จิตอาสาฯนำผ้าห่มกันหนาวมอบอาสาสมัครป้องกันไฟป่า หลังอากาศเย็นลงต่อเนื่อง

         

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีควบคุมไฟป่าบ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 16 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายนพชัย กลิ่นสูงเนิน หัวหน้าหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา รับมอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 100 ผืน จากประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจอำเภอครบุรี ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ รวมถึงกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยเคลื่อนที่เร็วกองทัพภาคที่ 2 ก่อนที่จะนำไปแจกจ่ายให้กับกำลังอาสาสมัครเครือข่ายควบคุมไฟป่าในพื้นที่อำเภอครบุรี เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่า เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็น และพื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟป่าในพื้นที่อำเภอครบุรีส่วนใหญ่ จะอยู่บนภูเขาสูงชัน ห่างไกลจากชุมชนเมือง ผ้าห่มกันหนาวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทางเครือข่ายรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจำเป็นต้องใช้และยังขาดแคลนอยู่

          สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นจังหวัดนครราชสีมา เริ่มเกิดปัญหาขึ้นแล้วในบางพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดขึ้นเป็นประจำ อาทิในพื้นที่ป่าหนองเต็ง ป่าจักราช อ.เฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่อำเภอครบุรี ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าก็ได้มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่าเพิ่มเติมขึ้น โดยใช้งบประมาณจากทางกรมป่าไม้มาดำเนินการเพื่อให้เป็นส่วนร่วมในการจัดการปัญหา  สำหรับในปีนี้มีการเพิ่มเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่อำเภอครบุรีเพิ่มเติมจาก 2 เครือข่าย เป็น 6 เครือข่ายแล้ว

           โดยสาเหตุของการเกิดไฟป่าส่วนใหญ่ เกิดจากการจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ และหาของป่า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของไทยถูกทำลายอย่างมาก รวมถึงเป็นสาเหตุสำคัญในเกิดปัญหาหมอกควันสร้างมลพิษ

>ชมคลิป<<

ผู้นำ 10 ตำบล หวาดระแวงหลังมีชายอ้างตัวเป็นทหารเข้ามาข่มขู่พื้นที่ ด้านว่าที่ผู้สมัคร ยื่นหนังสือให้กองทัพภาคที่ 2 ให้ช่วยตรวจสอบพร้อมนำตัวมาลงโทษ

ผู้นำ 10 ตำบล หวาดระแวงหลังมีชายอ้างตัวเป็นทหารเข้ามาข่มขู่พื้นที่ ด้านว่าที่ผู้สมัคร ยื่นหนังสือให้กองทัพภาคที่ 2 ให้ช่วยตรวจสอบพร้อมนำตัวมาลงโทษ

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 22 มกราคม 62 นายอภิชา เลิศพชรกมล ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขต 9 จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยทีมงาน ได้เข้ายื่นหนังสือให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานความมั่นคง ศปม.กอ.รมน.ภาค 2 ค่ายสุรนารี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และยื่นหนังสือต่อให้กับเจ้าหน้าที่ กองบัญชาการกองพลพัฒนาที่ 2 ให้ช่วยตรวจสอบ หลังจากมีเจ้าหน้าที่อ้างตัวเป็นทหาร จำนวน 2 คน และพลเรือน 1 คนเข้าไปพูดจาข่มขู่ ผู้นำหมู่บ้านจำนวน 10 ตำบลในพื้นที่อำเภอโชคชัย

นายอภิชา เลิศพชรกมล ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขต 9 จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 62 เป็นต้นมา ได้มีชายอ้างตัวเป็นทหาร ไม่ทราบสังกัดที่ชัดเจน ได้เข้าพื้นที่อำเภอโชคชัย โดยใช้โตโยต้า รถฟอร์จูเนอร์ สีดำ สลับกับ รถโตโยต้า วีโก้ สีบร์อน โดยใช้ทะเบียนปลอมเข้ามาในพื้นที่ และตระเวรเข้าพบผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อดีตนายก อบต.พร้อมอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารจากส่วนกลางเข้ามาสังเกตการณ์ โดยไม่มีการแต่งเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ทหารแต่อย่างใด เพียงแต่ใส่หมวกที่มีตราสัญลักษณ์ทหาร ป้ายแหวนคอกองทัพบก และได้เข้ามาพูดคุยสอบถามเรื่องการเมือง และให้วางตัวเป็นกลาง อย่าไปเข้าข้างใคร ก่อนจะกลับยังบอกอีกว่า อย่าลืมเลือกพรรคฝั่งรัฐบาล จึงเกิดการสับสนและหวาดกลัว ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารจริงหรือไม่ แต่ทางผู้นำก็ได้มีการถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐาน

อย่างไรก็ตาม ฝากถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ให้ช่วยสอดส่องดูแลเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งตนเชื่อว่าบุคคลที่อ้างว่าเป็นทหารทั้ง 2 นายและพลเรือนอีก 1 นายนั้น น่าจะออกมารับจ้างส่วนตัวไม่เกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐแต่มาแอบอ้างว่ามาจากหน่วยงานของรัฐโดยรับจ้างมาจากผู้สมัครรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองในพื้นที่ ที่นิยมใช้รูปแบบการหาเสียงเช่นนี้อยู่บ่อยๆเพื่อความสุจริต ยุติธรรม และลดความสับสนหวาดกลัวอยากให้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าตรวจสอบเอาบุคคลที่มาแอบอ้างมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว

>ชมคลิป<<

    สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา  จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  เรื่องปฏิบัติการ  เรื่อง การทบทวนและจัดทำแผนพัฒนากำลังคน ระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 

     สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา  จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  เรื่องปฏิบัติการ  เรื่อง การทบทวนและจัดทำแผนพัฒนากำลังคน ระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 

ที่ห้องห้องทวีทรัพย์ ชั้น 2 โรงแรมโคราชโฮเต็ล ต.ในเมือง  อ.เมือง  จ.นครราชสีมา  ว่าที่ร้อยตรีนิรันดร์  ดุจจานุทัศน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  เรื่อง การทบทวนและตัดทำแผนพัฒนากำลังคน ระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  ประจำปีงบประมาณ 2562  จัดโดย สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ ความเข้าใจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกี่ยวกับการจัดการทำแผนการพัฒนากำลังคน จังหวัดนครราชสีมา  ซึ่งต้องใช้ระบบเชื่อมโยงข้อมูล ข้อมูลที่มีความทันสมัยเป็นปัจจุบัน  ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อพัฒนากำลังคนของจังหวัด       และ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนากำลังคนระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และให้ผู้เข้าร่วมการสัมมนาร่วมทบทวนแผนพัฒนากำลังคน ร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนากำลังคนของจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562

ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย  คณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.)  คณะทำงานบูรณาการและส่งเสริมเครือข่ายเพื่อจัดทำแผนพัฒนากำลังแรงงานในจังหวัดนครราชสีมา  คณะทำงานจัดทำแผนพัฒนากำลังคนประจำจังหวัดนครราชสีมา รายภาคอุตสาหกรรมทั้ง 3 คณะภายใต้ กพร.ปจ. ผู้แทนสถานประกอบกิจการเครือข่ายการพัฒนาฝีมือแรงงานแยกรายกลุ่มอุตสาหกรรม 3 กลุ่ม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นเจ้าหน้าที่ บุคลากร       ที่รับผิดชอบจัดทำแผนงานด้านการพัฒนากำลังคน รวมทั้งสิ้น  40  คน

การสัมมนาในครั้งนี้มีระยะเวลา 1 วัน ช่วงเช้าเป็นการบรรยายโดย  ดร.ธีรยุทธ เกียรติพิริยะวงศ์ ที่ปรึกษาด้านการจัดแผนพัฒนากำลังคนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  และในช่วงบ่ายเป็นการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำแผน ปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินงานของหน่วยปฏิบัติในพื้นที่จากผู้เข้าร่วมสัมมนา

 

 

มหากาพย์…โจรขโมยข้าวเปลือก 102 กระสอบ ด้านผู้การโคราชเร่งจับตัวคนร้าย คาด!!คนในพื้นที่

ชาวนาโคราช น้ำตาตกใน โดนโจรชั่วขโมยข้าวเปลือก 102 กระสอบมูลค่าแสนกว่า ลอยนวล

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางมัลลิกา ทำเสร็จ อายุ 57 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 1 บ้านหนองม่วง ตำบลงิ้ว อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้ก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ซึ่งห่างจากบ้านพักเพียง 10 เมตรไปจำนวน 102 กระสอบ มูลค่ากว่า 1 แสนกว่าบาท สร้างความเดือนร้อนเป็นอย่าง โดยมีประชาชนเดินทางเข้ามาดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบพบเพียงเศษข้าวเปลือกตกอยู่กระจัดกระจาย อยู่ภายในยุ้งฉาง โดยมีการปิดเหมือนเดิมจนทำให้เจ้าของไม่ได้สั่งเกตุและรู้ว่าหายในเวลาต่อมา

นางมัลลิกา ทำเสร็จ เจ้าของข้าว เล่าทั้งน้ำตาว่า ปีนี้ประสบปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าวลดลงได้เพียง 102 กระสอบ และเก็บไว้ในยุ้งข้าวเพื่อรอราคา และนำไปขาย เพื่อใช้หนี้ ธกส.ส่วนหนึ่งเก็บไว้บริโภคและทำพันธุ์ในฤดูกาลต่อไป แต่กลับมาถูกคนร้ายลักขโมยซ้ำเติมอีก ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกในยุ้งช่วงกลางดึก เนื่องจากว่ามีพี่สาวเฝ้าบ้านเพียงคนเดียว ส่วนตนและครอบครัวได้ไปทำงานอยู่ในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตนได้เปิดดูข้าวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 61 ก็ยังพบเห็นเต็มยุ้งฉางอยู่ หลังจากนั้นมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 2 มกราคม 62 ปรากฏว่า ข้าวทั้งหมดได้หายไป จึงได้เข้าแจ้งความไว้กับตำรวจ สภ.ห้วยแถลง แต่เรื่องคดีก็เงียบหายไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในบ้านตนเอง

อย่างไรก็ตาม ฝากถึงคนร้ายให้เห็นใจสงสารนำข้าวเปลือกกลับมาคืนก็จะไม่ติดใจเอาเรื่องหรือหาเงินมาใช้หนี แต่หากไม่นำมาคืนก็อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ไม่ใช่ปล่อยเงียบแบบนี้

คืบหน้าตำรวจโคราช จับโจรขโมยข้าว 102 กระสอบไม่ได้นานนับเดือน ผู้ใหญ่บ้านเกรงเหตุซ้ำประกาศเสียงตามสายจัดเวรยามเฝ้าระวังเหตุซ้ำในพื้นที่

จากกรณีนางมัลลิกา ทำเสร็จ อายุ 57 ปี เจ้าของข้าว ได้ร้องผ่านสื่อว่า ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ซึ่งห่างจากบ้านพักเพียง 10 เมตรไปจำนวน 102 กระสอบ มูลค่ากว่า 1 แสนกว่าบาท สร้างความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก เพราะต้องนำไปใช้หนี้ ธกส นอกจากนี้ยังส่งผลให้ชาวบ้านอยู่แบบหวาดระแวงกลัวคนเข้าจะเข้ามาในพื้นที่อีกครั้งเพราะยังจับคนร้ายไม่ได้

ด้านนายบุญเลิศ อรบุตร อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วงใหญ่ เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุมีโจรเข้ามาพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านหนองม่วง ตำบลงิ้ว อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา และได้มีขโมยข้าวเปลือกไป 102 กระสอบ มูลค่า 1 แสนกว่าบาทนั้น ตนได้ช่วยเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทางทหาร ฝ่ายปกครอง ในการสืบหาคนร้ายและช่องทางที่คนร้ายจะหลบหนี รวมไปถึงสอบถามประชาชนว่ามีการพบเห็นการขนข้าวเปลือกจำนวนมากออกนอกพื้นที่หรือไม่ โดยส่วนใหญ่ไม่มีการพบเห็นดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมีการทยอยขนในช่วงกลางดึก คาดว่าน่าจะมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน และไม่น่าจะขนเพียงแค่คืนเดียว เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน อยู่เพียงพี่สาว นอกจากนี้น่าจะมีคนในหมู่บ้านเป็นสายให้ และให้คนนอกหมู่บ้านมาขนข้าวออกจากยุ้งฉางข้าวเพื่อนำไปขายให้กับโรงสีในพื้นที่ข้างเคียงหรือนอกพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ตนได้ประกาศตามเสียงตามสาย ให้ลูกบ้านที่มีข้าวอยู่ในยุ้งฉางภายในบ้านตนเอง ให้เฝ้าระวังคนนอกพื้นที่ ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพย์สินตนเอง เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ส่วนตนได้ประสานลูกบ้านผู้ชายให้สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกตรวจตราภายในหมู่บ้านเพื่อเป็นการป้องกันเหตุซ้ำอีกครั้ง

ผู้การโคราช ระดมตำรวจตามล่าตัวคนร้ายขโมยข้าวเปลือก 102 ถุง สั่งตรวจกล้อวงจรปิดทุกจุด พร้อมสอบพยานไปแล้ว 7 ปาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนางมัลลิกา ทำเสร็จ อายุ 57 ปี เจ้าของข้าว อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 1 บ้านหนองม่วง ตำบลงิ้ว อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้ร้องผ่านสื่อช่อง 8 ว่า ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ซึ่งห่างจากบ้านพักเพียง 10 เมตรไปจำนวน 102 ถุงนั้นและยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้นั้น

ด้าน พลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งทางตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพยานที่เกี่ยวข้องและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งส่วนบุคคลที่กระทำความผิดยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เจ้าหน้าที่กำลังติดตามและไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมทั้งได้มีการเน้นย้ำให้ผู้กำกับการ สภ.ห้วยแถลง เร่งดำเนินการคดีนี้อย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งส่งชุดสืบสวนสอบสวน ลงไปในพื้นที่เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งขนาดนี้ได้สอบปากคำชาวบ้านไปแล้ว 7 ปาก เนื่องจากว่าข้าวที่หายจำนวน 102 ถุง เป็นของผู้เสียหายที่ได้ฝากพี่สาวเอาไว้ ส่วนตัวเจ้าของข้าวไม่ได้อยู่ประจำพื้นที่ ซึ่งตนคิดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในละแวกดังกล่าว อีกทั้งบ้านผู้เสียหายก็ติดกับบ้านหลังอื่นๆไม่ได้อยู่หลังเดียว เพราะเวลาใครเข้าออกต้องมีคนเห็น โดยเฉพาะคนต่างพื้นที่ ในส่วนของกล้องวงจรปิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดูทุกตัวที่คิดว่าคนร้ายจะใช้เส้นทางดังกล่าวผ่าน

อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บ้านจะต้องช่วยในการสอดส่องดูแลลูกบ้าน เพราะจะรู้ดีว่าใครเข้าออกในหมู่บ้าน หากพบผิดสั่งเกตุให้ถ่ายรูป ไว้ก่อนเพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง เพราะมีประโยชน์มาก ซึ่งขนาดนี้ตนได้มีการสั่งการให้ตำรวจทุกโรงพัก ให้เฝ้าระวังเหตุการณ์จะเกิดขึ้นซ้ำรอย โดยเฉพาะรถเกี่ยวข้าวในเวลากลางคืน เพื่อเป็นการป้องปราม เพราะเคยมีข่าวลักลอบเกี่ยวข้าวของชาวบ้านเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ฝากถึงประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านหากใครมีข้อมูลให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ต้องกลัวและจะเก็บไว้เป็นความลับ เพราะเป็นประโยชน์ในรูปคดีอย่างมาก

>>ชมคลิปและอ่านข่าวเพิ่มเติม<<

ชาวบ้านเร่งถอนมันหนีช้างป่าทับลาน ขณะที่อุทยานเตรียมขุดคูกันช้างออกจากป่า 10 กิโลเมตร

ชาวบ้านเร่งถอนมันหนีช้างป่าทับลาน ด้านนายอำเภอสั่งจัดเวรยามลาดตระเวน ขณะที่อุทยานเตรียมขุดคูกันช้างออกจากป่า 10 กิโลเมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย อำพันกาญจน์ นายอำเภอเสิงสาง พร้อมด้วย  นายประวิทย์    แสงสกุล หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลาน และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านราษฎร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากกรณีช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน ออกมาทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านที่อยู่ติดกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ในท้องที่ตำบลบ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา จนได้รับความเสียหายต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายวันในห้วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา

เบื้องต้นพบว่ามีไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านถูกช้างป่าบุกเข้าไปเหยียบย่ำผลผลิตได้รับความเสียหายจำนวน 3 แปลง รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 6 ไร่ ในจำนวนนี้มีเกษตรกรบางรายต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนกำหนด เพราะเกรงว่าจะถูกช้างป่าเหยียบย่ำทำลายจนไม่ได้เก็บเกี่ยว ถึงแม้ว่าจะต้องขาดทุนไปบ้างก็ตาม

นายสมชาย อำพันกาญจน์ นายอำเภอเสิงสาง กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับช้างป่าออกมาทำลายผลผลิตของชาวบ้านในช่วงนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะอยู่ติดกับแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งก็เป็นปัญหาต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานประสานกำลังร่วมกับทางผู้นำชุมชน กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ช้างป่าอำเภอเสิงสาง และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันออกลาดตระเวนและผลักดันช้างกลับสู่ป่า เพื่อไม่ให้ผลผลิตของชาวบ้านเสียหายน้อยที่สุด ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น ขณะนี้ทางเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 4 (ลำปลายมาศ) ประสานมาว่าในปีงบประมาณ2562 นี้ จะมีการขุดคูป้องกันช้างตามแนวเขตอุทยานแห่งชาติระยะทาง 10 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างออกมาจากแนวเขตและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่แล้ว

ชมภาพเพิ่มเติม

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดอบรมพัฒนาทักษะการใช้ Application เพื่อดันนวัตกรรมสู่อนาคต

สพร 5 นครราชสีมา ขับเคลื่อน 3 A พัฒนาทักษะแรงงาน การใช้ Application เพื่อเขียนโปรแกรมบนโทรศัพท์มือถือ ผลักดันนวัตกรรมสู่อนาคต

นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา (สพร.5นครราชสีมา) เปิดเผยว่า สพร.5 นครราชสีมา ขานรับนโยบาย 3A กระทรวงแรงงาน ซึ่งมีภารกิจหลักด้านการพัฒนาทักษะให้กับแรงงานในพื้นที่ให้เป็นแรงงานคุณภาพ (Super Worker) เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะในปัจจุบันประชาชนใช้โทรศัพท์มือถือในการติดต่อสื่อสาร และทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านมือถือแทบทุกคน จึงมีการจัดฝึกอบรมให้กับแรงงานทั่วไปที่สนใจในสาขาการพัฒนา App บนแอนดรอยด์ด้วยโปรแกรม MIT App Inventor2 ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา โดยรุ่นที่ 1 ดำเนินการแล้วระหว่างวันที่ 14-18 มกราคม 2562 มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 17 คน

นายสุเมธ กล่าวต่อไปว่า หลักสูตรดังกล่าวเป็นการสร้าง Application บน อุปกรณ์ Smart Phone (Android) ด้วยโปรแกรม Mit Inventor 2 ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำ Application ไปสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการพัฒนาสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ ซึ่งโปรแกรม App Inventor ช่วยให้สามารถพัฒนางานต่อที่เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ เพียงแค่ได้มีการเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตไว้เท่านั้น แบ่งการทำงานออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนออกแบบ ส่วนที่สองเป็นส่วนการเขียนโค้ด การเขียนโปรแกรมจะเสมือนการต่อชิ้นส่วนตัวต่อจิ๊กซอว์เข้าด้วยกัน ในแต่ละขั้นตอนการสร้างจะสามารถทำการทดสอบได้ทุกขณะ และเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วจะสามารถแพ็คเกจแอพพลิเคชันเพื่อนำไปใช้งานบนโทรศัพท์ระบบปฏิบัติการ Android เครื่องใดก็ได้

ในปี 2562 สพร.5 นครราชสีมา มีเป้าหมายพัฒนาทักษะให้กับแรงงานในพื้นที่กว่า 2,000 คน ทั้งแรงงานในระบบและแรงงานนอกระบบ รวมถึงการพัฒนาด้านไฮเทคโนโลยีด้วย ในส่วนนี้มีเป้าหมาย 600 คน นอกจากหลักสูตรดังกล่าวแล้ว ยังมีแผนเปิดฝึกอีกหลายสาขา เช่น การเขียนแบบพัฒนาระบบสมองกลฝักตัว (PIC) ในหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม การเขียนแบบเครื่องกลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การประยุกต์ใช้ PLC ในงานอุตสาหกรรม การเขียนแบบ 2D ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และ การตลาดออนไลน์ด้วยโมบายแอพพลิเคชั่น เป็นต้น ผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ https://goo.gl/forms/8TsNwguuQaMgrkJF3 หรือสแกนคิวอาร์โค๊ดเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม http://line.me/ti/g/dPVKvzIGCp

อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/prg/2943315

โคราชพลิกไร่มันเป็นจุดเช็คอินสุดฟิน สัมผัสกลิ่นไอวิถีชาวบ้านใกล้ชิดธรรมชาติ

ท่องเที่ยวนวัตวิถีโคราชบูมต่อเนื่อง โคราชพลิกไร่มันเป็นจุดเช็คอินสุดฟิน สัมผัสกลิ่นไอวิถีชาวบ้านใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง อย่างเช่นที่บ้านหนองผักไร หมู่ที่ 2 ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ชุมชนของอำเภอครบุรี ที่ได้รับงบประมาณจากโครงการนี้มาดำเนินการขับเคลื่อน ล่าสุดได้พลิกพื้นที่การเกษตรเชิงเดี่ยว ซึ่งเดิมทีมีเพียงการเพาะปลูกมันสำปะหลังเพื่อส่งขายให้แก่โรงงานต่างๆ เพื่อเลี้ยงครอบครัวในชุมชน

โดยหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จำนวนกว่า 1.7 ล้านบาท ทำให้ชาวบ้านเริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาปลูกพืชชนิดอื่น อาทิ ดอกดาวเรือง กะหล่ำปลี มะเขือเทศ และมะระ  ซึ่งเป็นพืชที่มีสีสันความสวยงามและสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการปลูกมันสำปะหลัง พร้อมทั้งจัดทำจุดชมวิวและโฮมสเตย์  ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ในภาพของแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถีชุมชนชนบท ที่สามารถดึงเอาสิ่งที่สามารถหาได้ในท้องถิ่นมาเป็นจุดขาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนอย่างนี้ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งขณะนี้หมู่บ้านหนองผักไร เริ่มกลายเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่นิยมชมชอบกับเสน่ห์วิถีชีวิตชุมชน ต่างพากันเดินทางไปเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย เพราะนอกจากจะมีความสวยงามจากสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นหอคอยไม้ไผ่ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอย่างมากแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสถึงวิถีชีวิตการดำรงชีวิตประจำวันของชาวบ้านที่ทำการเกษตรหลากหลายอย่างใกล้ชิดด้วย

>ชมภาพบรรยากาศเพิ่ม<<

อ.เสิงสาง  จังหวัดนครราชสีมา  จัดงานวันครู ประจำปี  2562 อย่างยิ่งใหญ่

อ.เสิงสาง  จังหวัดนครราชสีมา  จัดงานวันครู ประจำปี  2562 อย่างยิ่งใหญ่

ที่ผ่านมา  อ.เสิงสาง   ได้จัดให้มีการจัดงานวันครู  ประจำปี  2562  ขึ้น  โดยสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอำเภอเสิงสาง และกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การเดินขบวนพาเหรดที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของ อ.เสิงสางและการแข่งขันกีฬาวันครู  ประจำปี 2562  รวมทั้ง  พิธีบูชาบูรพาจารย์  โดย ดร.กิตติพงศ์ โด่งพิมาย ผอ.สพป.นครราชสีมาเขต3 ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี  และในภาคค่ำ ก็ได้มีการจัดกิจกรรมครูสัมพันธ์ 62 เพื่อเป็นการให้เพื่อนครูได้พบปะสังสรรค์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

การแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ 2562

การแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ 2562

ที่ห้อง เอ็มซีซีฮอลล์  ชั้น 3 เดอะมอลล์นครราชสีมา  ว่าที่ร้อยตรีนิรันดร์ ดุจจานุทัศน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด การแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ  2562  โดยมี พลเอก ดร.มารุต  ลิ้มเจริญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้กล่าวรายงาน   พร้อมด้วยนายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว  ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวต้อนรับนักกีฬาทุกท่าน

โดยสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา  ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย  และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ  ได้กำหนดให้มี ระหว่างวันที่  17-30 มกราคม 2562 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการสนับสนุนการพัฒนากีฬาระดับจังหวัด ให้นักกีฬาของจังหวัดนครราชสีมาได้มีประสบการณ์ในการแข่งขัน และยังเป็นการประลองฝีมือเพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเพิ่มมากขึ้น  โดยในการแข่งขันครั้งนี้มีจำนวนชนิดกีฬา ชนิดกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน  16 ชนิดกีฬา  และมีงบประมาณในการจัดการแข่งขันทั้งสิ้น  1,200,000  บาท

>ชมคลิปเพิ่มเติม<<

น่าชื่นชม จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจระดมกำลังดับไฟป่าบนเขามะค่าครบุรี

น่าชื่นชม จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจระดมกำลังดับไฟป่าบนเขามะค่าครบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจอำเภอครบุรี พร้อมด้วย กลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครควบคุมไฟป่าตำบลโคกกระชาย กว่า 30 คน นำโดยนายสมชัย หยุดกระโทก กำนันโคกกระชาย นำอุปกรณ์ต่างๆช่วยกันขึ้นไปดับไฟป่าที่กำลังลุกลามอยู่บนเขามะค่าเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี  ท้องที่บ้านมะค่า หมู่ที่ 4 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา  กันอย่างขะมักเขม้น แม้ว่าจะต้องเดินขึ้นภูเขาสูงชัน แต่ทุกคนต่างก็ทำงานกันอย่างเต็มที่

โดยไฟป่าดังกล่าว เริ่มเกิดขึ้นมาหลายวันแล้ว   แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกๆคน เป็นเวลากว่า 2 วัน จึงสามารถควบคุมไฟป่าจนสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้ไฟป่าเกิดปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

ทั้งนี้จากการสำรวจความเสียหายในเบื้องต้นพบว่าไฟป่าส่วนใหญ่จะไหม้ในส่วนของเศษวัชพืชและใบไม้แห้ง รวมถึงต้นกล้าไม้ ส่วนต้นไม้ใหญ่ได้รับความเสียหายบางส่วน คาดว่ามีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนี้ประมาณ 50 – 60 ไร่  ซึ่งหลังจากนี้ชาวบ้านจะยังคงเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศแห้งแล้ง มีเศษกิ่งไม้ใบไม้และหญ้าแห้งซึ่งเป็นเชื้อไฟได้ดีกระจายอยู่เต็มป่าจึงอาจจะทำให้เกิดไฟป่าขึ้นได้ทุกเมื่อ

>>ชมภาพข่าวเพิ่มเติม<<