“ปลาก้อยมดแดง” ห้วยแถลงโคราช เมนูสุดเด็ดรับเทศกาลกลับบ้านปีใหม่

“ปลาก้อยมดแดง” ห้วยแถลงโคราช เมนูสุดเด็ดรับเทศกาลกลับบ้านปีใหม่

    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เฒ่าผู้แก่บ้านพฤกษ์งาม หมู่ที่ 13 ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา แนะนำเมนูเด็ดไว้รอต้อนรับลูกหลานที่จะเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2562 ที่กำลังจะมาถึง โดยใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้ในชุมชนและมีอยู่กันแทบทุกครัวเรือน เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนกลับมาเยี่ยมถิ่นฐานบ้านเกิดกันทุกๆครอบครัว

นายบุญเลิศ ปินะทาโน อายุ 63 ปี  ตัวแทนผู้เฒ่าผู้แก่บ้านพฤกษ์งาม  บอกว่า  โดยเมนูที่นำเสนอในวันนี้คือ เมนู “ปลาก้อยมดแดง”  ซึ่งเป็นเมนูพื้นบ้านสุดแซ่บของชาวอีสาน  ซึ่งจะใช้ปลาที่หาได้จากธรรมชาติ เลือกเอาปลาที่มีกางแทรกอย่างปลาตะเพียน ปลาไน ปลายี่สก หรือปลานวลจัด คัดเอาตัวเขื่องๆมาขอดเกล็ดแล่เอาแต่เนื้อ  จากนั้นนำมาสับจนแหลก เพื่อให้กางแทรกในตัวปลาถูกสับ เวลากินจะได้ไม่ติดคอ  และมาถึงขั้นตอนสำคัญก็คือการคั้นปลาด้วยมดแดงสด   ซึ่งก็ต้องไปหารังมดแดงขนาดเล็กไม่ใหญ่มาแล้วเขย่าเอาตัวมดแดงมาคั้นกับปลาสับที่เตรียมไว้  เพื่อดับกลิ่นคาวปลา คั้นจนน้ำปลาและมดแดงหมด แล้วจึงนำเครื่องลาบ อาทิ พริกป่น มะนาว น้ำปลา ข้าวคั่ว หอมแดง มาคลุกเคล้าปรุงรสตามชอบ โรยด้วยต้นหอม ผักชี แล้วก็นำมารับประทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ รับรองแซ่ยอย่างบอกใคร

 

ซึ่งใครที่กำลังจะเดินทางกลับไปภูมิลำเนาบ้านเกิดในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นี่เป็นเมนูหนึ่งที่น่าสนใจที่ชาวบ้านตามชนบทยังพอมีให้ลิ้มลอง  แต่หาได้ยากมากในสังคมเมืองปัจจุบัน

>ชมภาพบรรยากาศ<<

 

“ผาสามเกลอ” จุดเช็คอินใหม่โคราช ชมวิวแสงสุดท้ายหน้าหนาว แสนโรแมนติก

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ได้มีการค้นพบจุดชมวิวแห่งใหม่ ซึ่งอยู่บนยอดเขามะค่า เขตรอยต่อระหว่างพื้นที่ตำบลบ้านใหม่และตำบลโคกกระชาย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี  ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันว่าเขาแม่ปลอด หรือ ผาสามเกลอ เนื่องจากบนยอดเขาแห่งนี้สามารถมองเห็นยอดเขาใกล้เคียงกันอีก 2 ยอด ด้านล่างมองเห็นเขื่อนลำแชะและทิวเขาสลับซับซ้อนของอุทยานแห่งชาติทับลานได้อย่างชัดเจน  นอกจากนี้ยังสามารถเห็นวิถีชีวิตการเกษตรและการทำประมง ของชาวบ้านในพื้นที่โดยรอบเขื่อนอีกด้วย  อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา

และจุดแลนมาร์คที่สำคัญของผาแม่ปลอด หรือผาสามเกลอแห่งนี้ ก็คือหน้าผาที่เป็นก้อนหินขนาดใหญ่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปจากตัวผาประมาณ 4 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ใครได้ไปเที่ยวมาแล้วต้องเก็บภาพนี้ไว้เป็นที่ระลึกอย่างแน่นอน ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในการถ่ายภาพและต้องการสัมผัสกับธรรมชาติดิบๆ ไม่ควรพลาด และในยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว อากาศบนยอดเขากำลังเย็นสบายเหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

          นายสมชัย หยุดกระโทก กำนันตำบลโคกกระชาย กล่าวว่า ขณะนี้ทางชุมชนกำลังมีแผนที่จะพัฒนาผาแม่ปลอดหรือผาสามเกลอแห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวในโครงการชุมชนท่องเที่ยวOTOP นวัตวิถีของตำบลโคกกระชายอีก 2 แห่ง คือสะพานไม้ร้อยปี และน้ำตกวังเต่า เพื่อเพิ่มอรรถรถในการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวในพื้นที่อำเภอครบุรี ในอนาคตอันใกล้นี้ แต่หากท่านใดสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงนี้ควรเดินทางด้วยรถกระยะสูง เพราะเส้นทางยังเป็นทางเข้าไร่เข้าสวนของชาวบ้าน อาจจะเป็นหลุมเป็นบ่อมีก้อนหินเป็นช่วงๆ รถเล็กผ่านได้ยาก แต่ก็ถือเป็นความท้าทายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายลุย ที่รับรองว่าจุดหมายคุ้มค่าแก่การเดินทางอย่างแน่นอน

        สำหรับเส้นทางการเดินทาง ต้องเดินทางออกจากตัวเมืองนครราชสีมา โดยใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 224 มุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอครบุรี จากนั้นเดินทางผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางร่วมทางหลวงชนบท 3115 ไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาวิ่งไปบนถนนลูกรังอีกประมาณ 7 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมาย หรือสามารถค้นหาเส้นทางได้ตามแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้แล้ว

ชมภาพ

 

รพ.มหาราช นครราชสีมา เผย พร้อมรับมือปีใหม่ ให้บริการประชาชน

   รพ.มหาราช นครราชสีมา เผย พร้อมรับมือปีใหม่ ให้บริการประชาชน

นายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  เปิดเผยว่า ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๒ นี้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาพร้อมบริการประชาชน กรณีเจ็บป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน ได้จัดทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ยา เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์การแพทย์ ห้องผ่าตัด   และหอผู้ป่วย สำรองโลหิต ศูนย์กู้ชีพ จัดระบบส่งต่อผู้ป่วย โดยทุกระบบงานสามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งในจังหวัดนครราชสีมาและทั่วประเทศ เพื่อให้การบริหารจัดการร่วมกันดูแลรักษาพยาบาลได้รวดเร็วมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ทุกระบบพร้อมบริการต่อเนื่อง ๒๔ ชั่วโมง ติดต่อศูนย์กู้ชีพ โทร.๑๖๖๙ พร้อมนี้ ขอความร่วมมือประชาชนใช้บริการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เฉพาะกรณีอุบัติเหตุและเจ็บป่วยฉุกเฉิน และขอเน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนไม่ก่อกวนการปฏิบัติหน้าที่ของศูนย์สั่งการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ในการโทรแจ้ง ๑๖๖๙ ในเรื่องที่ไม่จริง   ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะทำให้ผู้ป่วยบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจริง เสียโอกาสรอดชีวิตได้ สำหรับกรณีเจ็บป่วยทั่วไป มีบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ที่ชั้น ๑ อาคารผู้ป่วยนอกและอำนวยการ ให้บริการตั้งแต่ เวลา ๘.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมากล่าวว่า เทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๒ มีวันหยุดต่อเนื่อง ๔ วัน คือ   ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๑ – ๑ มกราคม ๒๕๖๒ คาดว่าประชาชนจำนวนมากจะใช้เส้นทางผ่านนครราชสีมาเหมือนทุกปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเตรียมสำรองโลหิตไว้เพียงพอต่อการให้บริการ แต่หากประชาชนประสงค์จะทำบุญบริจาคโลหิต ติดต่อได้ที่     ห้องรับบริจาคโลหิต โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดบริการทุกวัน ไม่พักเที่ยง โทรศัพท์ ๐๔๔-๒๓๕๙๑๕ หรือที่ห้องรับ  บริจาคโลหิต ชั้น ๒ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา เปิดบริการทุกวัน ไม่พักเที่ยง โทรศัพท์ ๐๔๔-๒๓๑๕๕๕   การบริจาคโลหิตได้ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ “ 1 คนให้ ๓ คนรับ” และยังได้ทำบุญด้วย

นายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ กล่าวฝากถึงประชาชนให้ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร จะเดินทางเพื่อกลับภูมิลำเนาหรือไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ผู้ขับขี่รถทุกชนิดต้องเตรียมร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มสุราหรือใช้สารเสพติด มีสติ  ไม่ประมาท ไม่หุนหันใจร้อน ทะเลาะวิวาทต่อกัน หากผู้ขับขี่ง่วงเพลียให้หยุดรถ เพื่อพักผ่อนให้ร่างกายพร้อมที่จุดพักรถ   ที่ปลอดภัยไม่จอดรถนอนริมข้างทาง ตรวจสอบสภาพยานพาหนะก่อนใช้งาน ศึกษาเส้นทางเดินทางให้ดี หากทั้งผู้ใช้รถและ   ผู้ใช้ถนน ประชาชน ร่วมมือกันก็จะมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมากล่าวเสริมว่า สถิติผู้บาดเจ็บที่มารับบริการที่หน่วยบริการอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ระหว่าง  ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๐ ถึง ๓ มกราคม ๒๕๖๑ มี ดังนี้ จำนวนผู้มารับบริการรวมทั้งหมด ๒๑๘๘ ราย จำแนกเป็น  ผู้ป่วยฉุกเฉินทั่วไป ๑๕๒๗ ราย ผู้ป่วยบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ๖๖๑ ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จำแนกเป็น  ๑. ผู้ป่วยอุบัติเหตุขนส่ง รวม ๒๙๐ ราย ส่วนใหญ่เป็นเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ รถปิกอัพ รถเก๋ง รถบรรทุก และรถโดยสาร ตามลำดับ สำหรับผู้ป่วยบาดเจ็บจากอุบัติเหตุขนส่ง ที่เกิดเหตุในอำเภอเมือง มี ๑๐๒ ราย รับไว้รักษา  ๒๕ ราย เสียชีวิต ๑ ราย    ๒. ผู้ป่วยอุบัติเหตุอื่นๆ รวม ๓๗๑ ราย ส่วนใหญ่เป็นเหตุที่เกิดจากทำร้ายตนเองและถูกทำร้าย

สีสันแข่งปลูกมันสำปะหลังที่โคราช

ในงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการการเกษตรและรณรงค์ป้องกันกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่

           ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวีดนครราชีมา  รายงานว่า ภายในกิจกรรมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการการเกษตรและรณรงค์ป้องกันกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่บ้านรุ่งเรือง ต.หนองบุญนาก อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ที่ทางกรมส่งเสริมการเกษตรโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการผลิตมันสำปะหลังให้มีคุณภาพและมีผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น  นอกจากจะจัดให้มีการอบรมให้ความรู้ และนำเทคโนโลยีต่างๆมาถ่ายทอดให้กับเกษตรกรแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่สร้างสีสันให้กับงานในวันนี้ร่วมด้วย

        โดยทางผู้จัดงานได้จัดรถไถนาพ่วง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่ารถอีแต็ก ไปรับนายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้าไปสู่บริเวณสถานที่จัดงานเพื่อทำการเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งมีกิจกรรมการแข่งขันปลูกมันสำปะหลัง เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลเพาะปลูกมันสำปะหลังของชาวบ้านในพื้นที่ โดยมีตัวแทนเกษตรกรจาก 8 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ส่งตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งทุกคนต้องแข่งกันปลูกมันทุกกระบวนการขั้นตอน ตั้งแต่การยกท่อนมันสำปะหลัง สับท่อนมัน และนำท่อนมันไปเสียบตามแปลงที่กำหนดไว้ โดยให้ระยะห่างระหว่างท่อนไม่เกิน 80 เซนติเมตร หากใครทำได้ตามกติกาที่กำหนดและเสร็จเร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ

       ซึ่งผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างก็แข่งขันกันอย่างเต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์ที่ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน สร้างความบันเทิงให้กับงานนี้อย่างมาก  โดยผลการแข่งขัน เป็นตัวแทนเกษตรกรจากอำเภอปักธงชัย เป็นผู้ทำได้ตามกติกาและรวดเร็วที่สุด ได้รับรางวัลเป็นเครื่องพ่นยาและปุ๋ยไป 1 เครื่อง

 

โคราชระดมจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ กำจัดผักตบชวา

โคราชระดมจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ กำจัดผักตบชวา

ที่ผ่านมา จ.นครราชสีมา นำโดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานเกี่ยวข้อง นำจิตอาสาจากชุมชน ประชาชนกว่า 2000 คน สวมเสื้อเหลืองเปิดกิจกรรมระดมจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ รณรงค์ “คน รัก คลอง”… “ไม่ทิ้ง ไม่เท ทุ่มทำความดี” ลงปฏิบัติงานรอบบึงหนองมโนรมย์ เนื้อที่กว่า 1000 ไร่ ต.ทองหลาง อ.จักราช เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ อุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสืบสานพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญกับลำน้ำ ลำคลอง และเป็นการพัฒนาคลองเพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนที่อยู่ริมคลอง

ได้นำจิตอาสาจากชุมชน และ ประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดเก็บขยะมูลฝอย ผักตบชวาและวัชพืช โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสืบสานพระราชดำริของสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนเพื่อสร้างการตระหนักรู้และจิตสำนึกในการดูแล รักษา พัฒนาคลอง เพื่อสุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่ดีแก่ชุมชน.

ชมคลิปเพิ่มเติม

โคราชยอดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.43 เร่งประชาสัมพันธ์บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

โคราชยอดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.43  เร่งประชาสัมพันธ์บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ หวังช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

นครราชสีมา –  ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครราชสีมา นางไพวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ได้เป็นประธาน ในกิจกรรมคาราวาน ประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ภายใต้แนวคิด ให้..เพื่อชีวิตที่ดีกว่า และรณรงค์การบริจาคประชาสัมพันธ์การจ่ายเบี้ยใน 4 ภาค พร้อมทั้งมอบเหรียญเชิดชูเกียรติบัตรแก่ผู้สูงอายุที่บริจาคเบี้ยเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยมีนางปิยฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับในครั้งนี้

            นางไพวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เพื่อนำมาจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่งผลให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพิ่มขึ้นในการดำรงชีพ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งความจำนงบริจาคเบี้ย เข้ากองทุนจำนวน 799 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,952,998,889.44 บาท

            ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 2,641,715 คนเป็นผู้สูงอายุ 441,028 คน คิดเป็นร้อยละ 16.69 ของประชากรทั้งหมด โดยในปี 2561 มีผู้สูงอายุขึ้นทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ จำนวน 347,368 คน คิดเป็นเงิน2,763,382,800 บาท และในปี 2562 มีผู้สูงอายุขึ้นทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ จำนวน 387,089 คน คิดเป็นเงิน 3,123,859,200 บาท คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 11.43 จากสถิตดังกล่าวพบว่า มีผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากผู้สูงอายุท่านใดสนใจจะบริจาคเบี้ยยังชีพเข้ากองทุนสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 023546100 หรือสายด่วน 1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง

ชมภาพ

 

กลุ่มรถซิ่งคนทำงานเมืองย่า ระดมคนช่วยบูรณะวัดห่างไกล

น่าชื่นชมกลุ่มรถซิ่งคนทำงานเมืองย่า ระดมคนช่วยบูรณะวัดห่างไกล

ที่วัดป่าหนองใหญ่ ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กลุ่มรถซิ่ง คนทำงานเมืองย่า นำคาราวานรถยนต์เกือบ 40 คัน พร้อมสมาชิกกว่า 50 ชีวิต จิตอาสาทำความดีเพื่อสังคม เดินทางไปร่วมทำกิจกรรมทำความสะอาดและบูรณะสิ่งปลูกสร้างภายในวัดร่วมกับกลุ่มจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจอำเภอครบุรี

เพื่อเป็นการร่วมทำนุบำรุงพระศาสนา และใช้เวลาว่างช่วงวันหยุดให้เกิดประโยชน์แก่สังคม ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในหลวงรัชกาลที่ 10

โดยนายรินทร์ เงางาม อายุ 41 ปี ประธานกลุ่มรถซิ่ง คนทำงาน เมืองย่า กล่าวว่า ทางกลุ่มได้มีการรวมตัวกันขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะร่วมกันใช้เวลาว่างจากการทำงาน เพื่อร่วมกันออกทำประโยชน์ให้กับสังคม ทั้งในส่วนของชุมชน วัด หรือโรงเรียนที่ยังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันได้รับความร่วมแรงร่วมใจด้วยดีจากสมาชิกทั้งที่ทำงานอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ที่ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมกันมาแล้วหลายครั้ง  และทางกลุ่มยังคงจะเดินหน้าทำความดีเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายจุดที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้

ชมภาพเพิ่มเติม

 

นายอำเภอครบุรีร่วมกับทุกหน่วยงานกำหนดมาตรการจัดคิวอ้อยส่งโรงงาน แก้ปัญหารถอ้อยจอดติดคิวกินเลนถนน

นายอำเภอครบุรีร่วมกับทุกหน่วยงานกำหนดมาตรการจัดคิวอ้อยส่งโรงงาน แก้ปัญหารถอ้อยจอดติดคิวกินเลนถนน

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.61ที่ผ่านมา   ที่บริษัทน้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี เชิญประชุมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อย หรือฤดูกาลเปิดหีบอ้อย ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.61 ที่ผ่านมาและจะสิ้นสุดในช่วงต้นเดือนเมษายน 2562  หลังจากที่สถานการณ์ปีที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับรถบรรทุกผลผลิตอ้อยในพื้นที่อำเภอครบุรี  อีกทั้งในช่วงนี้ยังใกล้ที่จะถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งจะมีประชาชนใช้เส้นทางสัญจรหนาแน่นกว่าปกติ  โดยมีทางตัวแทนบริษัทน้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอครบุรี  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ครบุรี กำลังทหารกองร้อยรักษาความสงบเคลื่อนที่เร็วกองทัพภาคที่ 2 สมาคมชาวไร่อ้อยลำมูลบน และผู้นำชุมชนในพื้นที่ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี เปิดเผยภายว่า สถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนจากการสัญจรของรถบรรทุกอ้อยบ่อยครั้ง ในห้วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวของปีที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงร่วมมือกันออกมาตรการมาแก้ไขปัญหานี้หลายด้าน อาทิการจัดระบบคิวในการเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกรแต่ละราย เพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณรถบรรทุกที่จะเดินทางนำผลผลิตมาส่งโรงงานได้ตามที่โรงงานจะรองรับได้ โดยไม่ต้องให้รถบรรทุกออกไปจอดตามไหล่ทาง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมีสถานที่ที่สามารถรองรับได้วันละประมาณ 1,900 คัน ประกอบกับการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่างๆที่พร้อมจะเข้ามาบูรณาการร่วมกันทันทีที่เกิดมีปัญหารถอ้อยติดคิวและส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรที่อาจจะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ  รวมถึงการประกาศห้ามให้รถบรรทุกอ้อยใช้เส้นทางผ่านเขตชุมชนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการจราจร  ซึ่งก็มีการดำเนินการมาแล้วตั้งแต่เริ่มฤดูกาลเปิดหีบ มาจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบมีปัญหารถอ้อยติดคิวยาวจนต้องไปจอดริมถนนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด ซึ่งก็คาดหวังว่าอุบัติเหตุจากส่วนนี้คงจะไม่มีเกิดขึ้นตลอดห้วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต

ทางด้านนายไพศาล ไชยานันท์ ผู้อำนวยการโรงงานไฟฟ้า ตัวแทนกลุ่มบริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดการณ์ว่าผลผลิตอ้อยจะมีปริมาณใกล้เคียงกับฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งประเมินว่าจะมีผลผลิตอ้อยเข้าสู่โรงงานผลิต ประมาณ 3.7 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมาที่มีผลผลิตเข้าสู่โรงงานประมาณ 3.9 ล้านตัน โดยปีที่ผ่านมาเนื่องจากปริมาณอ้อยมีจำนวนมากจึงทำให้เกิดปัญหามีรถบรรทุกอ้อยติดคิวส่งผลกระทบต่อการจราจร จึงได้กำหนดมาตรการจัดคิวในการเก็บเกี่ยวและนำส่งผลผลิตให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งเตรียมลานจอดรถ เพื่อรองรับปริมาณรถไว้อย่างเพียงพอต่อรอบคิวที่วางไว้ ซึ่งที่ผ่านมาก็สำเร็จไปได้ด้วยดีและคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาตลอดทั้งฤดูกาล

ชมภาพ

ลมหนาวมาวังน้ำเขียวโคราชบูมนักท่องเที่ยวแห่ชมธรรมชาติ ผารักษ์สลัดได ผาเก็บตะวัน สวนดอกไม้คึกคักทั้งวัน

ลมหนาวมาวังน้ำเขียวโคราชบูมนักท่องเที่ยวแห่ชมธรรมชาติ ผารักษ์สลัดได ผาเก็บตะวัน สวนดอกไม้คึกคักทั้งวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่อากาศเริ่มเย็น พบว่าบรรยากาศในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เริ่มคึกคัก ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดเข้าเที่ยวชมจำนวนมาก

โดยที่บริเวณผารักษ์สลัดได จุดชุมวิวที่สูงที่สุด ใน อ.วังน้ำเขียว พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปยืนชมวิวถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ถึงบริเวณดังกล่าวถึงแม้จะไม่ได้มีสถานที่จำหน่ายอาหารหรือร้านค้าขายของฝากแต่ด้วยที่เป็นจุดชมวิวที่สวยงามพบว่ามีประชาชนเดินทางขึ้นไปชมวิวถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไม่ขาดสาย

ขณะเดียวกันที่บริเวณผาเก็บตะวัน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม พบว่า มีประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวกันตลอดทั้งวัน เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นอีกจุดเช็คอินที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาวังน้ำเขียวแล้วจะไม่พลาดที่จะเดินทางมาเช็คอินในสถานที่แห่งนี้จึงทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตลอดทั้งวันที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ผลจากที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าวังน้ำเขียวเยอะขึ้น ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่จัดสวนดอกไม้ถามเส้นทางหลักในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น มีนักท่องเที่ยวแวะชมสวนถ่ายภาพที่ระลึกบันทึกความทรงจำกันเป็นจำนวนมากทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน คาดวาจากนี้ไปจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปวังนำเขียวมากขึ้นเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงไฮท์ซีชั่น จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาขึ้นในช่วงวันหยุด จึงขอฝากถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาวังน้ำเขียว ควรประสานหาที่พักล่วงหน้าเพราะหาจองล่าช้าอาจะไม่ได้ที่พักที่ถูกใจตามที่ต้องการได้.

ชมภาพบรรยากาศ

 

โคราช…สำรวจแก่งวังไทร เชื่อมท่องเที่ยวนวัตวิถี พากินปลาต้นน้ำมูล

สำรวจแก่งวังไทร เชื่อมท่องเที่ยวนวัตวิถี พากินปลาต้นน้ำมูล เมนูพิเศษรสเด็ด “ปลาหลาม”

 

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา  รายงานว่า นายจำเนียน ดายครบุรี ผู้ใหญ่บ้านใหม่จอมทอง ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ออกสำรวจลำมูลซึ่งอยู่ท้ายชุมชนบ้านใหม่จอมทอง – ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนมูลบน เพื่อเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แห่งใหม่ของอำเภอครบุรี และจังหวัดนครราชสีมา  โดยจากการสำรวจในเบื้องต้นระยะทางห่างจากชุมชนประมาณ 3 – 5 กิโลเมตร ภายในลำน้ำมีแก่งหินที่น้ำไหลผ่านก้อนหินตกเป็นชั้นๆกระจายอยู่หลายจุด ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจที่ชาวบ้านเรียกกันว่าแก่งวังไทร ที่มีน้ำใสไหลผ่านชั้นหินกลายเป็นน้ำตกขนาดย่อม สวยงามและร่มรื่นเนื่องจากแวดล้อมด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างมาก

 

นอกจากแก่งวังไทรแล้ว ภายในลำมูล ยังมีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของพันธุ์ปลาน้ำจืดนานาชนิด ที่ชาวบ้านจะยังคงประกอบวิถีชีวิตพื้นบ้านด้วยการจับปลาไปประกอบอาหารและสร้างรายได้เสริม ซึ่งทางคณะสำรวจได้ทำการจำลองวิถีชีวิตชาวบ้านด้วยการตกปลา ทอดแห ซึ่งก็ได้ปลาธรรมชาติขึ้นมาหลากหลายชนิด อาทิ ปลากด ปลาน้ำพอง ปลาตะเพียน ปลาตะโกก ปลาคลั่ง เป็นต้น  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งต้นน้ำได้เป็นอย่างดี

และในวันนี้ทางคณะสำรวจมีเมนูพิเศษจากการเดินทางมาฝาก คือ เมนู “ปลาหลาม” ซึ่งเป็นการต้มปลาด้วยกระบอกไม้ไผ่ จำลองวิถีชีวิตชาวบ้านที่ใช้ไม้ไผ่มาเป็นภาชนะในการประกอบอาหาร เนื่องจากเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในพื้นที่และไม่ต้องขนข้าวของจำนวนมากในการเดินทางไปหาปลาห่างจากแหล่งชุมชน

ซึ่งวิธีการเตรียมการหลังจากจับปลาได้ สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือการตัดเอากระบอกไม้ไผ่อ่อน ซึ่งมีขนาดประมาณลำแข้ง มาเจาะกระบอกเพื่อใส่น้ำ เตรียมเครื่องปรุงอาทิ พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด มะขามเปียก ใส่ลงไป ตั้งบนกองไฟให้น้ำเดือด จากนั้นใส่ปลา ลงไปต้มให้สุกแล้วปรุงรสจนได้ที่ ก็สามารถนำมารับประทานได้คล้ายกับการต้มปลาแบบปกติ แต่จะได้กลิ่นหอมของกระบอกไม้ไผ่อ่อนๆ ให้รสชาติดีกว่าการต้มปลาทั่วไป  ยิ่งหากได้ปลากด หรือปลาน้ำพอง ซึ่งเป็นปลาเนื้ออ่อนแล้วจะให้รสชาติดียิ่งขึ้นไปอีก  นอกจากนี้ก็ยังมีปลาย่างไม้ไผ่ เป็นที่ย่างกันสดๆมาเป็นเครื่องเคียงกินกับปลาปลามแทนข้าวด้วย

โดยหลังจากนี้ทางคณะสำรวจจะนำข้อมูลที่ได้ไปเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันพิจารณาและประสานงานหน่วยงานต่างๆ ให้มาผลักดันลำมูลให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และเชิงอนุรักษ์  เพื่อเชื่อมต่อโครงการท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ของอำเภอครบุรีต่อไป