที่สนใจผลิตสื่อสารสนเทศ ก่อนไปจัดทำคลิปวิดีโอการประกวด และจัดให้มีการคัดเลือกผลงานที่มีความเหมาะสม  ที่จะนำไปเผยแพร่ต่อไป  การอบรมครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมได้รับทั้งความรู้ และวัฒนธรรมด้านผ้าและอาหารของจังหวัดนครราชสีมา

การจัดทำโครงการครั้งนี้ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับ องค์กรภาครัฐและเอกชน อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พัฒนาการชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา จึงถือเป็นการบูรณาการ การทำงานร่วมกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1. เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราชรูปแบบออนไลน์ ให้แก่เยาวชนและประชาชนของจังหวัดนครราชสีมา

2. เพื่อฝืกอบรมผลิตสื่อสารสนทศรูปแบบออนไลน์ โดยการมีส่วนร่วมของเยาวซนและประชาชนให้สามารถผลิตสื่อด้านวัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราช อย่างสร้างสรรค์

3. เพื่อพิจารณาคัดเลือกสื่อสารสนทศดีเด่นเกี่ยวกับวัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราชที่เยาวชนและประชาชนได้ผลิต เผยแพร่ และมอบรางวัล

การดำเนินกิจกรรมโครงการนี้แบ่ง 2 ลักษณะ

1. การอบรมสร้างเสริมความรู้ด้านวัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราชบ้านเองและความรู้การเขียนเนื้อหาประกอบบทวีดีทัศน์ ระยะเวลา 1 วัน

2. จัดทำวีดีทัศน์การประกวดขนาดความยาว 3 5 นาที/เรื่อง เพื่อชิงโล่รางวัลแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ต้านผ้าและอาหารโคราชมีโล่และเงินรางวัลชนะเลิศจากท่านอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและเงินรางวัลรวมกว่า 50,000 บาท

นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่าสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ขอขอบคุณท่านวิทยากร    หัวหน้าโครงการ  หน่วยงาน  องค์กร ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งหลาย และหวังว่าผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับประโยชน์จากการอบรมครั้งนี้เป็นอย่างดี แนะนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้จากคณะวิทยากรผู้ทรงภูมิรู้ในแต่ละด้าน ไปผลิตสื่อดิจิตอล มาเผยแพร่ ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโคราช ตามวัตถุประสงค์โครงการ เพื่อสืบสานมรดกภูมิปัญญาของคนโคราช ให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชนทั่วโลกสืบไป




ผลิตภัณฑ์ไมซ์ สู่เมือง Korat MICE City

Thailand 7 แนวทางผลิตภัณฑ์ไมซ์ จากเมืองไมซ์ซิตี้

วันที่ 18 กันยายน 25 63 เวลา9.00น. ณ.โรงคั่วกาแฟ อำเภอวังน้ำเขียวจังหวัดนครราชสีมา นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน เปิดโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes นั้น

มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกสถานที่จัดกิจกรรมไมซ์ หรือที่เรียกว่า “ผลิตภัณฑ์ไมซ์” จากเมืองไมซ์ซิตี้และเมืองเชื่อมโยงที่มีศักยภาพซึ่งกระจายทุกภูมิภาคทั่วไทย โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 และสำหรับโครงการที่ดำเนินการในปี 2563 นี้ ได้คัดเลือกเส้นทางสายไมซ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์มากกว่า 120 ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุม 11 จังหวัด ประกอบไปด้วยเมืองไมซ์ซิตี้ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและขอนแก่น และเมืองที่มีศักยภาพ ได้แก่ อยุธยา ชลบุรี จันทบุรี พิษณุโลก สุโขทัย สุราษฎร์ธานีและนครราชสีมา
สำหรับโคราช ถือเป็นอีกเมืองทีกลุ่มนักเดินทางไมซ์ได้เป็นอย่างดีอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีสถานที่จัดประชุมสัมนาและนิทรรศการที่หลากหลาย มีโรงแรมและศูนย์การค้ามากที่สุดในภาคอีสาน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในหลายอำเภอไว้รองรับระหว่างการจัดประชุมสัมมนา จึงทำให้จังหวัดนครราชสีมาหรือเมืองโคราช ได้รับการคัดเลือกให้เมืองไมซ์ซิตี้ลำดับที่ 6 ของประเทศไทยนั่่่่
ปัจจุบัน นักเดินทางไมซ์หรือนักเดินทางกลุ่มธุรกิจ นอกจากจะเดินทางโดยมีเป้าหมายวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งในด้านธุรกิจแล้ว คนกลุ่มนี้ยังสนใจเก็บเกี่ยวประสบการณ์เชิงสร้างสรรค์ภายหลังจบการประชุมหรือสัมมนา ไม่ว่าจะเป็นการได้มีโอกาสทดลองทำจริงหรือกิจกรรม workshop การมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตและประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่แตกต่างของเมืองต่างๆ ดังนั้นทีเส็บจึงพยายามค้นหาสถานที่จัดกิจกรรมสำหรับนักเดินทางไมซ์ที่น่าสนใจในหลากหลายเส้นทาง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้จัดงาน และการพัฒนาเส้นทางในพื้นที่เป้าหมายตาม 7 Themes จะเพิ่มโอกาสทางการตลาดในการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ ให้กลุ่มผู้ซื้อ ซึ่งก็คือนักเดินทางธุรกิจให้มีทางเลือกที่หลากหลาย และเอื้อต่อการตัดสินใจพิจารณาเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง

  1. กิจกรรมบรรยากาศชายหาด (Beach Bliss)
    สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ของจังหวัดนครราชสีมาหรือโคราช ใน โครงการ “Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2020” ในวันนี้ ทางทีเส็บ ขอขอบคุณ ท่านผู้ประกอบการและผู้นำทุกชุมชนที่อยู่ในโครงการ 7 ธีมในปีนี้ ที่ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยประกอบด้วย 12 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน ได้แก่ บ้านหมากม่วง, โรงคั่วกาแฟ วังน้ำเขียว, สวนผักปากช่อง, กราน-มอนเต้ วินยาร์ด แอนด์ ไวเนอรี่, Movenpick (My Ozone),ชุมชนบ้านสุขสมบูรณ์, บ้านจะโปะ ปักธงชัย, สถานีวิจัยลำตะคอง, Isaan-Isan Boutique Resort, Scenical World Khao Yai สวนน้ำและสวนสนุกซีนิคอลเวิลด์ เขาใหญ่, โครงการเรือนโคราช-เฉลิมวัฒนา และโต๊ะโคราช โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมซึ่งในครั้งนี้มีโอกาสมาร่วมพูดคุยลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ได้ไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ได้เครือข่ายที่ทรงพลัง ในการนำไปปรับใช้กับธุรกิจหรือชุมชนของท่านต่อไป และในวันนี้ถือเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะได้ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยกันระดมสมองเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ของทุกท่านให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มไมซ์หรือกลุ่มนักเดินทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น


จากการศึกษาและวิจัยของทีเส็บพบว่า นักเดินทางไมซ์สนใจกิจกรรมต่างๆ 7 ธีมด้วยกัน ได้แก่ การผจญภัย อาหาร CSR ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทีมเวิร์ค กิจกรรมหรูหราและกิจกรรมชายหาด จึงเกิดโครงการ Thailand 7 MICE Magnificent Themes ขึ้นมานั่นเอง โดยประกอบ
ไปด้วย 1. การผจญภัย (Exhilarating Adventures) 2. การนำเสนออาหารไทยในทุกการจัดงาน
ที่หลากหลาย (Culinary Journeys) 3. กิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์ (CSR and Green Meetings) 4. ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (Fascinating History and Culture) 5. การสร้างทีมเวิร์ค (Treasured Team Building) 6. การจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ (Lavish Luxury) และ

ดูดินด่านเกวียน#1 กระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจโคราช

กระตุ้นท่องเที่ยว”ดูดินด่านเกวียน”ภายใต้การท่องเที่ยวในวิถีแบบใหม่ New Normal #ดูดินด่านเกวียน #การท่องเที่ยว


วันเสาร์ที่15 สิงหาคม 2563ถนนสายวัฒนธรรม ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมานำโดย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจัหวัดนครราชสีมา , นายธนิต จิตละมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรี. . เทศบาลตำบลด่านเกวียนได้จัดพิธีเปิดงาน “ดูดินด่านเกวียน” ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวีศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมเป็นประธานเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่พร้อมด้วยนางประนอม คลังทอง ผู้ตรวจราชการกระวัฒนธรรมแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนทุกท่าน


ซึ่งภายในงานเป็นรูปแบบของถนนคนเดิน ตลอดทาง200 เมตร ตกแต่งด้วยไฟสวยงาม ทางชุมชนได้เปิดบ้านเข้าเยี่ยมชมการทำงานของศิลปินดินด่านเกวียนทั้งรูปแบบการปั้น การเผา และการลงสี ผู้ที่มาร่วมงานจะได้ทั้ง ชิมอาหารพื้นบ้านของทางตำบลด่านเกวียน และของขึ้นชื่อภายในจังหวัดนครราชสีมา ชมการแสดงพื้นบ้าน เดินเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ดินเผาราคาพิเศษ และร่วมเวิร์คชอปปั้นดินฟรีกิจกรรมพิเศษ การแข่งขันประกวดปั้นโคมไฟแกะลายวิจิตร , การแข่งขันประกวดเข็นลวดลายบนภาชนะดินผาด่านเกวียน ในโครงการ “อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีชาวดิน ถิ่นงาน หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา” รวมมูลค่ารางวัลกว่า13,000 บาท
นายวิเซียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่าการจัดงานดูดินด่านเกวียน ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายใต้การท่องเที่ยวในวิถีแบบใหม่ New Normal ทำให้เกิดกิจกรรมและรายได้เข้าสู่ชุมชนเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวและสร้างความชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และผลักดันการท่องเที่ยวในวิถีชุมชน ส่งเสริมเสน่ห์และเอกลักษณ์ของชุมชนด่านเกวียนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณคำทางศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมานับเป็นความกรุณาของทนอย่างยิ่ง ทาง ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา


ต่อมานายธนิต จิตละมัย ท่องเที่ยวและกีพาจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า การจัดงานทั้งหมดมีระยะเวลา 2 วัน โดยมีวัตถุประสงค์ ในการจัดงาน ดังนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมและยกระดับการท่องเที่ยวภายในจังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มเป้าหมายของการจัดในครั้งนี้ คือประชาชนทั่วไป ทั้งในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ โดยการจัดงานครั้งนี้ จะได้พบกับ การเปิดบ้านให้เยี่ยมชมการปั้น การลงสี การเผา ของศิลปินดินด่านเกวียน
จากนั้น นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ นับว่ามีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้ ตำบลด่านกวียน อำเภอโชคชัย ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เดินทางมาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี และยังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนซึ่งก็ต้องขอชมเชยทางจังหวัดนครราชสีมา ,สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ,สำนักงานเทศบาลด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย และคณะผู้ร่วมจัดงานทุกท่านที่ได้ร่วมมือกันจัดงานดีๆ แบบนี้ขึ้นมา
สำหรับผู้ที่สนใจวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินผา สามารถข้าชมงานได้ในวันเสาร์ที่15 สิงหาคม2563 และ วันเสาร์ที่ 22 สิหาคม 2563 เวลา 16.00 – 20.00 น.ณ ถนนสายวัฒนธรรม ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ นครราชสีมา

สสว. CONNEXT >> 40 ปีหอการค้าโคราชแฟร์

แถลงข่าว สสว. connext 40ปีหอการค้าโคราช แฟร์ #หอการค้าโคราช #กระตุ้นเศรษฐกิจ #Terminal21


​หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจการค้าสู้ COVID-19 จับมือ สสว. และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดงานแสดงสินค้า สสว. Connext 40 ปีหอการค้าโคราชแฟร์ พบกับสินค้า อาหาร ของดีเมืองโคราชมากกว่า 150 บูธ พบกับกิจกรรมเสวนาและอบรม China The Great Wall เจาะธุรกิจ ทะลุกำแพงจีน พร้อมกับกิจกรรม Business Matching เพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจ ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ดึงกำลังซื้อท้องถิ่น-นักท่องเที่ยวภายในประเทศจับจ่ายกระตุ้นเงินสะพัดในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท


​นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าภาคเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงครึ่งปีแรก และในช่วงครึ่งปีหลังยังอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระบบเงินหมุนเวียนในพื้นที่หายไปมากกว่า 70-80% คงมีเพียงงบประมาณจากภาครัฐ และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้หารือและทำงานร่วมกับทุกฝ่ายทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชนที่พร้อมผลักดันทำให้ภาคการเศรษฐกิจของนครราชสีมาทั้งระบบมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวมีความเกี่ยวโยงไปถึงภาคประชาชน ภาคประชาสังคม รวมถึงเกษตรกร ถ้าภาคการท่องเที่ยวบริการหยุดชะงัก เกษตรกรก็ไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัด
.
​การปรับตัวในช่วงต่อไปของจังหวัดนครราชสีมาก็จะเน้นเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัย และสุขภาพควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว การค้า รวมถึงภาคเกษตรกรรรม ดังนั้นจึงขอให้ภาคเศรษฐกิจการค้าได้มีการปรับตัว ประคองตัวและนำเสนอประเด็นปัญหาที่เผชิญผ่านหอการค้า นอกจากนั้นหอการค้ายังได้รณรงค์และสนับสนุนให้สถานประกอบการต่าง ๆ ได้เข้าสู่มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์แล้วกว่า 40 ราย ซึ่งผู้ที่ได้รับรองมาตรฐาน SHA การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนนี้ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามีความมั่นใจและมาโคราชเพิ่มมากขึ้น


.
นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาและประธานโครงการ 40 ปีหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ 40 ปี การก่อตั้งหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง หอการค้าจึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ มากมายขึ้น ซึ่งกิจกรรมที่จัดไปแล้ว ได้แก่ งานทำบุญครบรอบ 40 ปีหอการค้าฯ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563, โครงการ 40 ปีหอการค้าเปิดประตูเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยได้การตอบรับเป็นอย่างดี จากทั้งร้านอาหาร และนักท่องเที่ยว และสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวให้เมืองโคราชมีชื่อเสียง
.
สำหรับกิจกรรม สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ ก็เป็นอีก 1 กิจกรรมใหญ่ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของหอการค้าโคราชเช่นกัน ถือเป็นงานที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าขายในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการศูนย์การค้า Terminal 21 โคราชหลังจากประสบเหตุกราดยิง และการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้กลับมาคึกคักโดยเร็ว
​นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมครบรอบ 40 ปี หอการค้าโคราช ที่จะเกิดขึ้นอีก 2 กิจกรรมใหญ่คือ การแข่งขันกอล์ฟ 40 ปี หอการค้า ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ณ สนามกอล์ฟ พานอรามา กอล์ฟ แอนด์คันทรี คลับ และงานเทศกาลประจำปี BBQ FESTIVAL@KORAT 2020 หรืองานเทศกาลอาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 14
.


นายอัฐพล สัมพันธ์วงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธานโครงการ สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ว่า โครงการสสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมช่วยเหลือผู้ประกอบการ MSME สมาชิกหอการค้า และผู้ประกอบการในจังหวัดนครราชสีมา ให้เกิดการซื้อขาย เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมา หลังสถานการณ์โควิด -19 และเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางการตลาด ให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น โดยเฉพาะ SME ที่มีศักยภาพ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ใหม่ ๆ การสร้างความร่วมมือ เชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างๆ ในการเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และกระจายรายได้ในจังหวัดนครราชสีมาจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวของนครราชสีมาได้รับผลกระทบอย่างสูง และทำให้ผู้ประกอบการในระดับ SMEs และรายย่อยขาดรายได้หมุนเวียน หอการค้าฯ จึงประเมินสถานการณ์ว่าจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและฟื้นบรรยากาศการค้าขายในพื้นที่ให้เกิดขึ้นนำร่องขึ้น จึงได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดงาน สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ขึ้น ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ดึงกำลังซื้อท้องถิ่น-นักท่องเที่ยวภายในประเทศจับจ่ายกระตุ้นเงินสะพัดในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทโดยเน้นผู้ประกอบการการค้า SMEs ในพื้นที่จำนวน 150 กิจการมาออกบูธในงาน
.
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาอย่างเคร่งครัด
.
​นอกจากนั้นภายในงานดังกล่าวยังมีกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ 50 คู่ ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช รวมถึงมีการจัดสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการในหัวข้อ China The Great Wall เจาะธุรกิจ ทะลุกำแพงจีน เพิ่มความรู้บ่มเพาะหลานย่า สู่ตลาดจีน และการประกวดเขียนแผนธุรกิจระดับอุดมศึกษาชิงทุนการศึกษาและโล่เกียรติคุณ ในวันที่ 28-29 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น4 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช โดยหอการค้าฯ ประเมินว่าจะมีเงินสะพัดในระหว่างการจัดงานและต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
.


​ประธานโครงการ สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ กล่าวต่อว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ให้กลับมาฟื้นตัว และกระตุ้นการซื้อขายภายใน หลังประสบเหตุการณ์กราดยิง และสถานการณ์โควิด 19 อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดมีการแจกสินค้านาทีทองทุกวันจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมรายการ และแจกคูปองให้กับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานวันละ 1,000 ใบ ใบละ 40 บาทเพื่อใช้จับจ่ายสินค้าภายในงานทุกวัน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดการร่วมกิจกรรมการแสดงสินค้าได้ที่ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา โทร. 044-296121-3 หรือ คุณหนึ่งนภา 086-4617730 Email: infoncc.or@gmail.com.

จังหวัดนครราชสีมาจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวนานาชาติ 2020 ครั้งที่ 1 International Tourism Festival 2020

เทศกาลท่องเที่ยวนานาชาติ2020 ครั้งที่ 1  International Tourism Festival 2020

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2563   เวลา 18.00 น. ณ ลานปารีส Terminal 21 Korat นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดเทศกาลท่องเที่ยวนานาชาติ2020 ครั้งที่ 1  International Tourism Festival 2020 พร้อมด้วย นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล และคณะ ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มาเป็นผู้กล่าวต้อนรับคณะนักแสดงจาก 10  ประเทศ

การจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวนานาชาติ2020 ครั้งที่ 1 International Tourism Festival 2020   เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวในพื้นที่เพื่อเชื่อมโยงวัฒนธรรมระดับนานาชาติ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา จึงมีแนวความคิดที่จะจัดกิจกรรมเพื่อต้อนรับนักแสดงนานาชาติ และตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว เผยแผ่อารยะธรรมระดับนานาชาติ เพื่อช่วยกระตุ้นจิตสำนึกรัก หวงแหนอารยะธรรมไทย และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เม็ดเงินหมุนเวียนภายในชุมชนสร้างความยั่งยืนให้แก่การท่องเที่ยว

โดยที่ผ่านมา นายกรกฤต วรวงศ์ นายกสมาคมหลักการธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.ททท.จังหวัดนครราชสีมา นายศารุมต์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวนานาชาติ ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา ซึ่งวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ที่ให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และโรงแรมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่เพื่อเชื่อมโยงวัฒนธรรมระดับนานาชาติ ซึ่งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการ ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จึงมีแนวคิดจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว และเผยแผ่วัฒนธรรมระดับนานาชาติ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และจังหวัดนครราชสีมาสำหรับวันงานจะมีการการแสดงโชว์มวยไทย และต่าง ๆ จากผู้ประกอบการในพื้นที่ ร่วมสร้างสีสันให้มีบรรยากาศหลากหลายรูปแบบ โดยใช้ชื่อ งานเทศกาลท่องเที่ยวนานาชาติ 2020 ครั้งที่ 1 ” 1st International Tourism Festival ( ชื่อย่อ ITF )โดยโครงการดังกล่าว จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มกราคม ถึง วันที่ 2 กุมภาพันธุ์ 2563 เวลา 10.00-22.00